:::     :::

ท็อปลิสต์ "10 สุดยอดปีกซ้าย" ท้ายซีซั่น 2022/23

วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2566 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
24,606
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่คือการจัดอันดับโดยเว็บไซต์ FourFourTwo ว่า "10 สุดยอดปีกซ้าย" ในฟอร์มปัจจุบันของฤดูกาล 2022/23 ใครคือตัวท็อปของตำแหน่งที่มีตัวผู้เล่นเก่งๆเยอะที่สุดในโลกของฟุตบอลยุคนี้ ไปดูกัน

ตำแหน่งปีกซ้ายสมัยก่อน มีแต่ภาพจำที่ว่าจะต้องเป็นปีกตัวพริ้วที่หาคนเล่นเก่งๆยากเนื่องจากต้องเล่นบอลด้วยเท้าซ้ายเท่านั้นถึงจะเล่นตำแหน่งนี้ได้เก่ง

แต่เทคโนโลยีและวิวัฒนาการของฟุตบอลเปลี่ยนไป จากปีกที่คอยเปิดบอลให้กองหน้ายิงอย่างเดียวสมัยก่อน ปัจจุบัน Left Winger ถือเป็นตำแหน่งคีย์แมนของตัวรุกในโลกฟุตบอลปัจจุบันเลย ผู้เล่นเก่งๆมักจะมากองกันอยู่ในตำแหน่งปีกซ้าย ซึ่งเล่นในลักษณะของการเป็น "กองหน้ากึ่งปีกฝั่งซ้าย" (Inside Forward) กันซะส่วนมากเนื่องจากยุคนี้ปีกซ้ายมีแค่ความเร็วไม่พอ ต้องสามารถสร้างสรรค์เกมด้วยตัวเองได้ และเติมเข้าไปยิงจบสกอร์เองได้ด้วย ความสามารถต้องรอบตัว และแบกทีมได้มากกว่าเดิม กับตำแหน่งที่นักฟุตบอลบนโลกนี้ส่วนใหญ่ก็จะถนัดเท้าขวากัน ทำให้การโยกมายืนตัวรุกฝั่งซ้าย สามารถตัดเข้าในไปยิงในมุมที่สะดวกกว่า

เรามาดูกันว่า หลังจากผ่านฤดูกาล 2022/23 มาแล้วนั้น ณ ปัจจุบันปีกซ้ายคนไหนบ้างที่ฟอร์มสะเด่าสุดๆในโลกใบนี้ โดยเรายังไม่ลืมนักเตะเก่งๆอย่าง ซน เฮือง-มิน ที่เป็นหนึ่งในปีกซ้ายท็อปคลาสของโลกเหมือนกัน เพียงแคว่าฟอร์มปัจจุบันเขาตกลงไปพอสมควรในปีนี้

ถ้างั้นคนที่เหลือที่ฟอร์มเด็ดๆ มีใครบ้าง จากการ Rank ของนิตยสารออนไลน์ FourFourTwo เลือกมาสิบอันดับ ซึ่งมีนักเตะในพรีเมียร์ลีกตบเท้าเข้ามาเยอะที่สุด นอกนั้นกระจายกันไปจากบุนเดสลีกา เซเรียอา ที่มีปีกซ้ายเก่งๆหลายคน ดังต่อไปนี้

10. Leroy Sane (Bayern Munich)

หลังจากที่เริ่มต้นจากพรีเมียร์ลีกตั้งแต่อายุยังน้อย ซาเน่ก็ได้ย้ายกลับไปเล่นฟุตบอลยังถิ่นบ้านเกิดของเขาเพื่อลดแรงกดดัน และแฟนบาเยิร์นก็หวังว่าดาวเตะทีมชาติเยอรมันรายนี้จะกลับมาเผาแบ็คในบุนเดสลีกาด้วยสปีดความเร็วและการโจมตีของเขา แต่เลอรอย ซาเน่ มีปัญหาอาการบาดเจ็บและเรื่องความฟิตอย่างมากนับตั้งแต่กลับไปสู่ถิ่นด๊อยช์ลันด์บ้านเกิดตั้งแต่ปี 2020

ฤดูกาลนี้ซาเน่เฉียบคมขึ้นมา และการแย่งตำแหน่งในทีมก็ทำให้เขาสามารถเรียกฟอร์มเก่าๆกลับมาได้สำเร็จ ซึ่งวิธีการเล่นก็จะแตกต่างไปจากตอนที่อยู่กับซิตี้ ซาเน่จะเป็นปีกที่ขึงริมเส้นตามปรัชญาการเล่นของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่เมื่อมาอยู่บาเยิร์น ซาเน่ได้ตัดเข้าในและเล่น link up กับเพื่อนร่วมทีมเพื่อเจาะช่องได้อย่างยอดเยี่ยม

9. Karim Adeyemi (Borussia Dortmund)

ด้วยการครองบอลและเกมบุกอันดุเดือด อเดเยมี่เป็นปีกที่กล้าเล่นกล้าลุยไม่มีกลัวใคร และชอบหาจังหวะเผาฟูลแบ็คคู่แข่งในทุกๆโอกาส ด้วยความสามารถที่เอาตัวรอดในที่แคบๆได้ดี ปีกรายนี้ยังชอบพาคู่แข่งทัวร์ด้วยท็อปสปีดที่เขามี และตามไล่จับตัวได้ยากมาก

เขาคือส่วนสำคัญของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในการไล่ล่าตำแหน่งแชมป์ อเดเยมี่เริ่มมีฟอร์มที่โดดเด่นในปีนี้ที่เยอรมัน หลังจากย้ายมาจาก Red Bull Salzburg และค่อยๆทำประตูกและแอสซิสต์ในการแข่งขันได้เรื่อยๆ

ด้วยอายุเพียง 21 ปี กับศักยภาพที่เต็มกระเป๋า มีอนาคตที่สดใสรอดาวเตะรายนี้อยู่ 

เริ่มต้นด้วยการแซงบาเยิร์นของซาเน่ให้ได้เลยดีไหม!

8. Neymar (Paris Saint-Germain)

เนย์มาร์เป็นหนึ่งในนักเตะที่รับมือยากที่สุดในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน ที่สามารถบอกได้เลยว่าถ้าเขาอยู่ในฟอร์ม ใครก็รับมือได้ยาก แต่น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บส่งผลต่อฟุตบอลโลกของเขา อันดับจึงถูกรั้งไว้ในแรงค์ที่ 8 ในลิสต์นี้เท่านั้น

อาการบาดเจ็บข้อเท้าทำให้ดาวเตะบราซิลเลียนรายนี้ต้องพักตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ฟอร์มทุกอย่างหยุดไป แต่ผลงานการลงสนาม 29 นัดในทุกรายการ ทำไป 18 ประตู กับ 17 แอสซิสต์ ถือว่าสุดยอดมากๆที่นักเตะพรสวรรค์คนนี้ทำได้

เนย์มาร์สามารถเลี้ยงฉีกคู่แข่งได้ง่ายๆ ออกบอลให้เพื่อน ยิงจากจังหวะที่ไม่น่าได้ และทำให้คนทั้งสนามฮือฮากับการเล่นของเขาได้ เนย์มาร์ดูเหมือนจะเป็นเพลย์เมคเกอร์มากกว่าการเป็นปีกเสียอีก ในวัย 30 ปี การลงต่ำมาเพื่อปั้นเกมให้ทีมได้อย่างสุดยอดนั้น สามารถหาจังหวะจบได้ และช่วยเพื่อนร่วมทีมได้ในเวลาเดียวกัน

หนึ่งในสุดยอดนักเตะของจริง

7. Kaoru Mitoma (Brighton)

ก่อนฤดูกาล 2022/23 อาจจะยังไม่มีใครรู้จักเขามากเท่าไรนัก แต่เขาเริ่มสร้างชื่อขึ้นมาได้เหมือนพลุแตก ปีกซามูไรรายนี้โจมตีแนวรับคู่แข่งด้วยสกิลการเลี้ยงบอลขั้นสุดยอด แถมสปีดของเขาสร้างมิติที่แตกต่างให้กับทีมได้อย่างดีเยี่ยม

คือความต่างที่หาตัวจับยากมากๆ

ผู้จัดการทีมอย่าง โรแบร์โต้ เดอ แซร์บี้ ก็รู้ว่าเขาไม่สามารถดรอปคาโอรุ มิโตมะได้เลยนับตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ฟอร์มของเขาจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมไบรท์ตันฟอร์มดีตามไปด้วย 

การยิงสิบประตูในทุกรายการจากซีซั่นนี้ทำให้เราได้รู้ว่าเขาสามารถแจ้งเกิดได้ดีแค่ไหนที่ไบรท์ตัน แต่เชื่อว่าสถิติต่างๆเหล่านี้จะยิ่งสูงมากขึ้นไปกว่านี้อีก เมื่อดาวเตะวัย 25 ปีรายนี้กำลังเข้าฝักและได้เล่นในจังหวะของเขาอย่างเต็มที่

พูดได้เลยว่า โคตรของโคตรอันตรายจริงๆเวลาเจอมิโตมะ ถ้าไม่ใช่แบ็คระดับอารอน วานบิสซาก้าแล้ว แทบไม่มีใครเอาเขาอยู่ ไม่ว่าจะแบ็คหรือเซ็นเตอร์ของทีมต่างๆ

โหดจริง

6. Gabriel Martinelli (Arsenal)

ยักษ์หลับอย่างอาร์เซนอลที่เงียบมานาน ปีนี้ถือกำเนิดร่างใหม่ขึ้นอีกครั้งจากการฟอร์มทีมมาหลายปีของมิเกล อาร์เตต้า ได้สร้างกลุ่มนักเตะพลังหนุ่มที่พร้อมขึ้นมาท้าชิงทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าได้สำเร็จ ซึ่งหนึ่งในลูกทีมหลักของอาร์เตต้า ก็คือ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ปีกซ้ายตัวเข้าทำรายนี้นั่นเอง ที่เป็นหนึ่งในคนซึ่งทำให้อาร์เซนอลกลับขึ้นมาเป็นเต้ยของลีกอีกครั้ง

ด้วยความมุ่งมั่น การจบสกอร์ และวิชั่นการเล่น ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ฟอร์มโดดเด่นที่สุดอีกคนของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ เขารักสโมสรอย่างมาก และเล่นด้วยพลังที่ไม่มีหมด เขาสามารถเรียกฟอร์มเช่นนี้ให้ออกมาสม่ำเสมอในทุกๆสัปดาห์ได้ เพราะฉะนั้นนี่จึงไม่ใช่แค่ดาวรุ่งยอดเยี่ยมวัย 21 ปีเท่านั้น

เขาคือนักเตะชั้นแนวหน้าของลีกในตอนนี้

5. Jack Grealish (Manchester City)

หลังจากที่ซิตี้คว้าตัวเขาเข้ามาร่วมทีมด้วยราคาหลัก 100 ล้านปอนด์ แจ็ค กรีลิช ก็ยอมรับด้วยตัวเองว่าเขาต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับวิธีการเล่นของเป๊ปให้ได้ ซึ่งหลังจากผ่านมาหนึ่งฤดูกาล ปีกตัวลากเลื้อยคนนี้ก็เริ่มที่จะปรับตัวให้เข้ากับเรือใบสีฟ้าได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

จุดเด่นของแจ็ค กรีลิช อย่างที่เราเห็นกัน คือการเก็บบอลทำเกมด้วยตัวเอง เพื่อลากให้คู่แข่งต้องเข้ามาตามปิด และไล่ประกบเขา ซึ่งในจุดนั้นมันจะเป็นการเปิดพื้นที่ให้เพื่อนได้เล่นต่อ และเข้าทำประตูใส่คู่แข่งได้ทันที สถิติของเขาแม้จะยังไม่ได้ถึงกับโหดจัดๆ แต่ก็ไม่ได้แย่เลย สำหรับ 5 ประตู และ 11 แอสซิสต์ในปีนี้ แจ็คเล่นได้อย่างมีอิทธิพลกับทีม ช่วยให้เพื่อนสามารถตะลุยไปข้างหน้าได้ และลุ้นสามแชมป์อยู่ในฤดูกาลนี้ ด้วยขุมกำลังที่แน่นทั่วแผ่น

สมราคาว่าที่ทีมที่เก่งที่สุดในยุคนี้จริงๆ

4. Marcus Rashford (Manchester United)

แทบไม่ต้องใช้คำบรรยายเพิ่มเติมจากเว็บ FourFourTwo มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาโดดเด่นอีกครั้งหลังจากที่เคยฟอร์มตกอย่างมากในฤดูกาลที่ผ่านมา เมื่อเอริค เทน ฮาก ก้าวเข้ามาสู่รั่วโอลด์แทรฟฟอร์ด แรชชี่เริ่มค่อยๆเรียกตัวตนของเขากลับมาได้อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังฟุตบอลโลก แรชชี่นำฟอร์มโหดๆกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง แถมยังดูท่าว่าน่าจะเป็นร่าง "Prime Rashford" ร่างที่กำลังเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงพีคของอาชีพนักเตะสักที

ด้วยความเฉียบคมที่มากขึ้น ความมั่นใจในการจบสกอร์ การยิงอันดุดัน และความแข็งแกร่งที่คู่แข่งเริ่มเบียดไม่ล้มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมแรชชี่ถึงควรจะติดเข้ามาเป็นหนึ่งในห้าปีกซ้ายที่อันตรายที่สุด ณ ขณะนี้ได้ แม้ว่าฟอร์มจะดรอปลงบ้างเล็กน้อย แต่ปีนี้สถิติ 29 ประตู 11 แอสซิสต์ คือป่าเถื่อนที่สุดในชีวิตแกจริงๆ

และมันจะดีกว่านี้อีก ถ้าปีหน้าแมนยูไนเต็ดมีกองหน้าที่จบสกอร์เองได้ ปั้นเพื่อนได้ เข้ามาสู่ทีมเพิ่มอีกคน เพราะการมีตัวแบ่งเบาภาระแรชฟอร์ด จะยิ่งทำให้แรชยิงประตูได้มากกว่าที่ต้องแบกทุกอย่างด้วยตัวเองอยู่อย่างในตอนนี้

3. Rafael Leao (AC Milan)

กองหน้าด้านข้างดาวดวงใหม่ของโปรตุกีสรายนี้โชว์ผลงานได้สุดยอดให้กับเอซี มิลาน ทะลุเข้าไปสู่รอบตัดเชือกได้ ทำหน้าที่ทั้งยิงทั้งจ่ายมาตลอดฤดูกาล กับผลงาน 13 ประตู 13 แอสซิสต์ในทุกๆรายการปีนี้ ทำให้หลายๆทีมให้ความสนใจกับราฟาเอล เลเอาอย่างมากในการดึงตัวไปเสริมทีม แต่เจ้าตัวก้เหมือนจะฝากอนาคตไว้ที่ถิ่นซานซิโร่ต่อไป เพื่อจะสามารถพัฒนาฝีเท้าเขาได้อย่างต่อเนื่องในวัย 23 ปี 

ด้วยฝีเท้าที่สร้างความแตกต่างได้อย่างสุดๆ นึกอยากจะยิงตอนไหนก็ยิงได้ถ้ามู้ดมา สปีดความเร็วและความเฉียบคมของเลเอา ถือเป็นสิ่งน่ากลัวของคู่แข่ง

ด้วยพัฒนาการของเขา ในอนาคตราฟาเอล เลเอา ก็มีโอกาสจะยกระดับเป็นตัวท็อปของโลกฟุตบอลได้

2. Khvicha Kvaratskhelia (Napoli)

แฟนบอลนาโปลีอาจจะเคยกังวลกับการจากไปของอดีตตัวท็อปอย่าง ลอเรนโซ อินซิเญ่ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา กลัวว่าแนวรุกของทีมจะขาดความเฉียบคมลงไปนั้น การตบเท้าเข้ามาของดาวเตะทีมชาติจอร์เจียอย่าง ควิช่า ควารัตสเกเลีย ไม่ใช่เพียงแต่จะทำให้ความกังวลตรงนี้หายไปเท่านั้น แต่เขายังกลายเป็นส่วนสำคัญที่พาทีมนาโปลีเข้าวิน คว้าแชมป์เซเรียอาได้สำเร็จ นับตั้งแต่ยุคของ ดิเอโก้ มาราโดน่าเลยด้วยซ้ำ!!!

จากดาวเตะที่คนยังไม่รู้จักมากนัก ควารัตสเกเลียวาดลวดลายในอิตาลีได้อย่างน่าดูชมด้วยสปีดฝีเท้า ความคล่องตัว และการสร้างสรรค์เกมอันหลากหลายจากปลายรองเท้าสตั๊ดบนผืนหญ้า เขาผลิตสกอร์ให้กับทีมจนสุดท้ายก้าวถึงแชมป์ได้สำเร็จ และควรที่จะอยู่ในเมืองเนเปิลส์ต่อไป เพื่อจะคว้าแชมป์ต่อเนื่องที่นี่ได้ในอนาคต

ตัวนี้ว่าที่เวิร์ลคลาสแน่นอน รอดูกันว่าค่าตัวตอนย้ายทีมจะเท่าไหร่ ถ้ายังรักษาฟอร์มโหดแบบนี้ไว้ได้ ปีนี้น้องกวายิงไป 14 ประตู กับ 17 แอสซิสต์, เข้าถึงรอบแปดทีมUCL

และแน่นอน แชมป์เซเรียอาสมัยแรกกับนาโปลี

1. Vinicius Jr (Real Madrid)

สุดยอดของสปีด เซนส์แห่งความสมดุล และเทคนิคชั้นสุดยอด วินิซิอุส จูเนียร์คือสุดยอดดาวเด่นในตำแหน่งนี้ ทุกคนในโลกก็น่าจะยอมรับ และได้เห็นฝีเท้าของเขากันหมดแล้ว ไม่ใช่โอเวอร์เรท และการที่หายไปจากเกมแค่นัดสองนัด ไม่ได้แปลว่าเขาคือของปลอม 

ถึงแม้ว่าจะแพ้ซิตี้ตกรอบในรอบรองชนะเลิศ UCL แต่ลูกยิงในเลกแรกของเขาก็ของจริงเหมือนกัน!

วินิซิอุสจูเนียร์ พาเรอัล มาดริด คว้าแชมป์UCL เมื่อซีซั่นก่อน ด้วยประตูโทนของเขาเฉือนลิเวอร์พูลในนาทีที่ 59 ด้วยสปีดและความอันตรายทำให้เขาเล่นร่วมกับคิงอย่าง คาริม เบนเซม่า ได้อย่างลงตัว แถมการมีอยู่ของเขา ยังทำให้โทนี่ โครส กับ โมดริช มีเป้าในการจ่ายบอลได้ตลอดเวลาในแดนบนด้วย

ผลงาน 23 ประตู 21 แอสซิสต์ จาก 53 เกมในฤดูกาลนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมาก กับการคว้าแชมป์ต่างๆกับเรอัล มาดริด เหลือสิ่งเดียวที่ยังขาดอยู่ในการพิชิตถ้วยของเขามีเพียงแค่ในนามทีมชาติบราซิลเท่านั้น ถึงจะติดทีมแล้วแต่ก็ยังถูกรัศมีของเนย์มาร์ทาบทับอยู่ในนามเอสของทีม แต่เชื่อว่าอีกเพียงไม่นาน หมอนี่จะขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในการแบกบราซิลไปประสบความสำเร็จในอนาคตอย่างแน่นอน

-ศาลาผี-

Refefence

https://www.fourfourtwo.com/features/ranked-the-10-best-left-wingers-in-the-world


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด