โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เดินหน้าคว้าชัยชนะ 8 เกมติดต่อกันจากการลงเล่นทุกรายการ นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2023 จนทะยานขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงบุนเดสลีกา โดยมี 43 คะแนนเท่า บาเยิร์น มิวนิค, ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมของรายการ เดเอฟเบ โพคาล และคว้าชัยชนะเหนือ เชลซี 1-0 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก

หลังการปราชัยต่อ มึนเช่นกลัดบัค 2-4 ในเกมส่งท้ายปี 2022 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนปีที่แล้ว นั่นทำให้ทีมของ เอดิน แทร์ซิช รูดมาอยู่อันดับ 6 และตามหลังจ่าฝูงถึง 9 คะแนน ก่อนเข้าสู่ช่วงเบรคหน้าหนาว 

แม้แต่สาวกทีมเสือเหลืองที่มองโลกแง่ดีอย่างที่สุดก็คงไม่อาจคาดการณ์ได้ว่า เบเฟาเบ จะฮึดกลับมาสู่ตำแหน่งผู้นำลีกร่วม บาเยิร์น มิวนิค และ อูนิโอน เบอร์ลิน โดยมี 43 คะแนนเท่ากันจากการลงเล่น 21 นัด ประมาณหนึ่งเดือนหลังการรีสตาร์ท ครั้งล่าสุดที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มองไปเบื้องล่างจากอันดับสูงสุดเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2019

อย่างไรก็ตาม มันเป็นศักราชใหม่ที่เต็มไปด้วยคำมั่นสัญญาใหม่สำหรับทีมที่น่าตื่นเต้นของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พวกเขาสามารถภาคภูมิใจได้ในฐานะสโมสรเดียวใน 10 ลีกชั้นนำของยุโรปที่ยังมีสถิติกำชัยชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2023

ทีมของ แทร์ซิช คว้าชัยชนะ 6 นัดรวดบนเวทีบุนเดสลีกาในการเผชิญหน้ากับ เอาก์สบวร์ก, ไมนซ์, เลเวอร์คูเซ่น, ไฟร์บวร์ก, แวร์เอร์ เบรเมน และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน โดยกระทุ้งรวมกัน 19 ประตู 

อีกสองเกมคือการเก็บชัยชนะเหนือ โบคุ่ม ในศึก เดเอฟเบ โพคาล รอบ 16 ทีม และเกมเปิดบ้านเชือด เชลซี 1-0 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก 

จากผลงานดังกล่าวทำให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กลายเป็นทีมที่ฟอร์มเข้าฝักสุดของเยอรมนี ด้วยความรู้สึกที่แท้จริงว่าบรรดาแข้งดาวเด่นของทีมเสือเหลืองเริ่มปรับตัวได้ดีกับทีมของ แทร์ซิช โดยมี 2-3 ปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ เบเฟาเบ ในปัจจุบัน

ความยอดเยี่ยมของ จูด เบลลิงแฮม

ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมรอบตัว จูด เบลลิงแฮม คุณแทบจะมองข้ามสิ่งที่เขาทำได้ดีสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า เขาเป็นจุดศูนย์กลางที่สมบูรณ์แบบในฐานะพลังขับเคลื่อนเกมของทีมเสือเหลือง

ทั้งพลังและความเฉลียวฉลาดของมิดฟิลด์วัย 19 ปี ที่อยู่แดนกลางมีส่วนร่วมทั้งการทำเกมรุก และแนวรับที่มั่นคงของ เบเฟาเบ โดยมีเพียง อูนิโอน เบอร์ลิน เท่านั้นที่เสียประตูน้อยกว่านับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2023

เบลลิงแฮม ลงสนามฐานะสำรองหลังลงเล่นแทน ซาลีห์ ออซชาน ช่วงนาที 65 ในเกมเปิดบ้านสยบ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 4-1 ในแมตช์เดย์ที่ 21 นั่นทำให้มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดที่ทำสถิติคว้าชัยชนะบนเวทีบุนเดสลีกาครบ 50 เกมด้วยอายุเพียง 19 ปี

ด้วยวุฒิภาวะของ เบลลิงแฮม ที่มีมากเกินวัยของเขาช่วยให้เพื่อนร่วมทีมโฟกัสไปที่งานเบื้องหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ขณะที่พวกเขาคว้าชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า เขาทำประตูและแอสซิสต์ในเกมชนะ เอาก์สบวร์ก 4-3 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นซีรี่ส์ที่ยอดเยี่ยมของทัพเสือเหลือง เขายังสวมปลอกแขนกัปตันทีมในเกมบุกชนะ เลเวอร์คูเซ่น 2-0 ในสัปดาห์ถัดมา รวมถึงเกมเปิดบ้านเชือดทีมสิงห์น้ำเงินบนเวทียุโรป

แรงสนับสนุนสำคัญ

ด้วยพรสวรรค์มากมายในทีมมีประโยชน์มากหากคุณเริ่มต้นปีใหม่ เช่นเดียวกับที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต้องการสร้างผลงานในการแข่งขันทั้ง 3 รายการ แต่คุณต้องการให้นักเตะคนสำคัญของคุณก้าวขึ้นมาในเวลาที่้เหมาะสมเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ

ยูเลียน บรันด์ท เป็นหนึ่งในนั้น หลังมิดฟิลด์วัย 26 ปีกำลังสนุกกับฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมในสีเสื้อ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยการทำ 8 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทุกรายการ 29 เกมในซีซั่นนี้ นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เลเวอร์คูเซ่น ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019

ด้วยสภาพร่างกายที่ดีขึ้นของมิดฟิลด์วัย 26 ปี และแรงผลักดันที่เพิ่มขึ้นได้สร้างความประทับใจให้ผู้ชมในฤดูกาลนี้ และ บรันด์ท ปรากฎชื่อในการทำสกอร์บ่อยครั้งด้วย

บรันด์ท เป็นคนทำประตูปิดกล่องจากชัยชนะเหนือ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 4-1 นั่นทำให้ บรันด์ท ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกาประจำเดือนมกราคม ด้วยผลงานการทำประตู 3 เกมติดต่อกัน ไม่น่าแปลกใจที่ แทร์ซิช จะรู้สึกประทับใจกับผลงานของมิดฟิลด์วัย 26 ปี โดยกล่าวว่า 'มันไม่ใช่แค่การวิ่งเท่านั้น แต่เป็นพละกำลังที่เขามอบให้ด้วย ยูเลียน ก้าวไปข้างหน้าอย่างชัดเจนในเรื่องนั้น'

อีกรายที่ถูกกล่าวถึงคือ คาริม อาเดเยมี่ แนวรุกวัย 21 ปีที่ย้ายมาจาก ซัลซ์บวร์ก มาค้าแข้งกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา เขาสร้างสถิติทำความเร็วสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบุนเดสลีกาในเกมชนะ ไฟร์บวร์ก 5-1 แต่แข้งวัยรุ่นยังต้องแสดงให้เห็นถึงความอันตรายในการทำประตูอย่างแท้จริง

อาเดเยมี่ ทำประตูแรกกับสโมสรใหม่ของเขาในเกมชนะ เลเวอร์คูเซ่น 2-0 ในเดือนมกราคม เขายังทำอีก 3 ประตูจากการลงเล่น 3 เกมติดต่อกัน ซึ่งรวมถึงการทำประตูชัยดับ เชลซี บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย หลังการคว้ารางวัลผู้เล่นรุคกี้ประจำเดือนมกราคม ก่อนแนวรุกวัย 21 ปีจะโชคร้ายบาดเจ็บจากเกมชนะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 4-1 และจะต้องพันฟื้นฟูร่างกายราว 3-4 สัปดาห์

มันมีหลายอย่างที่เกิดขึ้นเกียวกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นในแนวป้องกันของ โบรุสซีย ดอร์ทมุนด์ แต่ปัจจัยหลักที่ทำให้แนวรับของทีมเสือเหลืองแน่นหนามากขึ้นมาจากประสบการณ์ของ เอ็มเร่ ชาน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ นับตั้งแต่เขาออกสตาร์ทในเกมกับ ไมนซ์ มีส่วนช่วย เบเฟาเบ คว้าชัยชนะตลอด 5 เกมที่ผ่านมา

อีกหนึ่งจุดสำคัญคือผู้รักษาประตูที่กำลังเล่นด้วยความเชื่อมั่นอย่าง เกรกอร์ โคเบิล ซึ่งช่วยทีมเสือเหลืองเก็บคลีนชีต 7 เกมในฤดูกาลนี้ เขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะทำลายสถิติเก็บ 8 คลีนชีตในซีซั่นที่แล้ว และบางทีอาจมุ่งหวังถึงการทำลายสถิติส่วนตัวที่เขาเคยทำ 11 คลีนชีตในซีซั่น 2019-2020 ขณะค้าแข้งอยู่กับ สตุ๊ตการ์ท

การกลับมาของ มาร์โค รอยส์

เช่นเดียวกับเรือลำอื่นๆที่แล่นอยู่บนเส้นทางที่แข็งแกร่งเช่นนี้ มันจะจบลงในน่านน้ำที่ไม่มีใครสังเกตเห็น และการมีกัปตันทีมที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 

มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่การปราชัย 3 จาก 6 เกมบนเวทีบุนเดสลีกาซีซั่นนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ มาร์โค รอยส์ บาดเจ็บข้อเท้าที่ทำให้แนวรุกวัย 33 ปีต้องพักรักษาตัวตลอดช่วงฤดูใบไม้ผลิ เขาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญในการเจาะแนวป้องกันของคู่แข่งมานานกว่าทศวรรษ โดยทำประตูและแอสซิสต์บนเวทีบุนเดสลีกามากกว่า 100 ประตู

รอยส์ หวนคืนสู่ทีมในช่วงปีใหม่โดยมองหาจุดสูงสุดของพลังงานของเขา หลังจากได้พักระหว่างเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับ เชลซี ก่อนแนวรุกวัย 33 ปีจะกลับมาออกสตาร์ทในเกมกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เขาแอสซิสต์ให้ อาเดเยมี่ ทำประตูเบิกร่อง 1-0 ก่อนจะรับหน้าที่ปั่นฟรีคิกสุดสวยให้ทีมเสือเหลืองฉีกหนี 3-0 และนำทีมคว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 4-1

กัปตันทีมวัย 33 ปีกล่าวหลังจบเกมดังกล่าวว่า 'ทุกคนต่างกระหายที่จะคว้าแชมป์ แต่พวกเขาไม่สามารถยอมแพ้แม้แต่น้อยในสัปดาห์สำคัญที่กำลังจะมาถึง'

ความท้าทายสำหรับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คือการรักษาโมเมนตัมอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาต่อไป ในขณะที่ทีมเสือเหลืองเตรียมลงเผชิญหน้ากับทีมแกร่งอย่าง แอร์เบ ไลป์ซิก, เชลซี บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก, การทำศึกไรน์ดาร์บี้กับ ชาลเก้ และ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วง 6 เกมข้างหน้านี้