ว่าที่กุนซืออายุน้อยที่สุดในไทยลีก
เพราะถ้าพูดกันตามตรงแล้ว เขาคือคนที่เข้ามารับเผือกร้อนต่อจาก "คสช" สมชาย มากมูล ที่แสดงสปิริตลาออกจากทีม หลังจมอยู่ในอันดับ 13 ของตารางเมื่อผ่านไป 9 นัด ซึ่งสถานการณ์ ณ ตอนนั้น ถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นเป็นอย่างมาก
ก่อนเป็น "โค้ชโด" คนนี้แหละ ที่ได้รับมอบหมายให้ปลุกผีตัวนี้ขึ้นจากหลุม และเขาก็สามารถพาทีมเดินหน้าเก็บคะแนนมาได้อย่างเรื่อยๆ จนมีลุ้นเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติจนถึงนัดสุดท้าย ก่อนจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 พลาดเป้าไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
แม้จะต้องไปเตะเพลย์ออฟกับอีก 3 ทีมที่เหลือ แต่เขาก็ไม่ทำให้แฟนๆ ของ "ช้างป่าห้วยขาแข้ง" ต้องผิดหวัง เมื่อพาลูกทีมเดินหน้าเอาชนะทั้งสุพรรณบุรี เอฟซี ในรอบแรก และคัสตอม ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศ จนกลายเป็นแชมป์ในรอบเพลย์ออฟพร้อมโควต้าเลื่อนชั้นที่สุดท้าย สร้างความสุขให้กับชาวอุทัยธานีทั้งจังหวัดได้สำเร็จ
ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ ก็ไม่แปลกที่จะได้รับการขยายสัญญาออกไป และเชื่อเหลือเกินว่าต้องมีคนอยากรู้จักประวัติของกุนซือหนุ่มรายนี้เป็นธรรมดา
จริงๆ แล้วฮีโร่ของชาวอุทัยฯ คนนี้เป็นใครกันแน่? วันนี้เราจะไปทำความรู้จักเขาให้มากขึ้นกัน
ภัทรพล นาประเสริฐ มีชื่อเล่นว่าโด เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2537 พื้นเพเป็นคน จ.สุพรรณบุรี ในวัยเด็กเขาก็เหมือนเด็กผู้ชายทั่วไปที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล จึงเล่นกีฬาชนิดนี้มาตั้งแต่จำความได้ โดยเริ่มเป็นนักกีฬาให้กับโรงเรียนวัดบึงทองหลางเป็นที่แรก ก่อนจะย้ายไปเรียนต่อที่โรงเรียนกีฬา จ.ชลบุรี และวิทยาลัยอาชีวศึกษาศรีราชาตามลำดับ
อันที่จริง ฝีเท้าของ ภัทรพล นั้น ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ เพราะเขาเคยติดทีมนักเรียนไทยรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ไปแข่งที่ประเทศสิงคโปร์มาแล้ว รวมถึงคัดตัวติดที่สโมสรสิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี และได้รับการเรียกตัวให้ไปเซ็นสัญญาแล้วเช่นกัน เพียงแต่ว่าอาการบาดเจ็บข้อเท้าทีเรื้อรังนั้น ทำให้ต้องแขวนสตั๊ดไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจมาเอาดีทางด้านโค้ชอย่างจริงจัง
เขาเริ่มต้นเส้นทางการเป็นผู้ฝึกสอนในระดับเยาวชนกับชลบุรี เอฟซี ก่อนฝีไม้ลายมือเข้าตาผู้ใหญ่ในสโมสร จึงมีการผลักดันให้เข้าไปเป็นผู้ช่วยทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งได้ทำงานร่วมกับ "โค้ชก้าง" นฤพล แก่นสน ทั้งในชุดซีเกมส์ และชุดปรีโอลิมปิค
ขณะที่ในระดับฟุตบอลลีกนั้น เขาก็เคยผ่านการคุมทีมฟุตบอลหญิงให้กับสมาคมกีฬา จ.ชลบุรี ลงเล่นในศึกไทย วีเมนส์ ลีก ในระดับดิวิชั่น 1 มาแล้วเช่นกัน
ในส่วนของไลเซนส์นั้น "โค้ชโด" ถือว่าเป็นอีกคนที่อายุน้อยแต่ร้อยดีกรีเหลือเกิน เพราะเจ้าตัวมีความรู้ถึงระดับบี ไลเซนส์ กันเลยทีเดียว โดยเรียนจบมาตั้งแต่อายุ 23 ปี เชื่อเหลือเกินว่าด้วยความรู้และความสามารถที่มีนั้น จะทำให้ในอนาคตก็น่าจะจบทั้ง เอ และ โปร ไลเซนส์ ได้อย่างไม่ยากอย่างแน่นอน
ส่วนการทำงานกับอุทัยธานี เอฟซี นั้น "โค้ชโด" เข้าอยู่กับทีมมาตั้งแต่สมัยไทยลีก 3 ที่คว้าแชมป์และเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 โดยอยู่เบื้องหลังในส่วนของการดูแลและพัฒนาเยาวชนให้กับทีม ก่อนจะได้รับโอกาสให้ขึ้นมาทำหน้าที่เป็นเฮดโค้ชในฤดูกาลล่าสุด และพาทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จตามที่ได้กล่าวไปในตอนต้น
สำหรับการต่อสัญญากับสโมสรในครั้งนี้ ก็ทำให้ชื่อของภัทรพล นาประเสริฐ เตรียมขึ้นแท่นเป็นเฮดโค้ชที่อายุน้อยที่สุดของศึกไทยลีก 1 ประจำฤดูกาล 2023-2024 ไปโดยปริยาย ด้วยวัยเพียง 29 ปีเท่านั้น !!!
และทั้งหมดนี่ก็คือประวัติคร่าวๆ ของหนึ่งในกุนซือที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด ณ เวลานี้
ยินดีต้อนรับเข้าสู่นรกไทยลีกครับ ว่าที่กุนซือที่อายุน้อยที่สุดประจำฤดูกาล!