เป็นการลาจากกันตามปกติของอาชีพนักฟุตบอล และเป็นธรรมดาของนักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่เมื่อถึงเวลาหนึ่งแล้ว หากไม่สามารถทะลุขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ได้แล้ว ก็อาจจะต้องเดินทางต่อไปยังเส้นทางข้างหน้ากับสโมสรอื่นๆต่อจากนี้

เช่นเดียวกันกับนักเตะพรสวรรค์ที่แฟนบอลปีศาจแดงหลายคนชื่นชอบฝีเท้า และ "เชียร์" ให้ได้รับโอกาสกับชุดใหญ่มาตลอด อย่าง "Zidane Iqbal" ที่สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เดินจากแมนยูไนเต็ดไป หลังจากที่ผจญภัยกับปีศาจแดงมาตลอด 15 ปี อยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ไต่แรงค์ขึ้นมาจากระดับเยาวชน จนกระทั่งได้โอกาสเดบิวต์กับสโมสรครั้งแรก และครั้งเดียว ในเกมเหย้าที่โอลด์แทรฟฟอร์ด เกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกที่ทีมเจอกับสโมสรอย่าง Young Boys ในเดือนธันวาคมปี 2021

ถึงจะเป็นนัดเดียวของเขา แต่ซีดานอยู่ซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ของเอริค เทน ฮาก ตลอดเวลา และได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมอุ่นเครื่องที่เจอกับ Cadiz และ Real Betis ในช่วงกลางฤดูกาลที่ผ่านมา ณ ประเทศสเปน

ขณะที่ในระหว่างฤดูกาล ชื่อของซีดานจะขึ้นมาอยู่ในชุดใหญ่ และมีชื่อบนม้านั่งสำรองเสมอๆหลายต่อหลายนัด แต่ก็ยังไม่มีนัดไหนที่เขาจะมีโอกาสลงสนามเลย เนื่องจากเกมแต่ละนัดของแมนยูไนเต็ดค่อนข้างเข้มข้น และผลการแข่งขันนั้นซีเรียสกับอนาคตของสโมสรพอควร ในการคว้าแชมป์ หรือติดโควตาUCL ในปีหน้า ทำให้โอกาสของซีดานจึงแทบจะไม่มี หรืออาจจะมีบางครั้งก็กลายเป็น ค็อบบี้ ไมนู มิดฟิลด์ดาวรุ่งในตำแหน่งเดียวกันที่ได้ลงสนามก่อน ซีดานในปีนี้จึงไม่ได้ลงเล่นชุดใหญ่เลยแม้แต่เกมเดียว

เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่แฟนบอลอาจจะจำเป็นต้องเข้าใจเทน ฮาก ว่าส่วนหนึ่งที่เขาไม่ได้ลงเล่น เพราะมันจำเป็นจริงๆในการจะเก็บผลการแข่งขันให้ได้ตามที่ต้องการ พื้นที่โอกาสของดาวรุ่งจึงน้อยลงอย่างที่เห็น เพราะแม้กระทั่งตัวยืมมาอีกคนอย่าง แจ็ค บัตแลนด์เอง ย้ายเข้ามาที่นี่สุดท้ายก็หมดสัญญาแบบไม่ได้ลงเล่นเหมือนกัน (เพราะไม่มีช่องว่างเกมไหนที่สามารถส่งโกลสำรองลงสนามได้ ก็เช่นเดียวกันกับเรื่องดาวรุ่งอย่างซีดานนั่นเอง)

ส่วนเรื่องของเหตุผลที่เอริค เทน ฮาก ยังไม่ใช้งานซีดานลงเล่น ด้วยสาเหตุอะไรนั้นก็เป็นสิ่งที่เราคงสงสัยกันต่อไป แต่เอริคก็คงจะมีเหตุผลของเขาอยู่แล้ว เช่นในเรื่องที่ว่า สภาพร่างกายของน้องยังไม่พร้อมที่จะลงไปใช้งานในเกมสำคัญๆที่ทุกเกมมีผลกับอันดับในตาราง หรือผลแพ้ชนะของทีม ในวัย 20 ปีที่ร่างกายยังสามารถเจริญเติบโตไปได้อีกมากกว่านี้ ณ ปัจจุบันร่างกายของซีดานยังบางอยู่ และคงต้องยกระดับ เพิ่มกล้ามเนื้อมากกว่านี้เพื่อรองรับการเล่นในระดับสูงที่ใช้ร่างกายกันหนักหน่วงต่อไป นั่นคือข้อสงสัยแรก

ข้อสงสัยถัดมา หลายๆคนก็คิดในเรื่องนี้เหมือนกัน นั่นก็คือเรื่องของระเบียบวินัย ความเป็นมืออาชีพ และ "ความไม่พร้อม" ในประเด็นต่างๆ ซึ่งในฐานะแฟนบอล เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าจะให้คิดจริงๆก็คงจะเป็นสองเรื่องนี้ คือเรื่องสภาพร่างกาย กับระเบียบวินัย

เพราะพรสวรรค์ในการเล่น เซนส์ของฟุตบอล ซีดาน อิคบาล ดูดีมากๆในแง่ของฝีเท้า ที่ถึงใครจะมองว่าธรรมดา แต่สำหรับเราและแฟนหลายๆคน ซีดาน เป็นมิดฟิลด์พรสวรรค์ที่จะเก่งมากกว่านี้ได้อีกเยอะ ดูคล่องแคล่ว เข้าใจเกมเป็นอย่างดี ทางบอลเซนส์บอลค่อนข้างสูง และสกิลทักษะพื้นฐานการเล่น รวมถึงเทคนิค ก็ถือว่าสูงเช่นกัน

ถ้าจะบอกว่าซีดาน "ไม่มีแวว" เลยขึ้นชุดใหญ่ไม่ได้ ข้อนี้ไม่น่าใช่ เพราะ Potential ที่เขาน่าจะพัฒนาได้อีกในอนาคต มันยังอีกยาวไกล และยังเก่งกว่านี้ได้อีกเยอะ

แล้วปัญหามันคืออะไรกันแน่?

เรื่องของการยังไม่ได้ลงสนาม เราเข้าใจได้ อย่างที่อธิบายไปแล้วว่า เอริค เทน ฮาก มีเหตุผลของเขาแน่นอน และในฐานะแฟนบอลที่ร่วมหัวจมท้ายกับผู้จัดการทีม เราเคารพการตัดสินใจของบอสเสมอ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร

แต่สิ่งที่ตอนนี้อยากรู้คือ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ถึงมีการปล่อยขายซีดาน อิคบาล ออกไปในราคาราว 1 ล้านยูโร ให้กับสโมสร FC Utrecht และจะเซ็นสัญญากัน 4 ปี ตามรายงานของ David Ornstein เมื่อหลายวันก่อน

หากขายออกเพราะมีสโมสรติดต่อเข้ามา และนักเตะเองก็พร้อมจะย้ายออกไปหาโอกาสใหม่ๆให้ตัวเองในการลงสนาม ก็ถือว่าเข้าใจได้ เราแค่อยากจะรู้เท่านั้นเองว่า การตัดสินใจดังกล่าวเริ่มต้นจากไหน ถ้าตัวนักเตะอย่างซีดานเอง ต้องการผลักดันให้มีการย้ายทีม เพื่อที่ตัวเขาจะมีโอกาสลงเล่น ก็ถือว่าสมเหตุสมผล

แต่ถ้าจะต้องขายออกไป เพื่องบดุลบัญชีของสโมสรให้มีรายได้ขาเข้ากลับมาบ้างนั้น มันก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน ในแง่ที่ว่า น่าจะเก็บนักเตะที่มีศักยภาพในอนาคตเอาไว้ก่อน ที่อนาคตเขาอาจจะยังช่วยเหลือทีม หรือพัฒนาขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้เราได้

ประเด็นมันก็มีแค่ว่า เรื่องนี้มัน "เร็วเกินไป" หรือไม่ และ จำนวนเงินที่ขายออกไป มันช่างน้อยนิดเหลือเกินเมื่อเทียบกับศักยภาพฝีเท้าของน้อง ที่สุดท้ายแล้วเราจะได้เพียงแค่เงิน 1 ล้านยูโรกลับมาเท่านั้นเอง

แล้วก็ต้องเอาเงินก้อนใหญ่มหาศาลไปซื้อเด็กจากที่อื่นๆเข้ามาอีก บางทีคิดความจริงในข้อนี้ก็สะอึกอยู่เหมือนกันว่า มันคุ้มจริงๆเหรอ แล้วเด็กที่ศักยภาพดีๆที่มีอยู่แล้วในมือ ทำไมไม่พยายามเก็บไว้

คำตอบตรงนี้ผู้เขียนและแฟนบอลอีกจำนวนมากคงจะไม่ได้รับคำตอบแน่ ถ้าหลังจากนี้ไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุที่มีการปล่อยตัวครั้งนี้เกิดขึ้น เราก็คงไม่ทราบจริงๆว่า ต้นเรื่องของการย้ายออกจากแมนยูไนเต็ดครั้งนี้ของซีดาน อิคบาล เกิดขึ้นด้วยสาเหตุใดเป็นหลัก? และเทน ฮาก ถึงขนาดยอมปล่อยดาวรุ่งพรสวรรค์แบบนี้ออกไป แปลว่าเขายังถูกประเมินว่า ปล่อยออกไปก็ไม่เป็นไร เช่นนี้หรือ?

เป็นปริศนาที่เราอยากรู้ และมันน่าคิดจริงๆ

แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เรื่องมันกำลังจะเกิดขึ้น และได้มีการกล่าวคำอำลาจากซีดานแล้วเรียบร้อย ถึงวันที่ 1 กรกฎาคมนี้เขาก็จะย้ายไปเป็นนักเตะใหม่ของเอฟซีอูเทรคในไม่ช้านี้ เจ้าตัวจึงมีการเขียนร่ำลาสถานที่แห่งนี้ที่เขาเติบโตขึ้นมา และกำลังจะออกไปสู่โลกกว้างอย่างแข็งแกร่ง ในฐานะเด็กปั้นของแมนยูไนเต็ด

ซีดานเอ่ยคำร่ำลาเอาไว้ดังนี้

"ความรู้สึกที่มีไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ยังไงก็ตาม ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด"

"แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลายเป็นบ้านของผมนับตั้งแต่ผมอายุ 5 ขวบ สโมสรแห่งนี้ที่อยู่เคียงข้างกับครอบครัวของผม ได้พัฒนาผมให้กลายเป็นสิ่งที่ผมเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้"

"จากเดอะคลิฟ ไปสู่ที่แคริงตัน และจากนั้นก็สู่โรงละครแห่งความฝัน(โอลด์แทรฟฟอร์ด) ผมมีความทรงจำอันเหลือเชื่อมากมายตลอดสิบห้าปีที่ผ่านมากับสโมสรที่น่ามหัศจรรย์แห่งนี้"

"ผมมีโอกาสได้เล่นกับเพื่อนร่วมทีมมากมาย คนที่ผมจะเรียกว่าเพื่อนเสมอไป และได้ทำงานกับโค้ชหลายๆคนที่สนับสนุนผมมาตลอดในหลายๆทาง"

"มีผู้คนเยอะมากจริงๆที่ผมจะต้องขอบคุณ ทั้งคนดูแลเสื้อ นักกายภาพ คุณครู เชฟ นักโภชนาการ ทีมรักษาความปลอดภัย โค้ช และทุกๆคนที่เกี่ยวข้อง พวกเขาทำหน้าที่ของตนเองในการทำให้ผมได้กลายเป็นนักเตะอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้"

 "พวกเขารู้กันเองดีว่ามีใครบ้าง และรู้ว่าพวกเขาสำคัญสำหรับผมและครอบครัวมากขนาดไหน พวกเรารู้สึกขอบคุณตลอดไป"

"อะคาเดมี่เป็นสถานที่พิเศษที่ทำให้ความฝันเป็นจริงมากมาย โดยเฉพาะสำหรับผม ผมจะไม่มีวันลืมช่วงเวลาที่ยืนอยู่ข้างสนามที่โรงละครแห่งความฝันที่นี่ ที่รอจะออกไปลงสนามเพื่อเดบิวต์ มันเป็นความรู้สึกที่ภาคภูมิใจมากซึ่งจะอยู่กับผมไปตลอดกาล"

"การได้ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในเกมยุโรปถือเป็นหนึ่งในความภูมิใจที่สุดเท่าที่จะมีได้ในเส้นทางอาชีพ ผู้คนไม่รู้ว่าเราจะต้องทุ่มเทและอุทิศตนเองขนาดไหนเพื่อจะได้รับการเดบิวต์และทำตามความฝันเช่นนั้นได้สำเร็จ"

"แฟนบอลมหัศจรรย์มากสำหรับผมในวันนั้น ได้รับความรักและการสนับสนุนทั้งตัวผมและครอบครัวอยู่เสมอ ผมไม่เคยลืมสิ่งนี้เด็ดขาด"

"ผมจะเป็นแฟนบอลของแมนยูไนเต็ด และจะรักสโมสรแห่งนี้ตลอดไป"

"มันถึงเวลาที่จะต้องไปแล้ว และต้องสู้กับความท้าทายใหม่ๆ มันเป็นสิ่งที่ผมรอคอย และผมจะทุ่มเทตัวเองด้วยระดับความมุ่งมั่นเช่นเดียวกันนี้ จะอุทิศตัวเองเพื่อไปให้ไกลในเส้นทางอาชีพนี้"

"เป็นโอกาสอย่างที่มันสมบูรณ์ที่สุด และผมอยากจะเริ่มต้นมันเร็วๆแล้ว"

ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่งที่รู้ฝีเท้าของน้องดีว่า ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกนักเตะเก่งๆจากสโมสรอื่นๆ ที่เราเขียนรีวิว ที่เราชื่นชมว่าเก่ง และอยากได้ตัวเข้ามาเลย สำหรับเราแล้วการจากลาครั้งนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำใจ เหมือนกับเคสอื่นๆที่นักเตะเยาวชนของเราไม่สามารถขึ้นมายึดตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ได้ ก็ต้องเดินออกจากสโมสรแห่งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดอยู่แล้ว

แต่ฝีเท้าระดับเอกอุที่ยังพัฒนาได้อีกเยอะในอนาคต กับการเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติอิรัก และจะได้วาดลวดลายฝีเท้าให้เราเห็นอีกเพียบ ซึ่งเอฟซีอูเทรค จะไม่ใช่สโมสรสุดท้ายที่ซีดาน อิคบาล จะหยุดพัฒนาการของเขาแน่นอน เขาจะต้องได้เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆอีกแน่

และสักวันหนึ่ง เราอาจจะได้เจอกันอีก ไม่ว่าที่ไหน ด้วยสถานะได้ ต้องได้เจอกันแน่ๆ ขอส่งกำลังใจไปให้เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของน้อง ประสบความสำเร็จในทุกๆแห่งที่ไป ไม่จำเป็นต้องเป็นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่ขอให้ได้เล่นฟุตบอลอย่างมีความสุข กับสิ่งที่ตนเองเลือก กับสิ่งที่เจ้าตัวต้องการ แค่นั้นก็พอ

ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างซีดาน พวกพี่จะตามเชียร์น้อง และจะรอดูวันหนึ่งที่นายขึ้นมายืนหยัดในฐานะนักเตะแนวหน้าของวงการฟุตบอลนะ

Good bye Zidane.. Once a red, always a red