ขนาด “เอฟเอ คัพ” ความหวังเดียวของสโมสรในฤดูกาลนี้ที่ควรเน้น ก็ยังทะลึ่งปล่อยให้ โปลิศ เทโร บุกมาปู้ย่ำปู้บยีถึง ลีโอ สเตเดียม จอดป้ายเพียงรอบก่อนรองชนะเลิศ
DNA กระต่าย ที่ทีมพรีเซนต์หนักนาอย่าง แมตต์ สมิธ แม้แต่แฟนบอลพันธุ์แท้ยังส่ายหัว
บอลถ้วยรายการสำคัญจบลงไป บอลลีกยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง ฤดูกาลนี้ของ บีจี ปทุมฯ ได้พังไปเรียบร้อยแล้ว
ด้วยน้ำมือของตัวเอง…
เพราะหาก มาโกโตะ เทงุระโมริ ยังอยู่ ถนนลูกหนังบีจี อาจไม่ออกมาเวย์นี้
ทรงบอล แมตต์ สมิธ กับเฮดโค้ชญี่ปุ่นสวนทางกันสิ้นเชิง
จริงอยู่อดีตศิษย์เก่า ได้รับโอกาสให้สร้างทีมใน “ระยะยาว” ตั้งแต่การเปลี่ยนระบบการเล่นจากหลัง 4 เป็นหลัง 3 ผ่าตัดใหญ่ ใครไม่ตอบโจทย์แท็คติก หรืออยู่ในแผนทำทีมก็ออกไป แม้หลายคนจะเป็นแข้งหลักก็ตาม
แต่ปัญหาคือนักเตะใหม่ที่เข้ามา “ทดแทน” กันไม่ได้
ยังไม่นับรวมแข้งหลักอย่าง อิคซาน ฟานดี, ฉัตรมงคล ทองคีรี, อันเดรส ตูเญซ และ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ที่ยังบาดเจ็บอีก ทำให้ฟอร์มการเล่นยิ่งเป๋ออกทะเลกันไปใหญ่
ถึงกระนั้นศักยภาพทีมเองก็ยังไม่ถึงขั้นควรแย่ลงเหวขนาดนี้ และไม่ควรเป็นรองเกือบทุกทีม สิ่งที่พบเวลานี้คือ บรรดาทีมที่เจอกับ บีจี ปทุมฯ ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครกลัวเขาอีกแล้ว
ไทยลีกฤดูกาลนี้ของ บีจี ปทุมฯ ถูกรูดม่านปิดลงอย่างสมบูรณ์แล้ว ไม่ต้องไกลถึงการทำแต้มไล่หัวตาราง เอาแค่ประคองตัวเองอยู่กลางตาราง ไม่ให้หล่นไปอยู่โซนหนีตกชั้นก็พอ
ขณะที่ถ้วย ลีก คัพ ก็ใส่กันให้เต็มที่ ตกรอบไม่เป็นไร แต่หากทะลุเข้าชิงได้ถือเป็นโบนัสแฟนบอล
สิ่งที่สโมสรต้องทำเวลานี้คือ การเรียก “ศรัทธา” แฟนบอลกลับมาก่อน
อย่าปล่อยให้ผลงานย่ำแย่ไปมากกว่านี้ อย่าให้อัฒจันทร์คนดูลดลงไปกว่านี้ ตอบแทนแฟนบอลด้วยผลงานกับโปรแกรมที่เหลือ วางแผนงานแต่เนิ่น ๆ แล้วมาเริ่มใหม่อีกครั้งในปีหน้า
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลงกุนซือ คงเป็นหน้าที่ของบอร์ดบริหารตัดสินใจ ว่าเขามีมุมมองที่ต่างไปจากแฟนบอลอย่างไรหรือไม่ จะจัดการอย่างไร เดินเกมเปลี่ยนเร็ว ๆ นี้เลยไหม หรือปล่อยจอยไปก่อนยันจบฤดูกาลนี้
แต่ในมุมแฟนบอลอย่างเรา ที่ไม่ต้องไปลงเรียนอบรมไลเซนส์ หรือมองฟุตบอลให้ซับซ้อน ก็เข้าใจไปในทางเดียวกันได้ว่า แมตต์ สมิธ “มือไม่ถึง”
เพราะผลงานสามารถตอบแทนได้ดี ไม่โกหก
ทั้งแท็คติก รวมไปถึงการแก้เกม ก็แทบไม่ได้สร้างจุดเปลี่ยนอะไรให้ทีม ไม่ใช่ว่ารูปเกมดี แต่ผลงานแย่ เปล่าเลย นี่แย่ยกกำลัง 2
พูดกันแบบไม่เกรงใจ บรรดา “กุนซือขัดตาทัพ” ที่เป็นพนักงานบางกอกกล๊าสอยู่ ยังพอฝากผีฝากไข้ได้มากกว่า แมตต์ สมิธ ด้วยซ้ำ
แม้จะได้อ้างว่านี่คือการสร้างทีม “ระยะยาว” แต่เมื่อสถานการณ์ปัจจุบันยังดูแย่ ไม่เห็นทิศทางดีขึ้น อนาคตจะพอคาดหวังได้หรือไม่ ?
ใช่ แมตต์ สมิธ “ไม่ดื้อ” แต่เรื่องฝีมือก็ “ไม่ไหว”
