หลังจากที่ชื่นมื่นกับฟอร์มการเล่นของแมนยูไนเต็ดที่บุกไปโชว์ฟอร์มสู้กับบาร์ซ่าได้อย่างไม่เป็นรองเลย เผลอแปปเดียวผ่านไปหนึ่งวัน แมนยูไนเต็ดก็จะต้องลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์ ที่ต้องเปิดบ้านเจอกับเลสเตอร์ซิตี้แล้ว
เราคงมีเวลาให้ดีใจกันแค่หนึ่งวันจริงๆตามที่เทน ฮากบอก หลังจากนั้นก็ต้องโฟกัสเกมต่อไปแล้ว และนี่คือคำให้สัมภาษณ์จาก EtH ที่จะอัพเดทเกมถัดไปให้ได้ฟังดังนี้
"มันขึ้นอยู่ที่ว่า ถ้าเราทำสิ่งที่ถูกต้อง เราเตรียมตัวพร้อม และเราอยู่ในจังหวะการเล่นเช่นนี้ติดต่อกันหลายสัปดาห์แล้ว เพราะงั้นแปลว่านักเตะของเราได้ไปนอนหลับพักฟื้นร่างกายมาอย่างดี ทานอาหารที่ดี ดังนั้นพวกเขาก็จะพร้อมสำหรับวันอาทิตย์อย่างแน่นอน"
"เราต้องรอดูพรุ่งนี้อีกทีว่าพวกเขาจะลงสนามเจอกับเลสเตอร์ได้หรือไม่ ก็อาจจะมี 1 หรือ 2 คนที่กลับมาลงเล่นได้"
"เกมอย่างการเจอบาร์เซโลน่า คุณคงไม่อยากจะพลาดโอกาสได้ใช้นักเตะอย่างมาร์ติเนซ หรือซาบิตเซอร์ลงเล่นหรอก พวกเขาเป็นนักเตะคนสำคัญสำหรับทีมเรามาก และก็จะได้กลับมาสู่ทีมแล้วด้วยซึ่งมันเยี่ยมเลย นี่จะทำให้ทีมเราแข็งแกร่งขึ้น เพราะงั้นถือว่าเราก็มีทีมที่ดีที่จะลุยวันอาทิตย์นี้"
เท่าที่ฟังจากบอส เราจะได้นักเตะคืนทัพกลับมาด้วยความสดสุดๆเพราะนัดที่แล้วไม่ได้ลง อย่างลิซ่า มาร์ติเนซ กับ มาร์เซลเทียรี่เด็ปป์ ซาบิตเซอร์ กลับลงมาสร้างความ "ตึง" ให้คู่แข่งเพิ่มมากขึ้น
และ 1 ใน 3 นักเตะที่เจ็บหมาดๆในช่วงนี้ อันโตนี่, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ น่าจะได้คืนสนามมาบ้างในทีมชุดสำรอง เดี๋ยวต้องดูภาพฝึกซ้อมในช่วงพรุ่งนี้ว่า ใครมีรูปบ้าง คนไหนมีภาพกลับมา แปลว่าเกมเจอเลสเตอร์มีสิทธิ์ลงมาช่วยทีมได้
ดูจากทรงแล้ว มาร์กซิยาลคงไม่หายมาง่ายๆแน่ๆ
ก็หวังว่าจะเป็นอันโตนี่ก่อนเพื่อน เพราะช่วงนี้อยากได้ปีกตัวกลั่นมาสลับกันลงเล่นมาก โดยเฉพาะฝั่งขวา
แต่แดนกลาง อย่าลืมว่าทีมจะยังอดใช้บริหารของคาเซมิโร่ ไปอีกหนึ่งเกมจากที่โดนแบนแดงตรงสามนัด เกมนี้คงจะต้องเป็นหน้าที่ของคู่หู เฟร็ด + ซาบิตเซอร์อีกครั้ง ในการคุมเกมแดนกลาง และป้องกันแนวรุกเลสเตอร์ที่จะโจมตีหลังบ้านแมนยู
เลสเตอร์อยู่ในฟอร์มที่โหดสุดๆ ไม่แพ้ใครมา 4 เกม และ 3 เกมล่าสุดชนะรวด ผลงานยอดเยี่ยมคือเสมอกับไบร์ตัน 2-2 / บุกไปอัดวิลล่า 2-4 และล่าสุด ขยี้ไก่ซะขนเหี้ยน 4-1 ด้วยเงื้อมมือของเจมส์แมดดิสัน อิเฮียนาโช่ และฮาร์วีย์ บาร์นส์ สามตัวรุกหลักของทีมที่กำลังท็อปฟอร์มโคตรๆ
ด้วยระบบ 4-2-3-1 ที่สวิตช์กับ 4-4-2 โดย Brendan Rodgers กลางของเลสเตอร์มีนักเตะหลายคนลงเล่นหมุนเวียนกันดี โดยเฉพาะตัวหลักอย่าง ทีลิมันส์ กับ ดูส์บิวรี่-ฮอลล์ โดยเฉพาะทีลิมันส์ นัดที่แล้วพักไปเพราะเจ็บน่อง เกมนี้น่าจะได้กลับมาแล้ว รวมถึง บูบาการี่ สุมาเร่ด้วย
แต่เด็กเก่าแมนยูไนเต็ดอย่าง จอนนี่ อีแวนส์ รวมถึง เจมส์ จัสติน และ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ยังไม่พร้อมลงสนามแมตช์นี้
ทรง 4-2-3-1 ในภาพนี้ดูจะแข็งแกร่ง และเหมาะสมกับทีมที่เล่นด้วยเป้าเดี่ยวแบบพวกเขามาก ทำให้เกมริมเส้นก็มีปีกขึงอยู่ เกมตรงกลางก็มีมิดฟิลด์ถึง 3 คนช่วยปกป้องพื้นที่ ดังรูปข้างล่างนี้
คนที่สามารถเติมขึ้นมายิงประตู 1-1 สุดสวยได้ในเกมถล่มคลับไก่ คือ น็อมปาลิส เมนดี้ ก็พร้อมที่จะลงเล่นเป็นตัวจริงในแมตช์นี้เช่นกัน เรียกว่ากลางของเลสเตอร์ก็ค่อนข้างแน่น
ยิ่ง Physical ของทีมดีๆแล้วด้วย ก็แอบเป็นห่วงเล็กๆว่าแมนยูที่กรำศึกต่อเนื่องกันมาไม่หยุด จะเจอเกมพละกำลังจ๋าๆเล่นงาน เหมือนที่โดนเพรสซิ่งสูงของลีดส์ยูไนเต็ด ดันเกมบุกให้เล่นรุกได้ยากหรือไม่
สิ่งที่แมนยูจะต้องทำคือ แพ็คเกมแดนกลาง และแบ็คโฟร์เพื่อหยุดแนวรุกที่กำลังคึกของเลสเตอร์ให้อยู่เท่านั้น ซึ่งพวกเขาคงชุดนี้มาหลายเกมแล้ว โดยมีเตเต้ เป็นตัวสอดแทรกอีกคนในตำแหน่งปีกขวา เล่นร่วมกับแมดดิสันตรงกลาง ถือว่าอันตรายมากจริงๆ ยิ่งอิเฮียนาโช่กำลังฟอร์มแรงๆอยู่ด้วย
เพราะล่าสุด อิเฮียนาโช่ สร้างหนึ่งแอสซิสต์ ไหลนิ่มๆให้แมดดิสันยิง และประตูเสียบมุมที่ชงเอง ยิงเองของเขา ทำให้แนวรับแมนยูไนเต็ดไม่สามารถประมาทกองหน้าตัวหลักของเลสเตอร์รายนี้ได้
เราโดนหมอนี่เล่นงานบ่อยๆ ด้วยความเร็วและความเฉียบคม แฟนผีคงจะจำความแสบและวีรกรรมหมอนี่ได้ดี
ในเรื่องแทคติก และ "กับดัก" ในการล่าจิ้งจอกตัวสดๆเหล่านี้ คือเกมกลางต่ำและแดนหลังของแมนยูไนเต็ดเอง
ขั้นตอนแรก หยุดเกมริมเส้นของพวกบาร์นส์ เตเต้ ให้ได้ก่อน ส่วนเจมส์แมดฯ อาจจะต้องระวังมากขึ้น เนื่องจากว่า "คาเซมิโร่" ในพื้นที่รับผิดชอบนั้น ยังติดโทษแบนเกมสุดท้าย ดังนั้นหน้าที่ตรงนี้ก็อาจจะเป็นเกมรับของ "เฟร็ด" ที่ต้องทำงานหนักในการไล่ประกบคีย์แมนอย่างแมดดิสันอีกครั้ง
"Key Battle" ในเกมวันนี้อาทิตย์นี้ คือการดวลกันโดยตรงของ Fred vs James Maddison นั่นเอง
เกมรับแมนยูต้องระวังให้ดีแมตช์นี้เบื้องต้น ซึ่งถ้าทีมวางข่ายป้องกันดีๆ ปีศาจแดงก็มีโอกาสเล่น Counter-attack สวนกลับตูมเดียวหายได้ เหมือนกัน เพราะกองหลังเลสเตอร์มีปัญหาเรื่องความผิดพลาดในการปล่อยสเปซด้านหลังแนวรับว่างให้เห็น
ถ้าโดนบุกสวนบ่อยๆก็มียุบให้เห็นเหมือนกัน เช่นภาพข้างล่างนี้ การยืนแนวรับของเลสเตอร์ที่จะเสียบอลและโดนสวนกลับ มันเห็นช่องทางชัดเจนที่แฮรี่ เคน ซึ่งรับบอลต่อจากซน เฮือง-มิน มีโอกาสเปิดให้อิวาน เปริซิช หลุดเดี่ยวคนเดี่ยวมาได้เน้นๆในช็อตนี้ สะท้อนปัญหาแนวรับของเลสเตอร์ได้ดี ยิ่งถ้าดันเกมสูงขึ้นมาสู้กับคู่แข่ง ยิ่งมีพื้นที่เปิดกว้างดังรูป
ต้องพูดกันตามตรงว่า ตอนนี้แนวรับของเลสเตอร์ไม่ได้อยู่ในระดับที่จะสร้างปัญหาแก่แนวรุกแมนยูได้แล้ว ทั้งแฮรี่ ซูตทาร์ กับ เวาท์ เฟส คู่เซ็นเตอร์แบ็คของเลสเตอร์ต่างเป็นหน้าใหม่ทั้งคู่ หลายๆเกมก็มีรั่วมีพลาดให้เห็นอยู่บ้าง
และที่สำคัญ ไม่น่าจะเอาแรชฟอร์ดร่างซุปเปอร์ไซย่าอยู่
เกมแพลนเจอจิ้งจอกในวันอาทิตย์นี้ นอกจากเรื่องการสร้างเกมครองบอลด้วย Possession Base เป็นหลักแล้ว การหยุดแนวรุกของเลสเตอร์ให้ได้ ถือว่าสำคัญมาก ถ้าไม่อยากต้องเหนื่อยยิงคืนทีละ 2 หรือ 3 ลูก
การวางกับดักหยุดเกมรุกเลสเตอร์ ถือเป็น Priority แรกๆของเกมวันนั้นเลย เพราะในบรรดาทีมครึ่งตารางล่าง อันดับ 11-20 เลสเตอร์เป็นทีมเดียวที่ประตูได้เสียติดลบน้อยที่สุด แค่ -2 เท่านั้น
เกมรับเหนียวเหรอ? เปล่าเลย เพราะเกมรุกเลสเตอร์คมมากต่างหาก
พวกเขาเสียไป 38 ประตูในลีก ก็ถือว่าเสียประตูเยอะพอๆกับเพื่อนในอันดับใกล้ๆกันนั่นแหละ เกมรับไม่ได้แข็งแกร่งอะไร แต่ที่เลสเตอร์บินสูงกว่าเพื่อน และลูกได้เสียลบน้อยกว่านั้น เป็นเพราะแนวรุกที่ยิงประตูได้เยอะถึง 36 ลูกในฤดูกาลนี้
11 ทีมด้านล่าง รวมถึงเชลซีอันดับ10 ไม่มีีทีมไหนยิงแตะ 30 ประตูเลย แต่เลสเตอร์ในอันดับ 13 ยิงไป 36 แล้ว เกมรุกถือว่าเฉียบคมมาก
ถ้าเทียบกับแมนยู เลสเตอร์ปีนี้ยิงได้น้อยกว่าแมนยูแค่ 2 ลูกเท่านั้น!!! (38 > 36) ไม่ธรรมดาจริงๆสำหรับการฟื้นคืนชีพกลับมาในช่วงหลังๆนี้ของเลสเตอร์ ที่พอสโมสรหมดหนี้หมดภาระ ปีหน้าก็น่าจะแกร่งกว่านี้เพราะน่าจะมีเงินเสริมทัพแล้ว
น่าสนใจว่าเบรนแดน รอดเจอร์ส จะเลือกเสริมจุดไหน เพราะแนวรุกก็กำลังดี ปีที่ผ่านมาซื้อแต่กองหลังราคาไม่แพงมาเสริมทั้งสิ้น ถ้าจะมีก็คงเป็นตัวแทนยูริ ทีลิมันส์ ที่กำลังจะหมดสัญญา และเป็นฟรีเอเจนท์ในตลาดซัมเมอร์นี้
แนวรุกของเลสเตอร์ จุดที่น่ากลัวคือการเติมเกมจาก เสริมเข้ามาให้ปีกที่หุบเข้าในไปเล่นกับตัวศูนย์กลางการทำเกมอย่าง เจมส์ แมดดิสัน และการวิ่งหาตำแหน่งพื้นที่กันนี้แหละ ที่สร้างบอลคอนเน็คชั่นให้เกมรุกของพวกเขามีความอิสระในการเข้าทำมากๆ
ทีมเวิร์คเกมรุกเลสเตอร์ค่อนข้างน่ากลัว และถ้าจุดติด ประตูมาแน่ๆ ดีไม่ดีเกมนี้อาจจะเป็นอีกนัดที่แมนยูไม่คลีนชีท เพราะโอกาสที่พวกเขาจะกดสูตรติด ก็มีเหมือนกัน
ทางที่ดีคืออย่าปล่อยให้เลสเตอร์ได้ครองบอลบุก และเฟร็ดกับซาบิตเซอร์จะต้องสกรีนแถวสองให้ดี เพื่อวางเป็นกับดักให้พวกเขามาติด ไม่ฉะนั้นก็จะเป็นเหมือนรูปข้างล่างนี้ ซึ่งการเคลื่อนที่ทำเกมในแดนกลาง สุดท้ายจึงเกิดเป็นประตูเข้าทำของฮาร์วีย์ บาร์นส์ (วงกลมสีฟ้า ตัวรับบอล) อย่างสวยงาม ที่มาจากทีมเวิร์คและการเคลื่อนที่หาตำแหน่งของเพื่อนซึ่งดึงตัวประกบไป
สร้างสภาวะ chaos ให้เกิดขึ้นในแนวรับ ทั้งๆที่บาร์นส์ ได้บอลคนเดียว แต่ไม่มีใครเข้ามาประกบเขาเลย จนสุดท้ายยิงจากนอกกรอบเข้าไป เป็นเพราะเพื่อนวิ่งทำทางหลอกแนวรับสเปอร์ส ซะเละเทะในรูปนี้
อยู่ตั้งห้าคน แต่โดนหลอกวิ่งทำทาง ไม่มีใครเข้าปิดบาร์นส์เลย
ทั้งหมดนี้จึงเป็นการวิเคราะห์ภาคการเล่น และจุดแข็งจุดอ่อนของเลสเตอร์ สรุปง่ายๆก็คือระวังเกมรุกของพวกเขานั่นแหละ ส่วนเกมรับ ค่อนข้างรั่ว
ทั้งหมดทั้งมวลจริงๆแล้วแมนยูไนเต็ดเล่นตามเกมตัวเองให้ได้ และระวังอย่าให้โดนก่อนก็พอ ไม่งั้นจะเป็นงานยากสำหรับเราที่ต้องใช้กำลังในการบุกเอาคืน ซึ่งมันจะเปลืองแรงมากกว่าปกติ ถ้าเราไม่เสีย และนำได้ก่อน เราจะคุมเกมได้ง่ายกว่าการเป็นฝ่ายไล่ตามมากนัก
สุดท้ายแล้วเกมสัปดาห์นี้ ส่วนตัวผู้เขียนเชื่อว่าชนะแน่ๆ โมเมนตัมของทีมตอนนี้อะไรมาฉุดก็หยุดไม่อยู่ ต่อให้ฟอร์มสะดุดไปบ้าง แต่แมนยูไนเต็ดชุดนี้กลับมาสู่เกมได้เร็วมากภายในนัดถัดไปก็จะกลับมาชนะต่อเนื่องได้แล้ว
เลสเตอร์คงไม่สามารถมาหยุดการไม่แพ้ใครติดต่อกัน 16 เกมที่นี่ได้ไหว และน่าจะเป็นชัยชนะที่ทำให้ช่องว่างของทีมบีบเข้าไปใกล้ขึ้นกว่าเดิมอีก เพื่อกดดันด้านบนสองทีมให้พวกเขาต้องรู้ว่า พลาดไม่ได้เด็ดขาด เกมเหล่านี้จะเป็นบททดสอบรายทางที่เราเจอไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดซีซั่น
ด้วยริธึ่มการเล่นของแมนยูในตอนนี้ เชื่อว่า "เอาอยู่"
การเปิดบ้านหาทางบุกเอาชนะเลสเตอร์ ทำเกมที่ยอดเยี่ยมในวันนั้นให้แฟนบอลเห็น ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถของทีมเราในตอนนี้แล้ว
การ์ดกับดักที่ถูกขึงเอาไว้ดักจับจิ้งจอก จะทำงานได้ดีในฟิลด์โอลด์แทรฟฟอร์ดอย่างแน่นอน
สามแต้มอาทิตย์นี้ไม่น่ายากเกินกำลังสำหรับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
รอเชียร์กันครับ
#BELIEVE
-ศาลาผี-
