ดาวเตะเบอร์ 10 คนใหม่ของ ลิเวอร์พูล อย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่แม้ว่านามสกุลจะเป็นไอริชจ๋า แต่จริง ๆ แล้วเขาเกิดและโตที่อาร์เจนติน่าร้อยเปอร์เซ็นต์ ทว่า สาเหตุที่นามสกุลของเขามีความเป็นไอริช ก็เพราะว่าครอบครัวของเขาอพยพไปตั้งรกรากที่อาร์เจนติน่ามาตั้งแต่หลายชั่วอายุคนแล้ว ซึ่งข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่าประเทศอาร์เจนติน่าในปัจจุบันมีคนที่มีเชื้อสายไอริชอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากถึงหลักล้านคนเลยทีเดียว แม็ค อัลลิสเตอร์ เติบโตมาในครอบครัวนักกีฬาครับ พ่อของเขาเองก็เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลที่เคยเล่นร่วมกับ ดิเอโก้ มาราโดน่า ในทีม โบคา จูเนียร์ส มาแล้ว โดยที่เล่นตำแหน่งแบ็คซ้าย นั่นจึงทำให้เขามีสายเลือดของนักฟุตบอลติดตัวมาแบบเต็มคาราเบล ในวัยเด็ก แม็ค อัลลิสเตอร์ เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลอาชีพจาก อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส โดยเข้าร่วมในสโมสรนี้กับพี่น้องอีกสองคนอย่าง เควิน และ ฟรานซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โดยเขาถูกโปรโมตขึ้นชุดใหญ่ครั้งแรกตอนปี 2016 และทำผลงานได้โดดเด่นกว่าใครในบรรดาพี่น้องทั้งหมด มีตัวเลขในการเล่นทีมชุดใหญ่คือลงสนาม 83 นัด ยิงไป 12 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์ จนทำให้ฟอร์มการเล่นไปเข้าตาแมวมองของ ไบรท์ตัน และย้ายมาร่วมทัพในช่วงตลาดเดือนมกราคมปี 2019 แต่มาเล่นพรีเมียร์ลีกแบบจริงจังก็คือช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2019-20 แม็ค อัลลิสเตอร์ เล่นได้เด่นแบบเงียบ ๆ กับ ไบรท์ตัน มาสักพักใหญ่ ๆ ก่อนที่จะเริ่มถูกจับตามองมากขึ้นก็ในช่วงฟุตบอลโลกที่กาตาร์ จากผลงานลงสนามตัวจริง 6 นัด ยิงได้ 1 ประตู 1 แอสซิสต์ และเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญในการคว้าแชมป์โลก เขาเล่าว่า "ช่วงเวลาที่กาตาร์จะเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ผมไม่ลืมเลย" "เมื่อกลับมาที่ ไบรท์ตัน ผมรู้ดีว่ามีความท้าทายอันยิ่งใหญ่รออยู่ เพราะผมกลับมาในฐานะแชมป์โลก ดังนั้นจึงยากที่คนจะไม่คาดหวังสิ่งต่าง ๆ จากผมมากขึ้น"
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ รับมือกับความกดดันได้ดีมากนะครับ เขาเป็นหัวใจของทีมในแดนกลางชนิดที่ขาดไม่ได้ ทั้งเชื่อมเกม ตัดบอล ปั้นเกมรุกและทำประตู เรียกได้ว่าเป็นเหมือนวาทยากรคนสำคัญตรงกลางสนามเลยก็ว่าได้ "ตอนมาที่อังกฤษใหม่ ๆ ผมมีปัญหาเยอะพอสมควร ทั้งการปรับตัว ภาษาและวัฒนธรรมทางฟุตบอลที่นี่ แต่ทุกคนที่สโมสรรวมถึงแฟนบอลต่างก็ให้การต้อนรับและช่วยเหลือผมเป็นอย่างดีมาตลอด นั่นคือเรื่องที่ผมตอบแทนพวกเขายังไงก็ไม่หมดเลย" สถิติในฤดูกาลที่ผ่านมาของ แม็ค อัลลิสเตอร์ กับนกนางนวลดูดีมาก นับแค่ในพรีเมียร์ลีกเขาลงเล่นมากถึง 35 นัด ยิงได้ 10 ประตู 2 แอสซิสต์ เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมทั้งที่เล่นกองกลาง จ่ายบอลสำเร็จถึง 1,573 ครั้ง สร้างโอกาสการทำประตูให้ทีมอีก 47 ครั้ง และตัดบอลแย่งบอลคืนมาได้อีกถึง 20 ครั้ง นอกจากนี้ยังทำฟาวล์คู่แข่งแค่ 35 ครั้งเท่านั้น สไตล์การเล่นของเขาค่อนข้างสารพัดประโยชน์ สามารถเล่นได้หลายบทบาทในแดนกลาง ทั้งตัวรับ ตัวโฮลด์บอล หรือจะปรับเปลี่ยนมาเป็น บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ก็ได้ โดยเป็นตัวทำเกมที่เล่นได้ดีแบบเงียบ ๆ มาตลอด ไม่เพียงแต่สร้างสรรค์เกมได้อย่างชาญฉลาด แต่เขายังสอดขึ้นไปจบสกอร์ได้เก่ง มีทีเด็ดจากลูกฟรีคิกและเป็นมือสังหารจุดโทษที่แม่นยำมาก โดยสถิติในฤดูกาลนี้คือยิงจุดโทษ 6 ลูกโดยที่ไม่เคยพลาดเลย สกาย สปอร์ตส์ ระบุว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ สามารถขยับจากพื้นที่แดนกลางสอดเข้ามากลายเป็นกองหน้าอีกคนในแดนบนแบบฟอลส์ไนน์ได้เช่นกัน ด้วยความหลากหลายแบบนี้ไม่แปลกใจเลยที่ทำไม เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงได้นิยมชมชอบและอยากได้ตัวมาร่วมทีม ยังไม่พอนะครับ จุดที่น่าสนใจมาก ๆ คือเขาเล่นเพรสซิ่งดีมาก ๆ ซึ่งเวลาเขาไล่เพรสตั้งแต่แดนบนนั้น จะทำให้แนวรับคู่แข่งออกบอลยากมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับวิธีการเล่นของ ลิเวอร์พูล พอสมควร โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กุนซือของ ไบรท์ตัน ยกย่องว่าลูกทีมคนนี้มีดีในการเล่นได้กับทุกทีมในโลก "แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นนักเตะคนสำคัญของเรา เขาได้แชมป์โลกมาแล้วโดยเป็นตัวจริงตลอด นั่นคือเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดี" "ทีมของเราโขคดีที่มีนักเตะแบบนี้อยู่ เขาทำให้ทีมไหลลื่น เชื่อมเกมดี เพรสซิ่งเก๋งเป็นนักเตะสมัยใหม่เต็มตัว ช่วยให้งานของคนอื่น ๆ ง่ายขึ้นมาก" จุดเด่นของเขาอาจไม่ใช่เรื่องแอสซิสต์ แต่เป็นการยิงจุดโทษ ฟรีคิก และการทะลุทะลวงเข้าเขตโทษ รวมถึงการวิ่งเพรส แย่งบอล และทำหน้าที่ได้หลากหลายตรงกลางสนามมากกว่า ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ของ ลิเวอร์พูล ได้สบาย ๆ เลย และจากการลงเล่นเกมกระชับมิตรนัดแรกไปแล้ว ผลงานโดยรวมถือว่ามีแววเลย ดิโอโก้ โชต้า ที่ยิงในเกมกระชับมิตรไป 2 ลูก ออกปากชม แม็ค อัลลิสเตอร์ ว่า "ผมชอบเขามาก การได้เล่นกับผู้เล่นสไตล์แบบนี้ เขาเห็นการวิ่งทำทางของผม มันเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก ผมคิดว่าผมประสานกับผู้เล่นแบบนี้ได้ดีเลยล่ะ และหวังว่าเราจะนำสิ่งนี้เข้าสู่ฤดูกาลได้" ขณะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก็ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ทางการของสโมรว่า "เขาปรับตัวได้ดีมาก" "แฟนบอลจะต้องคาดหวังในตัวเขาเยอะ แต่จากการซ้อมกับเขาแค่ไม่กี่วัน ผมรู้สึกได้เลยว่าสิ่งที่เขาทำค่อนข้างจะราบรื่นและจะทำได้ดีแน่นอน" "เมื่อเปิดฤดูกาล ผมไม่คิดว่าใครจะมีคำถามเกี่ยวกับคุณภาพของเขา และเขาจะคอบคำถามที่ว่าทำไมเราจ่ายเงินเพื่อคว้าพวกเขามาร่วมทีมได้แน่นอน" "เขาแสดงให้เห็นถึงคุณภาพ จากสิ่งที่ผมเห็นจนถึงเวลานี้ ผมไม่สงสัยเลยว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จกับสโมสรแห่งนี้" แม้ว่าเส้นทางจะอีกยาวไกล และการแข่งขันอย่างเป็นทางการจะยังไม่เริ่ม แต่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มีแววที่ดีในการจะเป็นจอมทัพที่ทีมฝากความหวังเอาไว้ได้ในระยะยาว เจ้าตัวบอกว่า "ตั้งแต่ผมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ผมพูดว่าผมอยากจะคว้าแชมป์เพิ่มขึ้นอีก และผมคิดว่าสโมสรนี้จะช่วยให้ผมทำเช่นนั้นได้ นั่นคือเป้าหมาย และเมื่อได้มาอยู่กับสโมสรที่ใหญ่แบบนี้ ผมอยากช่วยทีมคว้าแชมป์อีกมากมาย" "ตั้งแต่ที่ผมมึงที่นี่ ผมเห็นได้ว่าสโมสรนี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน และตั้งตาคอยที่จะลงเล่นให้สโมสรแห่งนี้" อีกไม่กี่สัปดาห์ เราจะได้เห็นแล้วว่าเบอร์ 10 คนนี้จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน และจะตอบโจทย์แท็กติกใหม่ของ คล็อปป์ ได้อย่างไร แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วจริง ๆ
