โบยาน เกร์กิช ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า ตอนอายุ 17 ปีกับ 19 วัน เขากลายเป็นแข้งอายุน้อยสุดที่ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อให้ตนเองในฤดูกาลแรกของเขา ในซีซั่นแรก 2007-2008, โบยาน ทำ 12 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 48 เกมกับทัพอาซูลกราน่า

ด้วยการแข่งขันที่รุนแรงและกดดันอย่างหนักทำให้เขาต้องย้ายออกจากเมืองหลวงของแคว้นกาตาลุนย่าหลังจบฤดูกาล 2010-2011 ไปค้าแข้งกับ โรม่า ของอิตาลี ซึ่งเขารู้เพียงเล็กน้อยว่าการย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า เป็นสัญญาณเริ่มต้นของการสิ้นสุดอาชีพค้าแข้งของเขา

กองหน้าวัย 32 ปีให้สัมภาษณ์กับ 'เดียรีโอ สปอร์ต' เมื่อเร็วๆนี้ โดยกล่าวถึงช่วงเวลาของเขาที่ บาร์เซโลน่า, การเกล่าวถึงการเปรียบเทียบกับ ลีโอเนล เมสซี่ กองหน้าชาวดังชาวอาร์เจนไตน์ รวมถึงหัวข้ออื่นๆที่น่าสนใจ

โบยาน เกิดที่เมือง ลินโยล่า ในเยอีด้าของแคว้นกาตาลุนย่า คุณพ่อของเขา โบยาน เกร์กิช ซีเนียร์ เคยค้าแข้งกับ โอเอฟเค เบโอการ์ด คุณแม่ของเขา มาเรีย ยุยซ่า เปเรซ เป็นชาวกาตาลัน เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ 'ลา มาเซีย' ศูนย์ฝึกของ บาร์เซโลน่า ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ 

ด้วยความเร็วและทักษะการเลี้ยงบอลที่น่าทึ่ง มีรายงานว่าเขาทำได้มากกว่า 900 ประตูจากการลงเล่นกับทีมเยาวชนรุ่นต่างๆ ซึ่งทำลายสถิติวัยเด็กของ เมสซี่ จากนั้นเขาก้าวขึ้นมาเล่นกับ บาร์เซโลน่า เบ ในฤดูกาล 2006-2007 จนกระทั่งเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกตอนอายุ 17 ปี 

โบยาน ลงเล่นเกมแรกกับ บาร์เซโลน่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2007 และทำหนึ่งประตูในเกมกระชับมิตรกับ อัล อาห์ลี ของอียิปต์ ซึ่งอดีตผลผลิตจาก 'ลา มาเซีย' ได้กล่าวถึงวิธีที่ผู้คนเปรียบเทียบเขากับ เมสซี่ ในช่วงปีแรกๆที่สโมสรและความกดดันจากสถานการณ์ดังกล่าว

'ไม่มีใครสอนอะไรผม ผมต้องเรียนรู้มันด้วยตัวเอง ผมต้องแข่งขันกับสิ่งที่ผู้คนพูดถึงผม พวกเขาบอกว่าผมคือ 'เมสซี่ คนใหม่' ตอนแรกผมไม่เข้าใจว่าผมจะตอบสนองความคาดหวังเหล่านั้นได้อย่างไร' โบยาน กล่าว

บางครั้งการยอมรับก็เป็นทางเลือกเดียวที่นำเสนอต่อบุคคลหนึ่ง และ โบยาน พบว่าตนเองมีจุดยืนคล้ายกันเหนือความคาดหวังที่ผู้คนมีต่อตัวเขา เขาอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับวิธีจัดการกับสถานการณ์เหล่านั้น

'ทีละเล็กละน้อย ผมเรียนรู้ที่จะถอยห่างจากสิ่งที่คนอื่นพูดถึง ผมรู้ขีดจำกัดของตัวเอง ผมยอมรับมันและระบุจุดแข็งของผมเพื่อกำหนดเป้าหมายใหม่'

โบยาน ลงเล่นกับ วิสเซล โกเบ เป็นสโมสรสุดท้าย ก่อนกองหน้าวัย 32 ปีจะแยกทางกับทีมดังของญี่ปุ่นในช่วงเดือนมกราคมปีที่ผ่านมาและกลายเป็นฟรีเอเจนต์มาจนถึงปัจจุบัน เขาได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับการก้าวทีละน้อยของนักเตะในห้องแต่งตัวและพัฒนาการของผู้เล่นอาวุโสมากขึ้นเรื่อยๆ 

'คุณเริ่มตระหนักถึงการมาถึงทีมชุดใหญ่ เมื่อคนที่คุณเป็นตอนนี้กลายเป็นแคแร็กเตอร์ คุณเปลี่ยนจากการเป็นคนนิรนาม เด็กที่มาจากหมู่บ้านของเขา เป็นคนที่ทุกคนรู้จัก ไม่มีใครสอนอะไรคุณเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย'

จากคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนทำให้ โบยาน แสดงความเห็นอกเห็นใจกับสถานการณ์ในปัจจุบันของ อันซู ฟาตี แนวรุกวัย 20 ปีของ บาร์เซโลน่า ผู้สืบทอดเสื้อหมายเลข 10 ต่อจาก เมสซี่ 

ฟาตี เป็นผลผลิตคนล่าสุดจากศูนย์ฝึก 'ลา มาเซีย' ของ บาร์เซโลน่า ที่ถูกเปรียบเทียบกับ เมสซี่ และยังเป็นผู้สืบทอดเสื้อหมายเลข 10 อันเป็นสัญลักษณ์ของตำนานชาวอาร์เจนไตน์ด้วย

โบยาน แสดงความเห็นใจ ฟาตี หลังแนวรุกวัย 20 ปีที่กำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเชื่อว่าเขาสามารถให้คำแนะนำแก่กองหน้าดาวรุ่งของทีมอาซูลกราน่าได้เช่นกัน

'ผมเคยมีประสบการณ์เหมือน อันซู ฟาตี ด้วยตัวผมเอง คุณสร้างความกระตือรือร้นอย่างมากในเวลาที่สโมสรต้องการ 'ผลผลิต' จาก 'ลา มาเซีย' และผมไม่ชอบพูดถึงมัน เพราะผมไม่ยากได้ยินมัน แต่นั่นคือวิธีที่เราปฏิบัติ'

อย่างไรก็ตามความกดดันในฟุตบอลมีน้อย โดยเฉพาะกับสโมสรอย่าง บาร์เซโลน่า ความกดดันที่จะชนะและทำผลงานได้คงเส้นคงวาในการลงหลักปักฐานกับทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่า ขณะที่ ฟาตี พบว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายกันจากการบาดเจ็บระยะยาว ซึ่ง โบยาน กล่าวถึงแนวรุกวัย 20 ปีว่า

'เมื่อคุณเริ่มเล่นได้ดีมาก ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี แต่เมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับบางอย่างที่เป็นส่วนหนึ่งของกีฬาประเภทนี้ อย่างเช่น การบาดเจ็บ มันคือช่วงเวลาที่คุณต้องทำงานหนักทั้งทางอารมณ์และจิตใจ คุณต้องมีเครื่องมือที่จะเอาชนะความท้าทายนั้น'

โบยาน ยังกล่าวถึงบทบาทของเทรนเนอร์ในการพัฒนานักเตะ พร้อมกล่าวเสริมว่านักฟุตบอลจะเก่งขึ้นได้เท่ากับจำนวนโอกาสที่มอบให้เขาเท่านั้น

'ในฐานะนักเตะ คุณจะขึ้นอยู่กับโค้ช เขาเป็นคนตัดสินใจว่าคุณจะลงเล่นหรือไม่ เมื่อนักเตะกำลังเล่นและรู้สึกว่ามีความสำคัญในทีม สิ่งต่างๆจะไปได้ด้วยดีและง่ายขึ้น ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเขาไร้โอกาส' 

โบยาน ย้ายไปค้าแข้งกับ โรม่า ด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโรในช่วงซัมเมอร์ปี 2011 ก่อนทีมหมาป่ากรุงโรมจะปล่อยนักเตะย้ายมาเล่นกับ เอซี มิลาน ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาลถัดมา เขาทำผลงานได้ดีกับทีมปีศาจแดง-ดำ จนกระทั่ง บาร์เซโลน่า จ่ายเงิน 13 ล้านยูโรดึงนักเตะหวนคืนถิ่น 'คัมป์ นู' อีกครั้งในช่วงหน้าร้อนปี 2013 ก่อนจะย้ายกองหน้าเชื้อสายเซิร์บย้ายมาเล่นกับ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาลนั้น

เขาย้ายมาอยู่กับ สโต๊ค ซิตี้ ด้วยค่าตัว 1.8 ล้านยูโรและเซ็นสัญญา 4 ปีกับทีมช่างปั้นหม้อ ระหว่างนั้นเขาย้ายมาเล่นกับ ไมนซ์ และ อลาเบส ด้วยสัญญายืมตัว ก่อนจะมุ่งหน้าสู่เวทีเมเจอร์ลีกด้วยการเซ็นสัญญากับ มอนทรีออล อิมแพ็คท์ ในเดือนสิงหาคมปี 2020 จากนั้น โบยาน ย้ายมาเล่นกับ วิสเซล โกเบ ในเดือนสิงหาคมปีถัดมาและแยกทางกับสโมสรดังเมืองปลาดิบตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว

นั่นคือเส้นทางอาชีพของ โบยาน อีกหนึ่งนักเตะที่ไม่สามารถรับแรงกดดันในฐานะ 'นิว เมสซี่' อย่างที่หลายคนคาดหวัง