ในที่สุด ท็อดด์ โบห์ลี่ และ เคลียร์เลค แคปปิตอล เจ้าของร่วมได้ตกลงที่จะแต่งตั้ง เกรแฮม พ็อตเตอร์ เข้ามารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของทีม

การพูดคุยกับ โปเช็ตติโน่ เช่นเดียวกับ รูเบน อโมริม เทรนเนอร์ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เป็นการบ่งบอกถึงความปรารถนาของ สิงห์บลูส์ ที่จะทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาผ่านกระบวนการคัดสรรมาแล้ว อย่างน้อยมันก็เป็นความพยายามในกระบวนการสรรหาบุคลากรอย่างเต็มรูปแบบ

มีการพูดกันว่าอันที่จริง โปเช็ตติโน่ ก็สะท้อนวิสัยทัศน์ออกมาถึงวิธีการแบบองค์รวมของเขากับทีมชุดใหญ่ ผสมผสานกับการพัฒนาผู้เล่นเยาวชนได้สร้างความประทับใจให้กับเจ้าของทีม เชลซี

นับจากนั้นมา สิงห์บลูส์ ก็เลือกทุ่มเงินอีกครั้งในเดือนมกราคมภายใต้เจ้าของคนใหม่ของพวกเขารวมจากซัมเมอร์แล้วก็เกือบ 600 ล้านปอนด์ จนที่สุด พ็อตเตอร์ ก็จากไป และตอนนี้ โปเช็ตติโน่ ก็เข้ามาแล้ว

ด้วยข่าวที่พัวพันกันมาใหญ่โตตอนที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ขัดตาทัพ ในที่สุดมันก็ได้รับการยืนยันแล้ว อดีตนายใหญ่ สเปอร์ส กลายเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 4 ของ เชลซี ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีจากข้อตกลงเริ่มต้น 2 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

งานหนักเริ่มขึ้นแล้วสำหรับกุนซือชาวอาร์เจนไตน์ แม้ว่าความจริงแล้ว โปเช็ตติโน่ จะรู้ตัวมาตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อน เขารู้อยู่แล้วว่าตนเองต้องการให้ เมสัน เมาท์ ซึ่งเป็นเป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อสัญญาฉบับใหม่ แม้ตอนนี้การพูดมันจะง่ายกว่าลงมือทำก็ตาม

เขารู้ว่าเขาต้องการผู้รักษาประตูคนใหม่, มิดฟิลด์ตัวกลางใหม่ และกองหน้าใหม่ ซึ่งก็ได้แจ้งต่อฝ่ายสรรหาให้ทราบถึงความตั้งใจของเขาแล้ว

โรเมลู ลูกากู มีกำหนดจะกลับมาจากการยืมตัวที่ อินเตอร์ มิลาน ในซัมเมอร์นี้ โดย โปเช็ตติโน่ กระตือรือร้นที่จะประเมินว่ากองหน้าทีมชาติเบลเยียมมองอนาคตของเขาอย่างไรก่อนจะมีการตัดสินใจ

แต่ถึงแม้ ลูกากู จะเลือกร่วมงานกับ โปเช็ตติโน่ ในฤดูกาลหน้า แต่นายใหญ่คนใหม่ของ สิงห์บลูส์ ก็ต้องการศูนย์หน้าคนใหม่อยู่ดี

เขารู้ว่าทีมของเขาขาดเล่ห์เหลี่ยม และความชำนาญ ซึ่งก็ได้บอกสโมสรให้จัดลำดับความสำคัญของผู้เล่นที่มีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก สิ่งที่ โปเช็ตติโน่ รู้ก็คือแม้พวกเขาจะผ่านซีซั่นนรกแตกมา แต่ เชลซี ก็ไม่ได้ห่างไกลจากความเฟื่องฟูเลย

แม้ตอนนี้ข่าวเรื่องแผนงานต่างๆ จาก โปเช็ตติโน่ จะยังไม่ชัดเจนจนกว่าเขาจะมาอยู่กับทีมอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม แต่ก็พูดได้อย่างปลอดภัยใน เชลซี ว่าเขาเห็นสโมสรถึงเงื่อนไขที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อจะประสบความสำเร็จ

โครงสร้างพื้นฐานของทีมอันที่จริงก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร ทีมอะคาเดมี่ก็ผลิตนักฟุตบอลขึ้นทีมชุดใหญ่ได้ตลอด เขามองเห็นทีมที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ อีกหนึ่งสิ่งสำคัญก็คือทีมนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องปรับโฉมครั้งใหญ่อะไร

เขาเชื่อว่าเขาสามารถจะปรับแต่งทีมได้เร็วมากพอ และคุณคงไม่กล้าพนันตรงข้ามเขาหรอก ใครจะรู้ถ้าตอนนั้น เชลซี เลือกตั้ง โปเช็ตติโน่ แทนที่ โธมัส ทูเคิ่ล ไปเลยตอนเดือนกันยายน บางทีพวกเขาอาจไม่วุ่นวายมากขนาดนี้ก็ได้

แต่พอมองย้อนกลับไป จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ใช่ตัวเลือกแรกในตอนนั้น อันที่จริงรอบปัจจุบันนี้ก็ยังมีการถกเถียงอยู่เลยว่าอันที่จริงเขาเป็นตัวเลือกแรกหรือไม่ โดยมุมมองทั่วไป ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ คือตัวเต็งสำหรับ เชลซี

ทันทีที่มีการแยกทางของเทรนเนอร์ชาวเยอรมันกับ บาเยิร์น มิวนิค การไล่ พ็อตเตอร์ ออกก็ตามมาอย่างรวดเร็ว

มันอาจเป็นเหตุบังเอิญก็ได้มั้ง แต่หลายคนก็ไม่เชื่อหรอก...

เชลซี ยืนกรานว่า โปเช็ตติโน่ เป็นตัวเต็งมาตลอด แต่อีกหลายความเห็นก็มองแตกต่างออกไป อย่างไรก็ตาม โปเช็ตติดน่ ก็เหมาะสมที่สุดสำหรับงานนี้ บางทีอาจจะมากกว่า นาเกลส์มันน์ เสียด้วยซ้ำ

เขารู้จักฟุตบอลอังกฤษเป็นอย่างดี เขาสร้างทีมที่ลุ้นความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก เขารู้ว่าจะต้องใช้อะไรบ้าง

แต่ในข้อแม้ที่เจ้าของสโมสรชาวอเมริกันต้องให้พื้นที่กับเขาในการดำเนินการตามแผนของเขาด้วย

หาก เชลซี จะมีผู้จัดการทีมคนใหม่ที่สามารถบรรเทาอาการป่วยที่ทำให้สโมสรนอนเป็นอัมพาตตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาได้อย่างรวดเร็ว เขาต้องได้รับอนุญาตให้ทำแบบนั้นด้วย ไม่งั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงไปทำไม?

พวกเจ้าของจะต้องไม่ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติที่สุภาพของ โปเช็ตติโน่ เพราะนายใหญ่จากอเมริกาใต้ก็ไม่ใช่คนที่จะพังประตูห้องประชุม และเรียกร้องอะไรมากมาย นิสัยของเขาคือมักจะแสดงความคิดเห็นโดยไม่มีอะไรมากกว่านั้น มันขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจว่าพวกเขาต้องการรับฟังหรือไม่

ในตอนที่ สเปอร์ส อยู่ในจุดที่พิเศษภายใต้การนำทีมของกุนซืออาร์เจนไตน์ ประธาน แดเนียล เลวี่ ก็ไม่ได้ใส่ใจ ดูว่าขาดเหลืออะไรสักเท่าไหร่

มันเป็นผลประโยชน์สูงสุดของ โบห์ลี่ และ เคลียร์เลค ที่จะมอบสิ่งที่ โปเช็ตติโน่ ขอจากพวกเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่แน่นอนว่า เชลซี ก็ต้องลดผู้เล่นในทีมหลังมีการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยกับผู้เล่นใหม่ใน 2 ตลาดที่ผ่านมา

นั่นคือผลลัพธ์ประการหนึ่งของการเริ่มต้นที่น่าหดหู่อย่างแท้จริงในยุคของ โบห์ลี่-เคลียร์เลค การตัดสินใจของเขาทำให้หลายคนต้องเกาหัว

แฟนๆ เชลซี บางคนที่อาจจะยังติดภาพ โปเช็ตติโน่ เป็นกุนซือทีมคู่แข่งร่วมกรุงลอนดอนของพวกเขาก็อาจจะมีตะหงิดใจอยู่บ้าง

ในทำนองเดียวกัน เหล่าแฟนบอล สเปอร์ส ก็เชื่อว่า โปเช็ตติโน่ กำลังทำลายความนิยมของเขาเองด้วยการร่วมทีม เชลซี ซึ่งอันที่จริงพวกเขาควรพิจารณาว่าแม้ ไก่เดือยทอง จะรู้ว่า โปเช็ตติโน่ พร้อมกลับมา ทว่าพวกเขาก็ไม่เคยริเริ่มความพยยายามใดๆ ในการแต่งตั้งอดีตนายใหญ่ของพวกเขากลับมาใหม่

แต่เขาก็ต้องทำงานของเขาต่อไป และไม่ใช่ว่าเขาจะไปคุมคู่แค้นไม่เผาผีอย่าง อาร์เซน่อล ซึ่งเป็นงานที่เขายืนยันว่าไม่เคยคิดจะทำ

ท็อตแน่ม สนิทกับ โปเช็ตติโน่ มาก แต่กลับล้มเหลวในการสนับสนุนเขา เชลซี ควรจะฉลาดที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้น