เพราะนี่เป็นการคว้าชัยชนะ 3 เกมติดต่อกันทุกรายการของทีม
การออกไปเยือน “แข้งเทพ “ ถือว่าเป็นงานยาก และเป็นการพิสูจน์ฝีมือของกุนซือคู่อย่าง “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ และ “โค้ชอั๋น” สุรพงษ์ คงเทพ อย่างแท้จริง
อย่าลืมว่า ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นทีมระดับเกรด เอ ของไทยลีก เป็นทีมที่ผลงานคงเส้นคงวา มีสถิติยิงประตูและเสียประตูเป็นอันดับต้นๆ ของลีก
ที่สำคัญฟอร์มในบ้านเกมไทยลีกในฤดูกาลนี้ของพวกเขาแกร่งมาก แพ้เกมเดียวต่อ ราชบุรี เท่านั้น
แน่นอนว่าการบุกไปคว้า 1 แต้มกลับมาคงเป็นเรื่องน่ายินดีแล้ว แต่การคว้าถึง 3 แต้ม มันเหมือนโบนัส และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับทีมในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
ตอนนี้ การท่าเรือ รั้งอันดับ 6 ของตาราง จากการลงสนาม 21 นัด ชนะ 8 นัด เสมอ 9 นัด และแพ้ไป 4 นัด มี 33 แต้ม เมื่อพูดถึงแชมป์คงต้องยกธงขาวเรียบร้อยแล้ว
แต่ด้วยเป็นทีมเงินหนา มีการลงทุนคว้าผู้เล่นเกรดพรีเมียมเข้ามาเสริมทัพ และจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะแพงลิบ อย่างน้อยอันดับในตารางคะแนนต้องดีกว่าเดิม
ตอนนี้ การท่าเรือ มีคะแนนตามหลัง ชลบุรี ทีมอันดับ 3 ที่ทำคะแนนหล่นเรี่ยราดอยู่แค่ 3 แต้มเท่านั้น
หากไม่ได้แชมป์ หรือรองแชมป์ การจบฤดูกาลด้วยท็อปทรีของตารางคะแนนไทยลีกฤดูกาลนี้ คงเป็นอะไรที่ไม่เลวเกินไป
ต้องถือว่า “โค้ชโชค” กับ “โค้ชอั๋น” เข้ามาคุมทีมในช่วงเวลาที่พอเหมาะ เพราะนักเตะหลายๆ คนที่เจ็บและอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ค่อยๆ ตบเท้าฟิตกลับมาเป็นตัวเลือกในสนาม
ทำให้ทีมมีขนาดใหญ่และสามารถโรเตชั่นนักเตะได้คล่องขึ้น และวางแท็คติคการเล่นได้หลากหลายขึ้นไปอีก
ขณะที่ขุมกำลังใหม่ไม่ว่าจะเป็น 2 แข้งดีกรีทีมชาติไทย อย่าง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เริ่มจูนเครื่องกับเพื่อนร่วมทีมติดแล้ว
โดยเฉพาะ “เจ้ายิม” ที่ยิงประตูสุดสวยในเกมล่าสุด เอาจริง “เจ้ายิม” ฝีเท้าและเทคนิคดีอยู่แล้ว ขาดเพียงความมั่นใจเท่านั้น หากเขาอยู่ในร่างทอง ใครก็ยากจะหยุดเขาอยู่ นั่นจะทำให้ทีมมีอาวุธหลากหลายขึ้น
เกมต่อไปในการเปิดบ้านพบคู่ปรับอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด ย่อมทำให้อุณหภูมิในสนามระอุขึ้นไปอีก หาก “การท่าเรือ” คว้าชัยได้ ย่อมเหมือนพยัคฆ์ติดปีกเลยทีเดียว
ที่สำคัญมันทำให้พวกเขามีพลังบวกเดินหน้าล่าแชมป์ช้าง เอฟเอคัพ ที่เป็นถ้วยรางวัลเดียวที่พวกเขาได้ลุ้นอยู่ในฤดูกาลนี้
นอกจากนี้ถ้วยดังกล่าวยังเป็นการตัดสินอนาคตของ “โค้ชโชค” กับ “โค้ชอั๋น” ด้วยว่า จะได้ไปต่อกับทีมในฤดูกาลหน้าหรือไม่
บางทีคนที่พา “การท่าเรือ” พุ่งชนความสำเร็จคว้าแชมป์ช้าง เอฟเอคัพ อีกครั้งเหมือนปี 2019 อาจจะเป็นชายคนเดิมที่ชื่อ “โชคทวี” ก็เป็นได้
อย่าลืมว่านอกจาก “ฝีมือ” แล้ว “โชค” คืออีกปัจจัยสู่ความสำเร็จ แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนาแข่งยาก ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะ
เรียกว่าตอนนี้ “สิงห์เจ้าท่า” กำลังคึกจริงๆ
เห้ย เห้ย ท่าเรือ กลับมาแล้วเว้ย
