ถือเป็นการย้ายทีมในรอบ 10 ปี ของดาวเตะเครางามเลยก็ว่าได้ เพราะหนล่าสุดที่มีการโยกย้ายเกิดขึ้นนั้น ต้องย้อนกลับไปถึงฤดูกาล 2013 ที่ตอนนั้นถูกปล่อยไปอยู่กับสิงห์ท่าเรือ (การท่าเรือ เอฟซี ในปัจจุบัน) ด้วยสัญญายืมตัวเช่นกัน
ซึ่งผลลัพธ์ของการย้ายทีมในครั้งนั้นก็จบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เพราะ "ก้อง" กลายเป็นตัวหลักให้กับ "สิงห์เจ้าท่า" โชว์ฟอร์มเทพในทุกนัดที่ลงสนาม และช่วยให้ทีมดังย่านคลองเตย จบฤดูกาลด้วยตำแหน่งรองแชมป์ คว้าตั๋วเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาล 2014 ก่อนถูกชลบุรี เอฟซี เรียกตัวกลับสโมสร และไม่ปล่อยให้ย้ายทีมอีกเลย
นี่คือหนึ่งในนักเตะที่มีแฟนคลับเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของสโมสร จึงไม่แปลกที่การย้ายทีมในครั้งนี้ จะทำให้แฟนๆ "ฉลามชล" ใจหาย ซึ่งแม้จะส่งผลกระทบอยู่บ้าง แต่ประธานสโมสร ชลบุรี เอฟซี อย่าง วิทยา คุณปลื้ม ก็ออกมายกย่องดีลนี้ว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม พร้อมชูมือสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้าก้องแบบเต็มที่ ดังบทสัมภาษณ์ที่กล่าวไว้ว่า "การเลือกออกเส้นทางที่ดูเป็นเซฟโซนในวัยการค้าแข้งของนักเตะรุ่นเท่าเค้า ก็เป็นเรื่องที่สโมสรชื่นชมและสนับสนุนการตัดสินใจของเค้าอย่างเต็มที่ ผมและคุณอรรณพ (สิงห์โตทอง) จะเอาใจช่วย เชื่อมั่นลึกๆ ว่าก้องระเบิดฟอร์มกับนครศรีฯ พาทีมเลื่อนชั้นได้อย่างแน่นอน"
สำหรับ "เกริกฤทธิ์" จัดเป็นหนึ่งในผลผลิตของฉลามชลมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก เขาเริ่มสร้างชื่อเสียงมาจากการเล่นฟุตบอลนักเรียนให้กับโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตามด้วยการติดเยาวชนทีมชาติไทยมาแทบทุกชุด เคยได้ทั้งเหรียญทองซีเกมส์ รวมไปถึงการคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ มาแล้ว (เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ ในปัจจุบัน) และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพที่ชลบุรี เอฟซี หรือมีช่วงที่ถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นให้สโมสรอื่นบ้างก็ตาม แต่จากประวัติการค้าแข้งก็บ่งบอกให้ทุกคนได้ทราบว่า ภาพจำของเขาในสีเสื้อ ชลบุรี เอฟซี นั้นชัดเจนที่สุด !!!
ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าตัวยังได้รับความไว้วางใจให้สวมเสื้อหมายเลข 10 ต่อจากตำนานนักเตะรุ่นพี่อย่าง พิภพ อ่อนโม้ อีกต่างหาก "ก้อง" จึงอยู่ในสถานะที่พร้อมสำหรับการขึ้นเป็นตำนานของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย ดีลการย้ายทีมของ "เกริกฤทธิ์" ในครั้งนี้ จึงถือเป็นเรื่องที่ท้าทายและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน สำหรับการตัดสินใจออกจากคอมฟอร์ทโซน ทั้งยังเป็นการลงไปเล่นในลีกที่ต่ำกว่าอีกด้วย
สำหรับสโมสรใหม่ของ "เกริกฤทธิ์" อย่างนครศรี ยูไนเต็ด นั้น ปัจจุบันยังคงนำเป็นจ่าฝูงของลีกพระรอง และยังฟอร์มดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อบุกไปชนะราชประชาในเกมเปิดเลก 2 เมื่อช่วงหัวค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ซึ่งแม้ในเกมนี้ "เจ้าก้อง" จะยังไม่ได้ประเดิมสนาม แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี และคงช่วยสร้างความมั่นใจให้ทีมได้อีกเป็นกอง
การออกจากคอมฟอร์ทโซนอีกครั้งของ "เจ้าชายฉลาม" ในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นเหมือนที่เคยทำได้กับการท่าเรือหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป
แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำมันได้สำเร็จหรือไม่ ก็คงเป็นแบบที่คุณวิทยาบอกไว้นั่นแหละ
"การเลือกออกเส้นทางที่ดูเป็นเซฟโซนในวัยการค้าแข้งของนักเตะรุ่นเท่าเค้า ก็เป็นเรื่องที่สโมสรชื่นชม" และคงไม่ใช่แค่สโมสรชื่นชมหรอก แฟนบอลอย่างเราๆ ก็อดยกนิ้วโป้งให้ไม่ได้
ขอให้สนุกและโชคดีกับการผจญภัยครั้งใหม่ในรอบ 10 ปีนะครับ
