หนแรกปี 2017 ตอนหัวหอกฝรั่งเศสอยู่ โมนาโก ครานั้น มาดริด ตกลงกับ ดิมิทรี รีโบลอฟเลฟ ได้แล้ว แต่โดน เปแอสเช ปาดหน้า
ยักษ์ใหญ่ปารีเซียงหว่านล้อมด้วยสัญญามูลค่ามหาศาล ขณะที่ตัว เอ็มบั๊บเป้ ตอนนั้นต้องการลงเล่นตัวจริง เมื่อฝั่ง มาดริด ยังมี ‘ลา เบเบเซ’ อยู่ ก็เกิดความกังวล แถมการก้าวกระโดดสู่ ลา ลีกา ในวัย 17 นั้น ก็ถือว่ามีความเสี่ยงไม่น้อย ทั้งเรื่องของสไตล์ฟุตบอล, การปรับตัว ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะพูด-ฟังสแปนิชได้ก็ตาม
มาหนที่ 2 ปี 2021 หนนั้น มาดริด ไล่ล่าแบบสุดระทึก ด้าน เอ็มบั๊บเป้ ก็มีใจให้แล้ว ทีมชุดขาวอัพค่าตัวเป็นบ้าเป็นหลัง กระทั่งข้อเสนอสุดท้ายพุ่งไปถึง 200 ล้านยูโร แต่ เปแอสเช ก็นิ่ง ยักไหล่ ไม่ขายท่าเดียว เรื่องก็เลยจบ
หนที่ 3 ก็เมื่อซัมเมอร์ 2022 ที่ผ่านมา ที่ทุกอย่างระหว่าง เอ็มบั๊บเป้ กับ เรอัล มาดริด เหมือนจะตกลงกันได้แล้ว สัญญาก็กำลังจะหมด เปแอสเช ถูกบีบอย่างหนัก เพราะถ้าปล่อยไปถึงมกราคม 2023 เขาสามารถเซ็นล่วงหน้ากับใครก็ได้
มาดริด ก็คิดว่าไม่พลาดแน่นอนแล้ว เตรียมเงินไปสู่ขอเต็มที่ แต่วินาทีสุดท้าย เอ็มบั๊บเป้ กลับลำ ! โทรหา ฟลอเรนติโน่ เปเรซ แจ้งว่าเขาไปไม่ได้แล้ว
เรื่องนี้เล่นเอาแฟนมาดริดถึงกับหงายหลัง บางคนสาปส่งไม่เอาแล้วคนที่ชื่อ เอ็มบั๊บเป้ !!
เปแอสเช ให้ทุกกลวิธี มุกเดิมถูกงัดมาใช้ ให้ผลตอบแทนมหาศาล ยกให้เป็นผู้นำของเมกะโปรเจ็กต์ จนแฟนบอลแซวกันว่า “ประธานเป้”
เท่านั้นไม่พอยังมี เอ็มมานูเอล มาครง นายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศสยังมาช่วยกล่อมด้วยอีกแรง โดยยกเหตุผลเรื่องชาติบ้านเมืองต้องการเขา เพราะเขาคือไอคอนของประเทศ เป็นหน้าเป็นตา เป็นสตาร์เบอร์สำคัญที่สุดของ ลีก เอิง ที่สามารถเรียกคนดูได้
นอกจากนี้แล้ว ฝรั่งเศส เองก็กำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งโอลิมปิก ฤดูกาลร้อน ‘ปารีส 2024’ อีกด้วย ภาพมันคงสวยงาม หากว่านักกีฬาเบอร์หนึ่งของประเทศที่ถือธงชาติเดินขบวนพาเหรดในพิธีเปิด ยังลงเล่นให้กับสโมสรสำคัญของประเทศ ซึ่งภายหลัง เอ็มบั๊บเป้ ก็ให้สัมภาษณ์ว่า ครั้งนั้นเขาไม่ได้ตัดสินใจเพื่อตัวเอง แต่เพื่อบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่า ถือเป็นการตอกย้ำเหตุผลว่า “นี่คือการต่อเพื่อชาติ”
เอ็มบั๊บเป้ ต่อฉบับล่าสุดกับ เปแอสเช ในซัมเมอร์ปี 2023 ด้วยสัญญา 2 ปี บวกอ๊อปชั่นต่อเพิ่มอีก 1 ปี ซึ่งฉบับนี้ผลประโยชน์ที่กลุ่มทุนกาตาร์มอบให้นั้นมหาศาลจริงๆ
ค่าเหนื่อยปีละ 70 ล้านยูโร ค่าเซ็นสัญญาปีละ 60 ล้านยูโร และโบนัสความจงรักภักดีอีกปีละ 60 ล้านยูโร เบ็ดเสร็จสัญญา 2 ปี เปแอสเช จ่ายทั้งสิ้น 380 ล้านยูโร และถ้าใช้อ๊อปชั่นต่อสัญญาก็ประเมินกันว่าขั้นต่ำก็จะอยู่ที่ 570 ล้านยูโร
ตัวเลขข้างต้นนี้เป็นผลตอบแทนก่อนหักภาษี เอ็มบั๊บเป้ รับจริงๆแบบเน็ตคือราวปีละ 100 ล้านยูโร หรือ 3,700 ล้านบาท
ค่าเซ็นสัญญาจะจ่ายในทุกๆเดือนกรกฏาคม ส่วนโบนัสความจงรักภักดีปีละ 60 ล้านจ่ายเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่ฤดูกาลเปิดไปแล้ว หาก เอ็มบั๊บเป้ ยังอยู่กับทีมก็รับไป แต่ถ้าไม่อยู่ เม็ดเงินส่วนนี้ก็แห้ว
ตัวเลขนี้ ว่ากันว่าเป็นอีกหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ มาครง มาช่วย เปแอสเช กล่อม เอ็มบั๊บเป้ เพราะรัฐบาลฝรั่งเศสก็จะได้เงินภาษีจากการนี้ถึงปีละ 100 ล้านยูโร สัญญา 2+1 ก็มีสิทธิ์ขยับไปถึง 300 ล้านยูโร
กับคำถามสำคัญอันเป็นที่มาของบทความนี้ : เอ็มบั๊บเป้ จะย้ายในซัมเมอร์นี้หรือไม่ ?
ลองคิดตามครับ หาก เอ็มบั๊บเป้ ย้าย เขาจะพลาดค่าตอบแทนในปี 2023 ไปราว 100 ล้านยูโร หรือ 3,700 ล้านบาท และเท่านั้นไม่พอ หากย้ายในลักษณะนี้ เอ็มบั๊บเป้ จะพลาดโบนัสอีกก้อนโตที่ มาดริด เตรียมไว้ให้ในหน้าร้อนปี 2024
ถ้า เอ็มบั๊บเป้ ย้ายมาในปี 2024 นอกจากจะได้ค่าเหนื่อย+โบนัสจงรักภักดี+ค่าเซ็นสัญญากับ เปแอสเช แบบเต็มแม็กซ์แล้ว ในฐานะนักเตะฟรีเอเจนต์ ตามข่าวที่ มาร์ก้า รายงานเขาจะได้โบนัสค่าเซ็นสัญญาจาก มาดริด อีก 130 ล้านยูโร
แต่ถ้าย้ายปีนี้เลย มาดริด จะต้องจ่ายค่าตัวให้ เปแอสเช ก็หมายความว่า เอ็มบั๊บเป้ นอกจากจะชวดเงินก้อนใหญ่ ค่าเหนื่อย+โบนัสจงรักภักดี+ค่าเซ็นสัญญาจากเปแอสเช แล้ว ก็ยังจะพลาดโบนัสค่าเซ็นสัญญา 130 ที่ มาดริด เตรียมไว้อีกด้วย เพราะไม่ได้มาฟรี
อีกหนึ่งความเป็นไปได้ หากการโยกย้ายในซัมเมอร์นี้จะเกิดขึ้น ก็คือ มาดริด ใจป้ำ ยอมจ่ายให้ เอ็มบั๊บเป้ และ เปแอสเช ในราคาที่ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับได้
เรื่องค่าตัวคาดว่ายักษ์ใหญ่ปารีเซียงเรียกไม่ต่ำกว่า 200 ล้านยูโรแน่ๆ แล้วถ้าจะให้ เอ็มบั๊บเป้ ไม่ต้องเสียผลประโยชน์ที่พึงได้จากการผิดแผนย้ายออกมาก่อน 2024 มาดริด ก็จะต้องรับผิดชอบจ่ายอีกราว 200 ล้านยูโร
เบ็ดเสร็จเพื่อให้ได้ตัวในปีนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่า มาดริด จะต้องจ่าย 400 ล้านยูโร !
400 ล้านยูโรในปีนี้ กับ เสียแค่ 130 ล้านยูโร +ค่าเหนื่อยปีละ 50 ล้านยูโรในซัมเมอร์ 2024 คุณคิดว่า มาดริด อยากได้ เอ็มบั๊บเป้ ปีไหน อ๊อปชั่นใด ?
จากบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ เอ็มบั๊บเป้ ก็นับได้ว่าแรงอยู่ เช่นเดียวกับคอมเมนท์ของ อัลเคไลฟี่ ที่ไล่ให้ย้ายทีม ก็แร๊งส์ ไม่แพ้กัน
ฟังดูเหมือนคู่นี้ไม่เผาผีกันแล้ว ดูยังไงก็แตกหักแน่นอน
แต่ถามว่าก่อนหน้านี้ อัลเคไลฟี่ ชอบ เอ็มบั๊บเป้ ในฐานะสุดยอดนักฟุตบอลหรือเพราะเขามีมูลค่ามหาศาลทั้งในและนอกสนาม ?
ถามต่ออีกว่าปีที่แล้วที่ เอ็มบั๊บเป้ ไม่ย้ายออก เพราะรัก เปแอสเช และอยากจะทำเพื่อชาติบ้านเมืองสุดหัวใจ ?
ครับ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างสมประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ เกาะเกี่ยวกันด้วยผลตอบแทน ดังนั้นแล้ว ตราบใดที่ยังมองเห็นประโยชน์กันและกันอยู่ สถานการณ์ก็สามารถพลิกผันได้ตลอดเวลา
หากเอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง ส่วนตัวคิดว่า เอ็มบั๊บเป้ กับ เรอัล มาดริด อยากให้การย้ายเกิดขึ้นในปี 2024
และหากเอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง สุดท้ายแล้ว อัลเคไลฟี่ อาจจะต้องยอมจ่ายหนักอีกครั้ง หรือไม่ก็พลิกเกมไล่กดดันจน เอ็มบั๊บเป้ ทนไม่ไหว ต้องขอย้ายปีนี้
สุดท้ายแล้ว กรณีของ เอ็มบั๊บเป้ จะจบแบบไหน ?
ณ เวลานี้ตอบยากมากครับ เพราะดีลนี้ผลประโยชน์มหาศาล ตัวละครก็เยอะ แถมพาวเวอร์แต่ละคนไม่ธรรมดาทั้งสิ้น นี่ก็ยิ่งใหญ่ โน้นก็โคตรรวย นั่นก็สุดยอดนักเตะ
แต่อ่านเกมตอนนี้ มาดริด งานนี้รับบทสบายสุด นั่งบนภูดูเสือสู้กัน แล้วท่องในใจว่า...
(ปีนี้) ไม่ตื้อ ไม่ซื้อ ไม่คุย (ปีหน้า) สอยฟรีอย่างเดียว ที่เหลือให้เป็นเรื่องของ เอ็ม กับ เปแอสเช
เจมส์ ลา ลีกา
