:::     :::

จากคานางาวะถึงกาตาร์ เส้นทางลูกหนังที่เกินฝันของ คาโอรุ มิโตมะ

วันจันทร์ที่ 05 ธันวาคม 2565 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
7,917
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในช่วง 2 เดือนก่อนฟุตบอลโลกที่กาตาร์จะเริ่มขึ้น เชื่อว่าแฟนบอลพรีเมียร์​ลีก​หลายคนคงจะเริ่มคุ้นชื่อของ คาโอรุ มิโตมะ กันมากขึ้น จากผลงานสุดสะเด่าภายใต้สีเสื้้อของ ไบรท์ตัน

และไม่ใช่แค่กับสโมสรเท่านั้นที่เขาเล่นได้เด่น แต่กับในนามนักรบแห่งอาทิตย์​อุทัยนั้น มิโตมะ ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันเลยทีเดียว


คาโอรุ มิโตมะ คือนักเตะชาวญี่ปุ่นวัย 25 ปี เล่นในตำแหน่งปีกซ้ายเป็นหลัก แต่สามารถขยับมาเป็นกองหน้าตัวกลางได้ด้วย เส้นทางลูกหนังของเขาเริ่มต้นจากการเข้าร่วมในทีมเยาวชนของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ตั้งแต่อายุไม่ถึง 10 ขวบ ก่อนจะไต่เต้าไปเรื่อย ๆ และถูกดึงไปเล่นในชุดยู-18 ก่อนจะติดทีมตัวแทนของมหาลัยวิทยาลัยซึคุบะ ซึ่งที่นี่คือแหล่งปลุกปั้นผลผลิตของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ โดยตรงนั่นเอง


มิโตมะ เล่นในทีมมหาลัยได้อย่างโดดเด่น เขาเป็นตัวหลักที่ลงเล่นบนรายการ คันโต ยูนิเวอร์ซิตี้ ซ็อคเกอร์ ลีก ก่อนจะถูกเรียกไปเล่นในทีมชาติกับบอลรายการเล็ก ๆ อย่าง ยูนิเวอร์ซิเดะ ทัวร์นาเมนต์, เอเชี่ยน เกมส์ และ ตูลง ทัวร์นาเมนต์ ซึ่งในทุกรายการที่ว่ามาเขาทำผลงานได้ดีทุกทัวร์นาเมนต์




ในปี 2020 ชื่อของ มิโตมะ เริ่มเป็นที่พูดถึงในวงกว้างมากขึ้นหลังจากเขาเบียดขึ้นมาเป็นตัวจริงในทีม ฟรอนตาเล่ ได้สำเร็จ เขาโชว์ฟอร์มเป็นพระเอกในแนวรุกด้วยการพาทีมคว้าแชมป์เจลีก ควบกับแชมป์เอมเพอเรอร์ส คัพ โดยเขายิงได้ 18 ประตู 14 แอสซิสต์จาก 38 นัดในทุกรายการ 


ไฮไลต์เด่นของเขาคือการทำประตูชัยในเกมนัดชิงถ้วยเอมเพอเรอร์ส คัพ ส่วนในเกมลีกช่วง 7 นัดสุดท้ายที่กำลังคั่วแชมป์ เขาก็มีส่วนร่วมต่อการได้ประตูไปทั้งหมด 9 ลูก แบ่งเป็นยิง 2 แอสซิสต์ 7 จน ฟรอนตาเล่ ผงาดคว้าแชมป์ได้ในที่สุด


มิโตมะ ยิ่งเล่นยิ่งเด่น เขาเป็นกำลังหลักของ ฟรอนตาเล่ ที่ขาดไม่ได้ โดยตอนปี 2021 เขาเหมาสองประตูในนัดชิงถ้วยเจแปน ซูเปอร์คัพ พาทีมชนะ กัมบะ โอซาก้า คว้าแชมป์แรกของปี ก่อนจะยิงได้อีก 2 ประตู 2 แอสซิสต์จาก 3 นัดในถ้วยเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกต่างหาก


ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงเกินเบอร์ขนาดนั้น จึงทำให้ มิโตมะ ได้ฤกษ์​ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์​ลีก​ตอนช่วงซัมเมอร์ปี 2021 โดยเซ็นสัญญา​กันยาว 4 ปี พร้อมกับปล่อยตัวให้ ยูเนี่ยน เอสจี ทีมจากลีกเบลเยียมยืมตัวไปเล่นเพื่อปรับตัวกับฟุตบอลยุโรปเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล​


ช่วงเวลาในเบลเยียม มิโตมะ กลายเป็นปีกตัวทีเด็ดประจำทีมในเวลาอันรวดเร็ว เขายิงได้ 8 ประตู 4 แอสซิสต์จาก 28 นัดในทุกรายการ เกมแจ้งเกิดของเขาคือการทำแฮตทริกจากการลงสนามมาเป็นตัวสำรอง พาทีมพลิกกลับมาชนะ 4-2 ทั้งที่โดนนำไปก่อน 2-0 อีกด้วย 


แม้จะเล่นในเบลเยียม แต่ มิโตมะ ก็ได้รับการจับตามองจากฝั่ง ไบรท์ตัน อยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเขาก็ถูกทาง แกรห์ม พอตเตอร์ บรรจุชื่อเป็นหนึ่งในขุนพลชุดใหญ่ของทีมสำหรับสู้ศึกในฤดูกาล​ 2022-23


พอตเตอร์ ส่ง มิโตมะ ลงเดบิวต์ในสีเสื้อของ ไบรท์ตัน เกมแรกคือวันที่เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล 0-0 ซึ่งในวันนั้นเขาลงสำรองมาแทน เลอันโดร ทรอสซาร์ และปั่นป่วนแนวรับของสาลิกาดงได้เอาเรื่องเลยทีเดียว




แกรห์ม พอตเตอร์ เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวของ มิโตมะ พอสมควร เขาส่งดาวเตะชาวญี่ปุ่นลงตัวจริงเกมแรกคือในบอลถ้วยคาราบาวคัพที่ชนะ ฟอเรสต์ กรีน 3-0 ส่วนในเกมลีกยังไม่เคยส่งลงตัวจริงเลยสักครั้ง ส่วนใหญ่เป็นการลงสำรองช่วงท้ายเกม จึงไม่สามารถปล่อยของออกมาได้มากนัก


แม้ว่า พอตเตอร์ จะเป็นคนดึงเขาขึ้นมาอยู่ในทีมก็จริง แต่คนที่ช่วยให้เขารีดฟอร์มจนเด่นกลับเป็น โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กุนซือคนใหม่ของทีมที่มารับงานในเดือนตุลาคม


มิโตมะ ได้โอกาสลงสนามมากขึ้นในยุคของ เด แซร์บี้ จากเดิมที่ลงมาในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ก็ขยับขึ้นมาเป็น 45 นาที ก่อนจะออกสตาร์ตตัวจริงเกมแรกคือวันที่พบกับ เชลซี ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มเป็นพระเอกด้วยการปั่นป่วนแนวรับสิงห์บลูส์ตลอดทั้งเกม ทำไป 1 แอสซิสต์, เลี้ยงบอลผ่านตัวประกบสำเร็จ 100% และจ่ายบอลแบบคีย์พาสไป 2 ครั้ง พาทีมถล่มทีมใหม่ของเจ้านายเก่าไปเละเทะ 4-1


ฟอร์มในวันนั้นของ มิโตมะ ทำให้ เด แซร์บี้ เริ่มมั่นใจในฝีเท้าของดาวเตะจากเอเชียคนนี้มากขึ้น เขาถูกส่งเป็นตัวจริงต่อเนื่องในเกมลีกนัดต่อมาทันที ก่อนจะไม่ทำให้ผิดหวังเพราะนอกจากจะเล่นได้เด่นสุด ๆ ในแนวรุกแล้ว เขายังทำประตูแรกในสีเสื้อ ไบรท์ตัน ได้อีกด้วย พร้อมกับพาทีมชนะ วูลฟ์แฮมป์ตัน ไปอย่างสนุก 3-2


ขณะที่ในถ้วยคาราบาวคัพ มิโตมะ รับบทเป็นฮีโร่ของทีมอย่างไม่มีแผ่ว ด้วยการลงสนามมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง ก่อนจะทำประตูขึ้นนำ อาร์เซน่อล​ 2-1 และพาทีมปิดจ็อบด้วยการเอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-1 ถึงถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม นับว่าเป็นการยิงได้ 2 นัดติดต่อกัน และกำลังอยู่ในช่วงที่ท็อปฟอร์มไม่น้อยเลย




มิโตมะ เป็นปีกที่มีจุดเด่นคือความเร็วและมีความคล่องตัวสูง เขามีสปีดต้นที่ดีมาก อีกทั้งยังตอบโจทย์ของโค้ชในการเล่นเกมรับได้ด้วย เพราะสามารถสิ่งเพรสซิ่งและแย่งบอลได้เก่ง มีความขยัน และเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา


เขามีส่วนสูง 178 ซม. ถือว่าไม่ได้เล็กจิ๋วสามารถใช้ร่างกายเบียดเข้าปะทะกับกองหลังได้สบาย มีเซนส์บอลดี และที่เด่นอีกข้อคือมักจะหาช่องในการทำประตูได้เก่ง 


ผลงานในทีมชาติของเขาถือว่าไม่ธรรมดา ลงสนามไป 12 นัด ซัดไป 5 ประตู และทำได้ 1 แอสซิสต์ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ในเกมที่พลิกล็อคชนะสเปน อีกทั้งยังมีส่วนร่วมต่อการได้ประตูในเกมชนะเยอรมนีอีกด้วย โดยบทบาทของเขาคือการเป็นโจ๊กเกอร์ตัวทีเด็ดที่มักถูกส่งลงมาป่วนคู่แข่งในครึ่งหลัง


มิโตมะ ยอมรับว่าฟุตบอลโลกคือรายการที่เขาใฝ่ฝันถึงมาตั้งแต่เด็ก และไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของทีมในกาตาร์ครั้งนี้ด้วยซ้ำ เพราะเขาเพิ่งจะเริ่มมีส่วนร่วมกับทัพเจแปนไม่ถึง 20 นัด


จากบ้านเกิดที่คานางาวะ สู่ดินแดนผู้ดีที่พรีเมียร์​ลีก​และมาผจญภัย​ที่กาตาร์ นี่คือความฝันที่เกินจริงและเป็นขวบปีที่ก้าวกระโดดของ คาโอรุ มิโตมะ ชนิดที่เขาไม่เคยคาดหวังมาก่อน


จับตาดูเขาไว้ให้ดีครับ จบจากฟุตบอลโลกครั้งนี้เขาจะเป็นอีกหนึ่งสตาร์ที่น่าจับตามองมาก ๆ ในพรีเมียร์​ลีก​ไม่แพ้แข้งดังคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด