อาจดูเป็นผลงานที่สวยหรูก็จริง แต่กว่าที่ทีมจะลงตัวและท็อปฟอร์มได้ขนาดนี้ "โค้ชหาญ" ก็ต้องเจอกับอุปสรรคในเรื่องต่างๆ มาไม่น้อยเช่นกัน

ไล่ตั้งแต่การที่เขาต้องขึ้นมาทำหน้าที่เฮดโค้ชเพียงคนเดียว เนื่องจากคนคุ้นเคยอย่าง "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม ยื่นเรื่องขอลาออกในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลเพียงไม่กี่วัน รวมไปถึงงบประมาณในการเสริมทัพที่มีไม่เยอะ ทีมจึงแทบไม่ได้ผู้เล่นเกรดเอเข้ามาเลย

ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ก็ส่งผลให้ "โค้ชหาญ" และลูกทีมเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างไม่ดีจริงๆ ในช่วงแรก และมันส่งผลกระทบจนถึงขั้นที่แฟนบอลเคยกดดันให้ลาออกมาแล้ว

แต่ทว่าสิ่งที่ "โค้ชหาญ" เลือกทำนั้น คือการเงียบและไม่ออกมาตอบโต้ใดๆ เลยสักครั้ง และในทางกลับกัน ก็ยังเลือกที่จะปรับปรุงผลงานในสนาม พร้อมให้มันเป็นตัวส่งเสียงแทนอีกต่างหาก 

แม้จะจบเลกแรกด้วยอันดับที่ 11 และมีแต้มตามหลังจ่าฝูงในเวลานั้นถึง 13 คะแนน จนดูท่าว่าจะหมดลุ้นเลื่อนชั้นก็ตาม แต่ผลการแข่งขันบอกว่าในช่วงเลก 2 ที่กลับมาเซิ้งแข้ง ตราด เอฟซี สามารถเก็บชัยชนะไปได้ถึง 10 จาก 13 นัดที่ลงสนาม เรียกว่าดีที่สุดในบรรดา 18 ทีมที่ลงทำการแข่งขัน 

แค่นั้นยังไม่พอ "โค้ชหาญ" ยังพาลูกทีมสร้างสถิติชนะมากที่สุดของฤดูกาลได้อีกด้วย ซึ่งมันเกิดขึ้นในแมทช์เดย์ 28 ที่ตราดฯ บุกไปถล่มทีมบ๊วยอย่างอุดรธานี เอฟซี ถึง 8-0 

อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องยกนิ้วให้ ก็คือการปลุกวิญญาณเพชรฆาตให้กับ โมฮาเหม็ด เอสซาม แนวรุกสัญชาติอียิปต์ที่ย้ายมาจากนครปฐม ยูไนเต็ด โดยก่อนหน้านี้ในช่วงเลกแรก เอสซามพึ่งยิงให้กับต้นสังกัดเก่าไปเพียงแค่ 2 ประตูเท่านั้น แต่เมื่อมาอยู่ในคอนโทรลของ "โค้ชหาญ" เจ้าตัวก็เปลี่ยนเป็นคนละคน เพราะสามารถยิงเพิ่มได้อีกถึง 11 ประตู ทะยานขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นๆ ของอันดับดาวซัลโวประจำฤดูกาลทันที

จากผลงานและสถิติที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ จึงช่วยส่งให้ตราด เอฟซี พุ่งขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของศึกไทยลีก 2 และมีลุ้นกลับไทยลีก ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น 

และถ้ายังจำกันได้ ตราด เอฟซี ก็เคยเกือบเลื่อนชั้นมาแล้วในฤดูกาลก่อนหน้านี้ หลังนำเป็นจ่าฝูงอยู่หลายสัปดาห์ ก่อนผลงานจะดร็อปลงจนต้องไปเตะเพลย์ออฟ และพลาดท่าถูกลำปาง เอฟซี ตีเสมอในช่วงท้ายเกม พลาดตั๋วลุยไทยลีก 1 อย่างน่าเสียดาย ซึ่งตัวของ "โค้ชหาญ" ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย

ไม่แน่ใจว่าการเป็น "ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง" ในวันนั้น จะกลายมาเป็นแรงจูงใจชั้นดีให้กับ "โค้ชหาญ" ในวันนี้รึเปล่า เพราะผลงานตอนนี้ของตราด ร้อนแรงจริงๆ และมีโอกาสสูงมากๆ ที่จะได้ลบล้างความผิดหวังจากคราวก่อน เพราะเหลือการแข่งขันอีกไม่เยอะแล้ว โดยเฉพาะในนัดล่าสุดที่เปิดบ้านเอาชนะ อุทัยธานี เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 2-1 ทำแต้มทิ้งห่างอันดับ 2 ไปถึง 4 คะแนนเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปนั้น จะเป็นนัดที่ 32 ของทุกทีม และตราด เอฟซี จะต้องเปิดออกไปเยือนของทีมที่ลุ้นเลื่อนชั้นด้วยกันอย่างนครปฐม ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน 2566 ซึ่งถ้าจบนัดนี้แล้วยังได้ผลการแข่งขันที่ดี โอกาสในการเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติก็จะยิ่งใกล้เข้ามาอีก เพราะจะเหลือการแข่งขันอีกเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น 

ซึ่ง 2 นัดดังกล่าว ตราดฯ จะได้เล่นในบ้านทั้งหมด และถือเป็นเกมแห่งชีวิตของหาญณรงค์ ชุณหะคุณากร และลูกทีมอย่างแท้จริง เพราะถ้าทำได้สำเร็จ นอกจากจะได้สิทธิ์กลับไปลุยไทยลีก 1 อีกครั้งนึงแล้ว ก็จะเป็นการลบฝันร้ายจากปีก่อนได้อีกด้วย

จาก "ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง" จะเปลี่ยนสถานะเป็น "ผู้ถูกเลือกให้สมหวัง" ได้หรือไม่ ภารกิจเลื่อนชั้นของ "โค้ชหาญ" และทีม "ช้างขาวจ้าวเกาะ" ต้องติดตามกันแบบห้ามกะพริบตาเลยทีเดียว

เอาใจช่วย และขอให้สถานะเปลี่ยนเป็นอย่างหลังนะ