:::     :::

บทสรุปบุนเดสลีกา 2022/23

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บุนเดสลีกา เยอรมัน ฤดูกาล 2022/23 ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับการคว้าแชมป์ (อีกครั้ง) ของ บาเยิร์น มิวนิค

"เสือใต้" คว้าแชมป์สมัยที่ 11 ติดต่อกันได้อย่างบีบหัวใจในนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่บุกเฉือนชนะ โคโลญจน์ 2-1 ขณะที่ผลของคู่ปรับสำคัญเป็นใจเมื่อ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พลาดท่าเสมอ ไมนซ์ 2-2

ดอร์ทมุนด์ ลงสนามนัดสุดท้ายพร้อมกุมความได้เปรียบเอาไว้ด้วยเงื่อนไขขอเพียงเปิดรังชนะ ไมนซ์ ให้ได้ก็จะคว้าแชมป์ทันทีเพราะคะแนนนำหน้า บาเยิร์น มิวนิค 

ทว่าทัพ "เสือเหลือง" กลับแพ้ภัยตัวเองปล่อยให้ ไมนซ์ ออกนำก่อนถึง 2-0 และได้เพียงตามตีเสมอในช่วงทดเจ็บ ไม่สามารถแซงชนะได้

คะแนนเดียวในบ้านทำให้ ดอร์ทมุนด์ มีเพิ่มเป็น 71 คะแนนเท่ากับ บาเยิร์น ที่เก็บชัยชนะตามเป้า ต้องวัดกันที่ประตูได้-เสียซึ่ง "เสือใต้" ของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล ดีกว่าจึงคว้าแชมป์ไปครอง และเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปีที่ตำแหน่งแชมป์ตัดสินกันด้วยประตูได้-เสีย 


เสือใต้ซิวแชมป์ 11 สมัยติดต่อกัน

นี่คือการพลาดแชมป์ที่น่าเจ็บปวดที่สุดในรอบหลายปีของ ดอร์ทมุนด์ พวกเขามีโอกาสอยู่ในมือตัวเองแล้วแท้ๆ แต่ก็ทำพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ 

ขณะที่ บาเยิร์น มิวนิค ปาดหน้าได้แชมป์ในฤดูกาลที่ไม่ได้ท็อปฟอร์มที่สุด และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมาย เช่นเดียวกับการต้องเปลี่ยนกุนซือระหว่างทาง 

แต่เมื่อ "เสือเหลือง "ทิ้งโอกาสไปเสียเอง "เสือใต้" จึงต้องขย้ำเหยื่อที่หลุดเข้าปากโดยไม่ลังเล! 


แฟนบอลเสือเหลืองอกหักอย่างชอกช้ำ

โควตายุโรป 

บาเยิร์น มิวนิค และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ตั๋วลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าพร้อมกัน ส่วนอีกสองทีมคือ แอร์เบ ไลป์ซิก และ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน 

ฤดูกาลที่แล้ว ตัวแทนจากบุนเดสลีกาได้ตั๋วลุยแชมเปี้ยนส์ ลีก มากถึง 5 ทีมซึ่งมาจาก 4 อันดับแรกในลีกคือ บาเยิร์น, ดอร์ทมุนด์, เลเวอร์คูเซ่น และ แอร์เบ ไลป์ซิก บวกกับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ในฐานะแชมป์ยูโรปา ลีก 

เลเวอร์คูเซ่น หลุดไปในปีนี้ที่จบเพียงอันดับ 6 ได้แค่ตั๋วยูโรปา ลีก เดียวกับ ไฟร์บวร์ก ทีมอันดับ 5 ของตาราง ส่วน ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ได้ไปลุยยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก 

   

ทีมตกชั้น

ชาลเก้ กับ แวร์เดอร์ เบรเมน เป็นสองทีมที่เลื่อนชั้นมาจาก ลีกา สอง ทว่ามีเพียง เบรเมน ที่เอาตัวรอดจบอันดับ 13 ของตาราง

ชาลเก้ ออกทะเลมากไปในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกที่จมบ๊วยอยู่นานก่อนฮึดหลังจบฟุตบอลโลก ทว่าท้ายที่สุดก็ยังไม่เพียงพอจบอันดับ 17 ของตาราง ต้องตกชั้นไปพร้อมกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 


ชาลเก้ ขึ้นมาแล้วก็ลงกลับไปอีกครั้ง

สตุ๊ตการ์ท ที่จบอันดับ 16 ต้องไปเพลย์ออฟกับอันดับ 3 ของลีกาสองคือ ฮัมบูร์ก ซึ่งนัดแรก "ม้าขาว" ทำได้ดีมากเอาชนะได้ถึง 3-0 ในบ้านตัวเอง มีโอกาสอยู่รอดในบุนเดสลีกาต่อไปฤดูกาลหน้า 

ส่วนสองทีมจากลีกาสองที่คว้าตั๋วเลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติคือ ไฮเดนไฮม์ และ ดาร์มสตั๊ดท์ 

 

ดาวซัลโว

ตำแหน่งดาวซัลโวในฤดูกาลนี้ทำได้ 16 ประตูเท่ากัน 2 คนคือ นิคลาส ฟึลครุก ดาวยิงทีมชาติเยอรมนีของ แวร์เดอร์ เบรเมน และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสของ แอร์เบ ไลป์ซิก

ฤดูกาลที่แล้ว โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ คว้าตำแหน่งดาวซัลโวด้วยผลงานสุดเปรี้ยง 35 ประตู ขณะที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กดไป 22 ประตู 


เอ็นคุนคู ซิวดาวซัลโวร่วมกับ ฟึลครุก

โคตรดาวยิงทั้งสองย้ายออกไปเล่นในลีกใหม่และยังคงมาตรฐานสุดยอดคว้าตำแหน่งดาวซัลโวทั้งคู่ เลวานดอฟสกี้ ทำได้ 23 ประตูกับ บาร์เซโลน่า ในลา ลีกา ส่วน ฮาแลนด์ สร้างชื่อในพรีเมียร์ลีกด้วยสถิติใหม่ 36 ประตู

ตัวเลขดาวซัลโวดร็อปลงไปมากหลังหมดยุคของ เลวาน และ ฮาแลนด์ โดยอันดับรองจาก ฟึลครุก และ เอ็นคุนคู คือ วินเชนโซ่ กรีโฟ่ ของ ไฟร์บวร์ก และ ร็องดาล โกโล่ มูอานี่ ของ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ที่ 15 ประตูเท่ากัน ส่วนทีมแชมป์ บาเยิร์น มี แซร์ช นาบรี้ ยิงได้มากสุด 14 ประตู 

พาทริค ชิค ดาวยิง เลเวอร์คูเซ๋น ที่เป็นรองดาวซัลโวปีก่อนด้วยผลงาน 24 ประตู เจอปัญหาบาดเจ็บรบกวนทำให้ได้ลงสนามเพียง 14 นัด และยิงได้เพียง 3 ประตู 

ขณะที่ตำแหน่งแอสซิสต์สูงสุดคือ ราฟาเอล เกร์เรยโร่ แบ็กซ้าย ดอร์ทมุนด์ ที่ทำได้ 12 แอสซิสต์  


นักเตะยอดเยี่ยม

ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลตกเป็นของ จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางทีมชาติอังกฤษของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

เบลลิงแฮม เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทัพเสือเหลืองจริงๆ ในฤดูกาลนี้ แม้อายุ 19 ปี แต่มีความเป็นผู้นำสูง ประสบการณ์เกินตัว และเป็นหัวใจสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้เลย 

แข้งสิงโตคำรามมีอาการบาดเจ็บจนพลาดช่วยทีมในนัดสุดท้ายซึ่งหากเขาลงสนามได้ บางที ดอร์ทมุนด์ อาจเอาชนะ ไมนซ์ ได้ตามเป้า และคว้าแชมป์ไปครองอย่างที่หวัง...น่าเสียดายจริงๆ 

ส่วนทีมยอดเยี่ยมประกอบด้วย 

ผู้รักษาประตู : เกรกอร์ โคเบล (ดอร์ทมุนด์) 

กองหลัง : เจเรมี่ ฟริมปง (เลเวอร์คูเซ่น), มัทไธส์ เดอ ลิกต์ (บาเยิร์น มิวนิค), นิโค่ ชล็อตเทอร์เบ็ค (ดอร์ทมุนด์), อัลฟอนโซ่ เดวิส (บาเยิร์น มิวนิค)

กองกลาง : ยูเลี่ยน บรันด์ท (ดอร์ทมุนด์), จู๊ด เบลลิงแฮม (ดอร์ทมุนด์), จามาล มูเซียล่า (บาเยิร์น มิวนิค)

กองหน้า : มุสซ่า ดิยาบี้ (เลเวอร์คูเซ่น) ร็องดาล โกโล่ มูอานี่ (แฟร้งค์เฟิร์ต), นิคลาส ฟึลครุก (เบรเมน)


เบลลิงแฮม ทำทุกอย่างแล้วขาดแค่แชมป์เท่านั้น


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด