ทำให้ฤดูกาล 2022/23 จะมีโควตาตกชั้นถึง 4 ทีม และเลื่อนขึ้นมาจาก ลีก เดอซ์แค่ 2 สโมสรเท่านั้น ส่งผลการหนีตายระอุและรุนแรงอย่างมาก

ณ ปัจจุบันหลังจากผ่านไป 17 นัด แบรสต์ (13), โอแซร์ (13), สตราส์บูร์ก (11) และ อองเช่ร์ (8) คือ 4 ทีมที่จมโซนแดงมีคะแนนน้อยกว่าจำนวนนัดที่ลงสนาม

ไม่เพียงแค่ 4 ข้างต้นแต่ยังมีอีก 5 สโมสรอย่าง ตูลูส (19), ทรัวส์ (18), มงต์เปลลิเย่ร์ (17), น็องต์ (17) และ อฌักซิโอ (15) ที่มีคะนนไม่ถึง 20 แต้มและพร้อมกลายมาเป็นทีมที่อยู่ในโซนแดงแทนหากผลงานตกไปหรือไม่คงเส้นคงวาหลังจากนี้

นอกจากนั้นทีมที่อยู่ข้างบนขึ้นไปอย่าง แกลร์กมงต์ ฟุต (22), แร็งส์ (21) และ นีซ (21) ก็ประมาทไม่ได้เพราะเกิดฟอร์มตกทำแต้มหลุดมือขึ้นมาก็มีโอกาสหล่นลงสู่พื้นที่อันตรายได้ทุกเมื่อ

ทำให้การแข่งขันหรือแย่งชิงหนีพื้นที่ตกชั้นในซีซั่นนี้ดุเดือดอย่างมาก แต่ละทีมพยายามเสริมทัพและหาผู้เล่นที่จะสามารถยกระดับให้กับตนเองเพื่อเป้าหมายสำคัญคือการอยู่รอด

ยิ่งการตกชั้นเพิ่มเป็น 4 ทีมแบบไม่มีโควตาเพลย์ออฟ ทำให้แต่ละสโมสรต้องเน้นอย่างหนักในการลงสนามแต่ละเกม แต่ละคะแนนจะส่งผลตัดสินไม่มากก็น้อยเมื่อเวลาดำเนินไปถึงเส้นชัยในทุกขณะ

ที่น่ากังวลคงหนีไม่พ้น อองเช่ร์ ที่เสี่ยงมากกว่าใครๆ กับคะแนนหลักเดียวในซีซั่นนี้ แม้ฤดูกาลที่ผ่านมาจะทำได้ดีแต่มาปีนี้ฟอร์มหายไปพร้อมกับขุมกำลังที่ดูอ่อนยวบ

แม้จะมีสองดาวเตะอย่าง โซฟียาน บูฟาล กับ อัซเซดีน  อูนาอี อยู่ในทีมช่วงก่อนฟุตบอลโลก แต่ทั้งคู่ไม่สามารถผลักดันได้เต็มที่เนื่องจากปัจจัยโดยรอบทั้งนักเตะและอาการบาดเจ็บเล่นงาน (แถมมีโอกาสที่ทั้งคู่จะไม่อยู่กับสโมสรในเดือนนี้อีกต่อไปด้วย)

ไม่ต่างจาก สตราส์บูร์ก ที่ 2-3 ซีซั่นก่อนหน้าทำได้ดี แต่พอมาถึงฤดูกาลนี้ดันจมโซนท้ายตารางทำแฟนบอลแปลกใจกันยกใหญ่ จากทีมที่เล่นเกมรับได้ดีแต่กลับโดนไปแล้ว 31 ลูกเมื่อผ่าน 17 เกม

ทีมอื่นๆ ก็ไม่ต่างกัน หลังจากนี้ต้องพยายามเร่งพัฒนาผลงานขึ้นมา เพราะอย่างที่เรียนไปข้างต้นแต่ละคะแนนล้วนแล้วสำคัญอย่างมาก แต่ละเกมไม่ต่างจากรอบชิงชนะเลิศที่ต้องชนะหากต้องการถีบตัวเองขึ้นไปให้สูงกว่าเดิม

ปัจจัยดังกล่าวทำให้แต่ละสัปดาห์ที่ลงสนาม ทุกๆ ทีมไม่ว่าจะอยู่โซนท้ายที่พยายามหนีตายหรือโซนบนที่พยายามลุ้นแชมป์หรือโควตาบอลยุโรปต้องใส่กันแบบไม่ยั้งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตนเอง

แต่ท้ายที่สุดจะมี 4 สโมสรที่ตกชั้นอย่างแน่นอน ซึ่งแต่ะทีมหวังว่าคงจะไม่ใช่ตนเองที่อยู่ในโซนนั้นเมื่อเวลามาถึง

การตกชั้นบางครั้งก็ดูง่ายดายและไม่ต้องอธิบายแบบเจาะลึกมากเพราะมาจากผลงานที่ย่ำแย่กว่าทีมอื่นๆ แต่หลังจากนั้นคืองานหนักเพราะกว่าจะเลื่อนชั้นกลับมาได้ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างมหาศาล

หลายทีมจึงต้องการรักษาสถานะตนเองในซีซั่นต่อไป เพราะการหล่นชั้นบางทีอาจหมายถึงทีมแตกปล่อยแกนหลักออกไปและต้องมาสร้างกันใหม่ซึ่งบางครั้งใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเข้ารูปเข้ารอย

จึงน่าสนใจว่าหลังจากนี้รูปร่างหน้าตาของโซนท้ายตาราง ลีก เอิง 2022/23 จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ การแข่งขันจะทวีความรุนแรงเพื่อแย่งชิงไต่อันดับขึ้นไปหายใจอย่างสะดวก การไล่ล่าและฉีกหนีจะดุเดือดกว่าที่ผ่านมาแน่นอน

แม้จะเป็นลีกที่เคยถูกหลายคนมองข้ามหรือดูหมิ่นไม่น้อย แต่ช่วงที่ผ่านมาได้รับความสนใจและด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงน่าติดตามว่าท้ายที่สุดบทสรุปของฤดูกาลจะเป็นเช่นไร ... อีกไม่กี่เดือนคงได้ทราบกัน