แต่ก็ไม่น้อยอีกเช่นกันที่พวกเขาต้องจ่ายให้กับผู้จัดการทีมที่จากไป

ในความเป็นจริงแล้ว 4 จาก 10 ผู้จัดการทีมที่ได้รับค่าชดเชยสูงที่สุดคืออดีตกุนซือ สิงห์บลูส์

อย่างไรก็ตาม ก็มีชื่อของผู้จัดการทีม สเปอร์ส 2-3 คนอยู่ในนั้น รวมถึง นูโน เอสปิริโต้ ซานโต ที่ได้เงินเมื่อฤดูกาลที่แล้วไป 14 ล้านปอนด์

แดเนียล เลวี่ เลือกที่จะชิงลงมือเร็วแม้จะมีรายงานว่าเขามีสิทธิ์ไล่อดีตนายใหญ่ วูล์สฟ์ ออกแบบไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยในซัมเมอร์ ปี 2022 หากพวกเขาหลุดกลุ่มท็อปซิกซ์

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดน แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ออกในเดือนพฤศจิกายนต่อจาก นูโน่ แต่เขาก็ได้เงินชดเชยเพียง 7.5 ล้านปอนด์เท่านั้น

1.อันโตนิโอ คอนเต้ (เชลซี, 2018) - 26.2 ล้านปอนด์

การมีปัญหาขัดแย้งกับ เอแด็น อาซาร์ และ ดีเอโก้ คอสต้า ซึ่งเป็นที่รักของแฟนๆ ทำให้เขามีปัญหากับกองเชียร์ สิงห์บลูส์

นายใหญ่ที่ตอนนี้กำลังตกที่นั่งลำบากกับ สเปอร์ส พา เชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ ตั้งแต่ฤดูกาลแรกของเขาในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่เขาก็ทำทีมจบอันดับที่ 5 และหลุดโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นที่สองของเขา

2.โชเซ่ มูรินโญ่ (แมนฯ ยูไนเต็ด, 2018) - 19.6 ล้านปอนด์

นี่คือกุนซือที่ประสบความสำเร็จมากมาย แต่แฟนๆ ยูไนเต็ด ไม่สามารถยอมรับการมีอดีตนายใหญ่ เชลซี ได้

สไตล์ากรเล่นฟุตบอลของเขาทำให้หลายคนในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รู้สึกหงุดหงิด แต่สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปหลังจาก เอริก เทน ฮาก เข้ามาในซัมเมอร์ที่แล้ว

3.โชเซ่ มูรินโญ่ (เชลซี, 2007) - 18 ล้านปอนด์

เดอะ สเปเชียล วัน ต้องออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ขณะที่เหลือสัญญาอีก 3 ปี ในปี 2007 ซึ่งนั่นทำให้เขาได้รับผลตอบแทนที่งดงาม

นักเตะหลายคนต่างเสียน้ำตากับการจากไปของเขา โดยเขาพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ตลอด 2 ฤดูกาลแรกที่คุมทัพ

4.โลร็องต์ บลองก์ (เปแอสเช, 2016) - 17 ล้านปอนด์

แม้แต่ตำนานทีมชาติฝรั่งเศส อย่าง โลร็องต์ บลองก์ ก็ไม่สามารถเอาชนะสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นถ้วยอาบยาพิษที่ เปแอสเช ได้

เขาถูกแทนที่โดย อูไน เอเมรี่ ซึ่งกลายเป็นช่วงเวลาที่น่าสังเวชยิ่งกว่าเดิมก่อนที่เขาจะไปต่อยัง อาร์เซน่อล และก็ยังคงเจอกับความผิดหวังเหมือนเดิม

5.โชเซ่ มูรินโญ่ (สเปอร์ส, 2021) - 15-20 ล้านปอนด์

การจากไปของ มูรินโญ่ ที่ สเปอร์ส ทำให้อาชีพกุนซือของเขามีรายได้จากการถูกตะเพิดสูงรวม 77.5 ล้านปอนด์

เขาถูก ไก่เดือยทอง ไล่ออกก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ ซึ่งทำให้เขาหมดโอกาสคุมทีม และพยายามคว้าถ้วยแชมป์แรกให้ สเปอร์ส ตั้งแต่ปี 2008

6.นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต (สเปอร์ส, 2021) - 14 ล้านปอนด์

สิ่งต่างๆ เริ่มต้นเหมือนฝันสำหรับอดีตผู้จัดการทีม วูล์ฟส์ ซึ่งคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือนสิงหาคม หลังจากคว้าชัยได้ทั้ง 3 เกมแรก

แต่การออกสตาร์ทนั้นกลายเป็นภาพลวงตา และกลายเป็นฝันร้าย เมื่อเขาพาทีมแพ้ 5 จาก 7 นัดถัดมา โดยเสีย 16 ประตูในช่วงดังกล่าว

7.หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ (เชลซี, 2009) - 13.6 ล้านปอนด์

แฟนสิงห์บลูส์ พากันตื่นเต้นใหญ่ เมื่อพวกเขาได้คนที่พาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โลกมาทำทีม

แต่ 7 เดือนถัดมา พวกเขาต้องมีแต้มตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง 7 คะแนน โดยรั้งเพียงอันดับ 4 และ สโครารี่ ก็ออกไป ก่อนที่ กุส ฮิดดิ้งค์ จะเข้ามาแทน

8.ฟาบิโอ คาเปลโล่ (ทีมชาติรัสเซีย, 2015) - 13.4 ล้านปอนด์

สมาคมฟุตบอลรัสเซีย ตัดสินใจทุ่มเงินครั้งใหญ่ด้วยการจ้างเทรนเนอร์ระดับตำนานอย่าง คาเปลโล่ เข้ามาทำงาน

แต่เขาก็ล้มเหลวในฟุตบอลโลกที่บราซิล โดยรัสเซียตกรอบแรกแบบไม่ชนะใครเลย และด้วยการเริ่มต้นรอบคัดเลือกยูโรที่ย่ำแย่ก็ทำให้เขาถูกไล่ออกไป

9.โธมัส ทูเคิ่ล (เชลซี, 2022) - 13 ล้านปอนด์

แม้จะประสบความสำเร็จพาทีมคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก และจบในพื้นที่ท็อปโฟร์ท่ามกลางปัญหามากมายภายในสโมสร ทว่าจากนั้น ทูเคิ่ล ก็โดนไล่ออกหลังจากออกสตาร์ทซีซั่นถัดมาอย่างย่ำแย่

กุนซือชาวเยอรมันถูกแทนที่โดย เกรแฮม พ็อตเตอร์ ซึ่งพยายามดิ้นรนเพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของทีม และสถานการณ์ก็เริ่มจะดูดีขึ้นมาบ้างแล้วหลังผ่านด่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกได้

10.เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ (สเปอร์ส, 2019) -12.5 ล้านปอนด์

ในเวลาน้ัน โปเช็ตติโน่ ที่อุตส่าห์พา ไก่เดือยทอง ไปถึงนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก ได้ ต้องพบว่าทีมของเขากำลังดิ้นรนกับอันดับที่ 14 ในตาราง

แต่เขาก็ได้โอกาสอีกเล็กน้อย เนื่องจากแฟนๆ สเปอร์ส หลายคนต้องการให้เขาได้อยู่คุมทีมต่อไป