:::     :::

เปิดใจ อิสโก้ ครั้งแรกในรอบ 5 ปี กับความจริงที่ไม่เคยเล่า (ตอนจบ) , จนวันนี้ โซลารี่ ก็ไม่เคยอธิบายอะไรกับผมเลย

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
กลับมาติดตามกันต่อครับกับบทสัมภาษณ์สุดเอ๊กคลูซีฟของ อิสโก้ อาลาร์กอน ที่ยอมเปิดใจแบบหมดเปลือกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี และทั้งหมดนี้คือตอนจบ

        ถาม : พวกเขาไล่ โลเปเตกี ออกและดึง โซลารี่ เข้ามา ?

อิสโก้ : จากจุดนั้น อิสโก้ ก็ไม่มีตัวตนสำหรับใครอีกเลย ไม่กับเทรนเนอร์ ไม่ผู้ช่วย ไม่กับใครทั้งนั้น ไม่มีใครอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ให้ผมเล่น ตอนผมถาม โซลารี่ เขาบอกว่ามันไม่มีอะไร แต่เทรนเนอร์คือผู้ตัดสินใจ , ผมได้ลงเล่นเกมนึง จำได้ว่าเป็นนัดพบ เมลีย่า และอีกหลายเกมที่ผมต้องขึ้นไปนั่งดูบนอัฒจรรย์อย่างเช่นเกมกับ โรม่า ไม่แม้กระทั่งมีชื่อบนม้านั่งสำรอง เขาเอาผมบินไปด้วยเพื่อที่จะให้นั่งดูเกมบนอัฒจรรย์ และผมไม่รู้สึกถึงการสนับสนุนจากใครเลยแม้กระทั่งสโมสร 

ถึงตรงนี้ มองในทุกมิติแล้ว มันคือช่วงเวลาที่ผมเห็นว่าตัวเองควรจะต้องย้ายออกไป แต่ว่าการย้ายจาก เรอัล มาดริด นั้นมันยากมาก เพราะอย่างที่ผมได้บอกคุณไป ผมมักจะพลิกสถานการณ์ได้เสมอ หลายฤดูกาลที่สโมสรเรียกผมไปเพื่อบอกว่ามีข้อเสนอมาถึงผม หรือไม่ก็พวกเขาจะเซ็นสัญญานักเตะใหม่ที่เล่นตำแหน่งผม และผมจะต้องพบกับความยากลำบากในการลงเล่น แต่ว่าผมตอบสนองเสมอ เหมือนที่ผมสู้มาตลอดกว่าจะมายืนในจุดนี้ได้ และผมไม่แคร์ว่าจะต้องแข่งขันกับใครถ้าหากว่ามันจำเป็น ทว่าครั้งนี้มันเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป ผมแค่ต้องย้ายออกไปเท่านั้น 


ถาม : แล้วมันเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับ โซลารี่ ?

อิสโก้ : ตอบจากใจเลยนะ ผมเองก็ยังไม่รู้จนวันนี้ หลังจากผ่านเกมที่ผมต้องนั่งดูอยู่บนอัฒจรรย์สัระยะนึง เขาก็ไม่เคยอธิบายอะไรกับผมเลย ผมได้รับสายจากเขาที่บอกว่าผมซ้อมดี และเขาเริ่มที่จะมั่นใจในตัวผม เขาบอกผมแบบนั้น วันนึงผมมีอาการบาดเจ็บและไม่มีชื่ออยู่ในทีม ในใจผมคิดว่าที่คุยกันไว้คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ปรากฏว่าเกมต่อมาเขาให้จับผมไปนั่งดูบนอัฒจรรย์อีกครั้ง แบบนี้ผมเลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเขาคิดยังไงกับผม...แน่นอนว่าผมเองก็ผิดที่ว่าผมควรจะย้ายออกไป แต่ว่าพอดีกับช่วงที่ ซีดาน กลับเข้ามา กับเขาทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้น 




ถาม : คุณคาดหวังกับ ซีดาน มากกว่า ?

อิสโก้ : ไม่, ความจริงผมคิดว่า ซีดาน คาดหวังกับผมมากกว่า 


ถาม : แล้วคุณก็ยอมแพ้ ?

อิสโก้ : ซิซู มาในช่วงท้ายฤดูกาล และผลงานมันออกมาไม่ดี เอาจริงๆแล้วปีนั้นมันเป็นปีที่หนักมาก ผมรู้สึกพังมากๆ เช่นเดียวกับหลังช่วงฟุตบอลโลก หัวกับร่างกายผมมันไม่ทำงานเลย, ฤดูกาลต่อมาผมเริ่มด้วยการไม่ได้ลงเล่น แต่ว่าก็มีเสียงคลิ๊กดังขึ้นในหัวผม แล้วก็เกิดเหตุการณ์แบบที่เคยเกิดขึ้นมาตลอดหลายปี ผมเริ่มได้ลงเล่นเกมสำคัญ กับ เปแอสเช ในแชมเปี้ยนส์ลีก,กับ บาร์ซ่า ที่ คัมป์ นู , ซูเปร์โกปา ที่ ซาอุดิอาระเบีย , กับ แมนฯซิตี้ ในแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งผมยิงประตูได้...ผมกลับมาได้อีกครั้ง 

แต่ว่าหลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ผมก็ไม่ได้โอกาสลงเล่นอีก , ตอบแบบไม่โกหก ผมมาจากข้อเสียของผมเอง และปีต่อมาผมก็ทำได้ไม่ดี และช่วงเวลาดีๆกับ มาดริด ก็เริ่มจบลง 

กับ คาร์เล็ตโต้ ผมลงเล่น 2-3 เกม แล้วก็แค่นั้น แต่ว่าเขาเป็นคนที่จริงใจกับผม และผมยอมรับสิ่งนั้น ผมพยายามที่จะซ้อมให้ดี พยายามคว้าโอกาสในทุกครั้งที่เขาส่งผมลงสนาม 


ถาม : มีช่วงเวลานึงที่คุณเคยอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักเตะที่ดีที่สุด เป็นสตาร์ดังระดับในโลก และเคยถูกมองว่ามีศักยภาพที่จะคว้าบัลลงดอร์ได้ ?

อิสโก้ : ผมมีช่วงเวลาที่ดี ความจริงก็คือในปีฟุตบอลโลกที่ รัสเซีย และฤดูกาลก่อนหน้านั้นมันดีมากๆ แต่ว่าพอฟุตบอลโลกเริ่มขึ้น ทุกอย่างก็พังลงมา 


ถาม : คุณเริ่มไม่สนุกเวลาอยู่ในสนาม ?

อิสโก้ : ทุกคนจะสังเกตเห็นได้ชัดเวลาผมรู้สึกสนุกและในตอนที่ผมไม่สนุก ตอนที่ ยูเลน ไป แล้ว โซลารี่ ย้ายเข้ามา ผมไม่มีโอกาสเลย ตอนนั้นผมรุ้สึกกระวนกระวาย แบบว่า ชิบหายแล้ว ผมคิดอย่างนั้น ฉันมีหลายปีที่สุดยอด แล้วตอนนี้ฉันมาเป็นแบบนี้แล้วเหรอ ? ผมต้องทำอะไรเพิ่มอีกเพื่อที่พวกเขาจะเห็นว่าผมสำคัญต่อสโมสร ? 

ใช่, พวกเขาต่อสัญญากับผมในปีฟุตบอลโลกนั่นเพราะผมเหลือสัญญาอีกปีเดียว และผมกำลังทำได้ดี และเพราะพวกเขากลัวว่าผมจะย้ายไปอยู่กับทีมคู่แข่ง 



ถาม : คุณกำลังพูดถึง บาร์ซ่า ?

อิสโก้ : ใช่ ผมพูดถึง บาร์ซ่า , บาร์โตเมว โทรหาผม แต่ผมมีความสุขดีกับ มาดริด , กับเพื่อนร่วมทีม,กับรรยากาศที่เหลือเชื่อภายในห้องแต่งตัว...นี่คือทีมในฝันของผม ผมประสบความสำเร็จกับทีมที่ผมใฝ่ฝัน...ผมจะไม่ย้ายออกจาก มาดริด แม้ใครจะเอาทองทั้งโลกมากองให้ , ที่เมืองมาดริดก็มหัศจรรย์ ผมมีความสุขและสนุกมากๆที่ มาดริด ผมรู้ว่าผมจะไม่มีทางมีความสุขแบบนี้ได้ในที่อื่น


ถาม : แล้วอะไรทำให้ อิสโก้ แย่ลง ?

อิสโก้ : ในช่วงโควิดระบาด, มันเหมือนเราไม่มีกำหนดที่แน่นอนว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีความชัดเจน และผมก็เริ่มปล่อยตัว ผมไม่ได้ทำงานหนักที่บ้านเหมือนอย่างที่เคยทำในสนามซ้อม ในตอนที่คุณไม่ได้เล่นฟุตบอล เหนืออื่นใดก็คือเรื่องสภาพร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องชดใช้ แต่ว่าจากจุดนั้นผมบอกคุณได้ว่าผมกลับมามีไฟอีกครั้งและเริ่มทำงานอย่างหนัก แต่ฟุตบอลนั้นก็ขึ้นอยู่กับเทรนเนอร์ และกับเพื่อนร่วมซึ่งดีกว่าคุณ และนั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องยอมรับ 


ถาม : ทีมที่จะเซ็นสัญญากับ อิสโก้ พวกเขาจะเจอกับอะไร ?

อิสโก้ : พวกเขาจะได้เจอกับ อิสโก้ คนที่ทำงานหนัก มีความกระหายในการลงเล่นฟุตบอล กระหายที่จะแสดงให้เห็นว่าสภาพร่างกายยังดีอยู่ ผมยังคงมีแรงจูงใจ มีความปรารถนาที่จะเล่นฟุตบอล ผมยังหนุ่มแน่น และผมอยากที่จะลงฝึกซ้อม ผลักดันทีม ต่อสู้แข่งขัน...ผมยังมีความทะเยอทะยาน


ถาม : เราจำไม่ได้ว่าคุณเคยบาดเจ็บหนักหรือเปล่า ?

อิสโก้ : ไม่ ไม่เคยเจ็บหนัก, ผมไม่เคยเจ็บกล้ามเนื้อเลย ส่วนใหญ่ผมเจ็บข้อเท้าในบางครั้ง แต่มันก็แค่นั้น 


ถาม : ถ้างั้น ผมพูดยังงี้ได้หรือเปล่า แม้ว่าคุณจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับคนที่บาดเจ็บหนักได้ คุณคิดว่าสิ่งที่คุณเจอในตอนนี้มันเลวร้ายกว่าการเจ็บหนักหรือเปล่า ? 

อิสโก้ : ผมคิดว่ามันเลวร้ายกว่าอาการบาดเจ็บนะ เพราะตอนที่คุณบาดเจ็บ คุณยังเห็นเพื่อนร่วมทีม คุณสามารถเข้าไปหาพวกเขาที่ห้องแต่งตัวได้ แชร์ช่วงเวลาร่วมกัน คุณได้เข้าไปดูเกม แต่ตอนนี้ผมต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ต้องอยู่ที่บ้าน ,ซ้อมคนเดียว...ตอนนี้ผมไม่มีลูกฟุตบอลที่จะทำให้ยิ้มได้ แต่ผมหวังมันจะจบลงเร็วๆนี้ ผมอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องเลือก ต้องตัดสินใจให้ดี เพราะผมไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดอีก ผมไม่ตเองการเส้นทางผิดๆอีกกับอาชีพของผม มันอาจยากที่จะจัดการ แต่ผมคิดว่าผมสามารถก้าวข้ามมันไปได้ เพราะผมเป็นพวกกล้าหาญ และทำจริง ผมไม่ต้องการความผิดพลาดในชีวิตอีกแล้ว 


ถาม : คุณจะเล่นฟุตบอลต่อไปแน่ๆใช่มั๊ย ? คุณไม่คิดจะแขวนสตั๊ดนะ ?

อิสโก้ : ผมยังไม่เลิก, ไม่ว่าจะที่ไหน ผมจะยังคงลงเล่นฟุตบอล ผมอยู่กับฟุตบอลมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และผมไม่เคยหยุดมันเลย จนกระทั่งตอนนี้ ผมจะกลับมาเร็วๆนี้ ผมเคยได้รับข้อเสนอจาก อิตาลี,ตุรกี,ซาอุดิอาระเบีย และ สเปน แต่ช่วงนั้นผมไม่ต้องการไปไหนในตอนที่สภาพจิตใจยังไม่พร้อม แต่ว่าตอนนี้ผมพร้อมแล้ว 



ถาม : คุณมองสเปนไว้เป็นลำดับแรกหรือเปล่า ?

อิสโก้ : ผมมองโอกาสการไปเล่นต่างประเทศก่อนเป็นลำดับแรก , ผมเคยเล่นกับ บาเลนเซีย,มาลาก้า,เซบีย่า และ มาดริด มาแล้ว ผมใฝ่ฝันที่จะมีประสบการณ์ลงเล่นในต่างประเทศบ้าง เพื่อที่ผมจะได้เรียนรู้ภาษาอื่นๆ , ไปเติบโตที่นอกสเปนบ้าง ผมไม่ปิดกั้นโอกาสไหนทั้งสิ้น 


ถาม : ข่วงนี้คุณดูฟุตบอลบ้างหรือเปล่า ?

อิสโก้ : ดูครับ, มีช่วงนึงที่ผมตัดขาดมันไปเลย แต่ว่าที่สุดแล้วมันก็อยู่ในตัวผม และผมก็กลับมาดูเกมอีกครั้ง และการดูฟุตบอลทำให้ผมยังคงมีความกระหายในการลงเล่น ผมรู้สึกอิจฉาเพื่อนร่วมทีมที่กำลังเล่นฟุตบอล เพราะผมเกิดมาเพื่อลงเล่น ผมคิดถึงการผูกเชือกรองเท้า,คิดถึงสนามหญ้า ออกไปฝึกซ้อม..ผมคิดถึงมันมากๆ 


ถาม :  ส่วนตัวคุณเปลี่ยนไปหรือเปล่า ?

อิสโก้ : ตอบจากใจเลยไม่เคยมีช่วงเวลาไหนเลยที่ผมขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดแล้วเท้าของผมไม่ติดดิน รวมไปถึงช่วงที่ต่ำสุดด้วย ผมคิดว่าผมค่อนข้างจะสมดุลนะ ตอนนี้ในยามที่สิ่งต่างๆไม่ได้เป็นอย่างที่ผมต้องการ ผมก็หันไปให้คุณค่ากับสิ่งอื่นๆ ผมมีช่วงเวลาที่มีความสุขกับครอบครัวซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดมาโดยตลอด ได้ใช้เวลากับลูกๆ เรื่องนี้ช่วยผมได้มาก 


ถาม : คุณยังเหลือฝันอะไรที่อยากทำให้เป็นจริงอีกมั๊ย ?

อิสโก้ : ผมมองว่ามันยาก เอาจริงๆ ผมอยากที่จะคว้าแชมป์สักแชมป์ร่วมกับทีมชาติ ผมติดค้างในใจกับเรื่องนี้ เพราะผมได้เล่นฟุตบอลโลกแค่สมัยเดียว แล้วก็ไม่เคยเล่นยูโรเลย ถ้าให้ยกตัวอย่างนะ 


ถาม : นี่เป็นความท้าทายที่งดงามว่ามั๊ย ?

อิสโก้ : ทำไมมันจะเกิดขึ้นไม่ได้ล่ะ ผมเห็น นาบาส,กาซอร์ล่า และ อัลบิโอล พวกเขากลับมาได้ในช่วงเวลานึงเพราะทำงานหนักและเล่นได้ดี ผมไม่สูญเสียความหวัง หรือความมุ่งหวังใดๆ ผมกระหายที่จะผลักดันตัวเองและถอนหนามที่ยอกอกในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ออก 

ผมต้องการกำจัดหนามเหล่านี้ในอีก 6-7 หรือ 8 ปีนับจากนี้ เมื่อผมเลิกเล่นผมจะสามารถพูดได้ว่าผมรู้วิธีในการเปลี่ยนช่วงเวลาที่เลวร้าย ผมต้องการอำลาฟุตบอลอย่างสวยงาม



ถาม : ในโลกโซเชี่ยล คุณเองก็เงียบหายไปเลย ตอนนี้คุณกำลังกลับมาปรากฏตัวให้เห็นอีกใช่มั๊ย อย่างน้อยคุณก็อัพคลิปและรูประหว่างการซ้อม 

อิสโก้ : ผมได้ยินคนพูดกันเยอะว่าผมขี้เกียจ แม้ว่าผมจะรู้สุกอายหน่อยๆที่จะอัพรูปการฝึกซ้อมนั้นขึ้นโซเชี่ยล  แต่ไม่เป็นไร ด้วยความช่วยเหลือจากนักบำบัดและเทรนเนอร์ส่วนตัว ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาพอสมควร ความจริงก็คือผมลงซ้อมวันละ 2-3 เซสชั่นมาสักพักใหญ่แล้ว และผมก็ต้องการให้ทีมรู้ว่าผมกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม ผมยังไม่ได้บอกลาโลกแห่งฟุตบอลไปไหน ผมกระหายอย่างที่ไม่เคยมาก่อน 


ถาม : แต่โลกโซเชี่ยลมันโหดร้าย มันพร้อมทำลายคุณ ?

อิสโก้ : ใช่ มันเป็นอะไรที่ยากลำบากมาก 


ถาม : คุณอยากให้ลูกคุณ ใครสักคนจาก 3 คนเป็นนักฟุตบอลหรือเปล่า ?

อิสโก้ : คุณเอ๋ย การได้เป็นนักเตะอาชีพนั้นมันสวยงามจริงๆ ถ้าคุณชอบฟุตบอล นั่นมันสุดยอดไปเลย คุณจะได้ออกไปรู้จักกับเมืองต่างๆ,ประเทศต่างๆ ได้รู้จักผู้คนมากมาย นี่คือกีฬามหัศจรรย์ มันคงทำให้ผมเปี่ยมไปด้วยความหวัง (การที่ลูกชายเป็นนักฟุตบอลอาชีพ) แม้ว่าทั้ง 3 คน ผมคิดว่าคงจะเป็นเรื่องยาก แต่ผมจะผลักดันพวกเขาให้ได้ทำในสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจ

(จบบริบูรณ์)

       เจมส์ ลา ลีกา แปล & เรียบเรียง



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด