"ผมได้พูดคุยกับผู้จัดการทีมทางโทรศัพท์ ผมเริ่มมองเห็นว่าตัวเองน่าจะย้ายไปอยู่กับยูไนเต็ดได้ และโชคดีพวกเขาเดินเรื่องทันที ผมเองก็เช่นกัน สุดท้ายแล้วการได้ย้ายมาอยู่ที่นี่มันเป็นอะไรที่พิเศษมากจริงๆ

ในอดีตก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด เอริคเซ่นเคยเป็นผู้เล่นของอาแจ็กซ์, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ และ เบรนท์ฟอร์ด ที่ได้เคยมาเยือนสนามแห่งนี้ แต่เขาบอกว่ากลิ่นอายของสนามมันเปลี่ยนไปเมื่อได้มีโอกาสย้ายมาลงเล่น ณ สนามอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อยู่เป็นประจำแทนในฤดูกาลนี้

เอริคเซ่นลงสนามในทุกรอบที่ผ่านมาของคาราบาวคัพก่อนที่เขาจะพลาดเกมนัดชิง เพราะงั้นเขาจึงได้รับเหรียญแชมป์ร่วมกับเพื่อนๆในทีมด้วย

"ถือว่ายังไม่ได้จริงๆ ยังๆ ผมอยากจะได้เหรียญหนึ่งแบบมีอะไรๆหน่อย มันไม่เหมือนกันนะถ้าคุณไม่ได้ลงเล่นรอบชิง"

"ชัดเจนว่าผู้ที่ได้ลงเล่นอยู่ในสนามพากันเฉลิมฉลอง และทำอะไรที่พวกเขาต้องการ ส่วนผมเดินกะเผลกในบู้ต พยายามจะไม่ขยับตัวทำอะไรเยอะมากนัก แต่ก็ยังอยากเป็นส่วนหนึ่งในนั้นอยู่เหมือนกัน"

เมื่อย้อนกลับไปตอนช่วงที่บาดเจ็บจากการโดนเสียบเข้าที่ข้อเท้าของนักเตะเรดดิ้งอย่าง แอนดี้ แคร์โรล เอริคเซ่นรู้เลยทันทีว่ามันหนักแน่ๆ

"ใช่ ผมรู้สึกอะไรบางอย่าง คือตามปกติถ้าคุณขยับข้อเท้าคุณจะรู้สึกได้บ้าง ผมก็ยืนขึ้นมา รู้สึกไม่เป็นอะไร น่าจะเล่นได้ แต่หลังจากนั้นผมรู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติ ผมรู้สึกบริเวณน่องและสูงขึ้นมา ผมคิดว่าผมอาจจะทนได้ แล้วเราก็ทำประตูสำเร็จ มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม เราชนะเรดดิ้ง1-0 มันเป็นวันที่ดีและหวังว่าจะไม่มีอะไรหนักหนา แต่แล้วมันก็มีจนได้"

และเมื่อพิธีกรรายการของ UTD Podcast ถามขึ้นมาว่า เขาอยากที่จะเอาคืนบ้างไหม ดาวเตะทีมชาติเดนมาร์กปฏิเสธทันควันและตอบกลับมาอย่างสวยงาม

"ไม่เลย ผมไม่ได้เป็นคนแนวแบบนั้น(ฮา) บางทีถ้าเป็นยุคปี99อาจจะไม่เป็นแบบนี้นะ แต่ไม่อ่ะ ผมไม่ได้เจ้าคิดเจ้าแค้น"

"ถ้าจะมีอะไรก็คือเรื่องน่าแปลกใจมากที่ผมงงนะว่าเขาไม่ได้อะไรเลยแม้แต่ใบเหลือง ผมนี่งงมาก แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่ได้มีความคิดในแนวๆนั้นที่จะไปล้างแค้น"

ปัจจุบันทีมอยู่อันดับสี่ และอยู่ในสถานะที่ดีที่จะไปแชมเปี้ยนส์ลีกในปีหน้า ขณะที่ถ้วยรางวัลก็มีคาราบาวคัพอยู่ในมือแล้วหนึ่งถ้วย แถมยังมีโอกาสคว้าแชมป์ได้อีกสองรายการซึ่งยังเป็นไปได้อยู่ ในตอนนี้ที่ทีมเตรียมตัวลงเล่นในยูโรปาลีกรอบแปดทีมสุดท้าย และเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศ

ในเรื่องนี้เอริคเซ่นชื่นชมนายใหญ่อย่างเทนฮากเอาไว้ดังนี้

"เขานำเอาระเบียบวินัยเชิงฟุตบอลเข้ามา รวมถึงไอเดียต่างๆ ไอเดียของเขาถูกฝังลงในตัวของนักเตะ เมื่อเทียบไปยังตอนแรกแล้ว ดูพวกเขาตอนนี้ ผู้คนรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันบ้างในสนาม"

"ผมจึงคิดว่าเขาวางโครงสร้าง วางระเบียบวินัยเอาไว้ นอกจากนั้นแน่นอน ไอเดียของเขาคือการเล่นฟุตบอลให้สนุก"

"ถ้าคุณเอาไปเปรียบเทียบดูกับเกมแรกๆของซีซั่น ผมคิดว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าเรามีถ้วยแชมป์ติดมือแล้วซึ่งมันยอดเยี่ยมมากถ้าเทียบกับจุดเริ่มต้นของเรา และของผมที่เพิ่งย้ายเข้ามาในฐานะนักเตะใหม่"

 "แต่ผมคิดว่าในทางฟุตบอลแล้ว แน่นอนว่ามันยังพัฒนาไปได้อีก ผมมั่นใจว่าผู้จัดการทีมก็จะพูดแบบเดียวกับผมนี่แหละ มันมีอีกหลายอย่างที่จะต้องพัฒนาขึ้น แน่นอนว่าสำหรับในลีกเรายังห่างในจุดนั้น แต่กับบอลถ้วย เราก็อยากจะไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้"

"แน่นอน เราอยากคว้าแชมป์มาอีกให้ได้"

-Christian Eriksen-