"มันเป็นการโต้เถียงที่ดีต่อสุขภาพ" เอแมร์ซอน กล่าว
"อย่างที่เราพูดกันในโลกฟุตบอล การต่อสู้ที่ดี ผมอยากจะลงเล่น ส่วนเขาเองก็ต้องอยากที่จะเล่นด้วยเหมือนกัน สิ่งสำคัญก็คือเรามีผู้เล่นที่พร้อมต่อสู้เพื่อสิ่งนี้ และสโมสรก็ต้องการผู้เล่นแบบนั้น เรามีการแข่งขันที่ใหญ่ และเราก็ต้องการทุกคน"
ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ ปอร์โร่ มาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ขณะที่ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ถูกปล่อยไปยัง แอต. มาดริด แบบไร้ค่าตัว และ เจด สเปนซ์ ก็ถูกปล่อยยืมไป แรนส์ เอแมร์ซอน ก็คว้าโอกาสของเขาด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในเกมที่เอาชนะ แมนฯ ซิตี้
"บางทีมันอาจเป็นเกมที่ดีที่สุดของผมในสีเสื้อ ท็อตแน่ม" ดาวเตะวัย 24 ปี กล่าว
"มันเป็นเกมที่ผมสามารถรักษาสมาธิ และเอาชนะได้ทั้งหมดในการรับมือกับ แจ็ค กรีลิช"
เกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาเพิ่งจะทำประตูที่สองของตัวเองในพรีเมียร์ลีก ซึ่งจบลงด้วยการเอาชนะ เวสต์แฮม 2-0 ขณะที่เกมโดน เลสเตอร์ ถล่ม 4-1 นั้นเป็น ปอร์โร่ ที่ได้ออกสตาร์ทแทนเขา
นักเตะที่เพิ่งเซ็นสัญญาเข้ามาใหม่อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการด้านแท็คติกที่เข้มข้นของ อันโตนิโอ คอนเต้ และมันอาจต้องใช้เวลานานกว่าปกติเนื่องจากนายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนยังอยู่ในช่วงพักฟื้นจากการผ่าตัดถุงน้ำดี
"ผมเชื่อว่า คอนเต้ ไม่เคยหมดความมั่นใจในตัวผม" เอแมร์ซอน กล่าว
"เราได้พูดคุยกันมากมายตั้งแต่ต้นฤดูกาล ผมก่อความผิดพลาดในเกมกับ สปอร์ติ้ง ถ้าผมจำไม่ผิดอ่ะนะ แล้วเขาก็พูดกับผม เขาบอกให้ผมทำงานต่อไป และเขาไว้ใจผม"
"เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เขาต้องการช่วยเหลือนักเตะทุกคน เขามาที่นี่เพื่อสอน และผมมาที่นี่เพื่อเรียนรู้ ผมเองก็พยายามดึงเอาความรู้ที่ได้จากเขาออกมาให้ได้มากที่สุด และเขาก็ให้ผมมากมายในฐานะคนของเขา"
สเปอร์ส อาจจะมีปัญหาเรื่องความคงเส้นคงวา แต่พวกเขาก็ยังคงอยู่ในเส้นทางการแย่งชิงพื้นที่ท็อปโฟร์ โดยทำแต้มแซงหน้า นิวคาสเซิ่ล ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 หนึ่งคะแนน แม้จะแข่งมากกว่า 1 นัดก็ตาม โดยพวกเขาหวังจะซ้ำรอยกับที่เคยทำได้ในซีซั่นก่อนที่เบียดแซงหน้า อาร์เซน่อล คว้าตั๋วไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีกแบบฉิวเฉียด
"เราได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมายเป็นการภายใน" ฟูลแบ็กบราซิเลี่ยนกล่าว
"เราเป็นทีมที่มีศักยภาพสูง และเราก็สามารถแข่งขัน และต่อสู้เพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ แต่ด้วยฟอร์มยังไม่คงเส้นคงวา สิ่งนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เรารู้ว่าเราต้องอยู่ในรอดในทุกรายการ และต่อสู้เพื่อทุกสิ่งอย่าง"
"ในช่วงเวลาที่งวดเข้ามาแบบนี้ เราไม่สามารถมีช่วงเวลาขึ้นๆ ลงๆ หรืออะไรทำนองนี้ได้อีกต่อไปแล้ว ในสนามมันขึ้นอยู่กับเราที่จะมีสมาธิในระดับสูงที่สุด"
"ทุกอย่างยังคงเปิดกว้าง มันสูสีกันทุกทีม การชนะหรือแพ้สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างมากเลย และเรากำลังต่อสู้เพื่อพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก"
สุดท้ายนี้ เขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดกับการรอคอยถ้วยแชมป์อันยาวนานเกินไปแล้ว มันเป็นเวลา 15 ปีแล้วตั้งแต่ที่ สเปอร์ส คว้าถ้วยรางวัลครั้งสุดท้าย ซึ่งล่าสุดคือลีก คัพ เมื่อปี 2008
พรีเมียร์ลีก ยังคงอยู่ไกลเกินเอื้อม แต่พวกเขาก็ยังอยู่ในเส้นทางของรอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีก โดยเกมเลกแรกออกไปแพ้ เอซี มิลาน ที่อิตาลี 0-1 และพวกเขาจะต้องไปเยือน เชฟฯ ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพ รอบ 5 ช่วงปลายเดือนนี้
"เรารู้ว่ามันสำคัญแค่ไหน" เอแมร์ซอน กล่าวต่อ
"เรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในทุกรายการ เอฟเอ คัพ ก็เป็นถ้วยที่เราต้องการจะชนะให้ได้ เช่นเดียวกับการแข่งขันรายการอื่นๆ แต่เราก็ยังมีความหวังเต็มที่กับเอฟเอ คัพ และสำหรับแชมเปี้ยนส์ลีก นี่คือแชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรกของผม และผมต้องการช่วยทีมให้ไปถึงแชมป์ให้ได้"
