สำหรับ “อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์” ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ถือเป็นความหวังใหม่ในมิดฟิลด์ของพลพรรค “หงส์แดง” ที่กำลังผลัดเปลี่ยนนักเตะใหม่ โดยเฉพาะตัวขับเคลื่อนในแดนกลาง
ช่วงนี้ เราลองไปดูแรงขับเคลื่อน และแรงบันดาลใจ ในการเล่นฟุตบอลของเขากันหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทาง “ลิโอเนล เมสซี่” กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่เหมือนกับบุคคลที่ส่งอิทธิพลอย่างรุนแรงต่อทาง แม็ค อัลลิสเตอร์ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราลองไปติดตามกันเลย
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ สืบเชื้อสายมาจากชาวไอริช ที่อพยพมายังประเทศอาร์เจนติน่า ทำให้เขามาเกิด และเติบโตที่ย่านลา ปัมปา
ตระกูล “แม็ค อัลลิสเตอร์” คือครอบครัวนักฟุตบอล คุณพ่อของเขาคืออดีตนักเตะอาชีพ ที่ผ่านการเล่นเคียงข้างกับตำนานอย่างดิเอโก้ มาราโดน่า มาแล้ว
แม็ค อัลลิสเตอร์ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับอาร์เจนติโนส จูเนียร์ และลงเล่นทีมชุดใหญ่ ด้วยวัยเพียง 17 ปี ก่อนที่ปัจจุบัน เขาจะย้ายมาเล่นกับไบรท์ตัน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
“ผมเติบโตมา พร้อมกับการมีต้นแบบอย่างฮวน โรมัน ริเกลเม่ ส่วนหนึ่งคือผมเป็นแฟนบอลของสโมสรโบค่า จูเนียร์ส อีกคนที่ผมชอบคือปาโบล ไอมาร์” แม็ค อัลลิสเตอร์ เริ่มเล่า “ขณะที่ลิโอเนล เมสซี่ ก็คือไอดอลของผมเช่นเดียวกัน”
ด้วยการที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวไอริช ทำให้เอกลักษณ์ของเขาจึงออกไปทางยุโรปเสียมากกว่า ทั้งโครงสร้างใบหน้า และเส้นผมสีน้ำตาลประกายแดง ซึ่งลักษณะทางกายภาพเหล่านั้น นำมาซึ่งความแตกต่างบางอย่าง
แม็ค อัลลิสเตอร์ เล่าเรื่องราวที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน ตอนที่เขาติดทีมชาติอาร์เจนติน่า ชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2019 เพื่อนร่วมทีมชาติหลายคนเรียกเขาว่า “ไอ้หนุ่มหัวแดง” ส่วนสำคัญเป็นเพราะชื่อ-นามสกุล และรูปพรรณของเขาไม่เหมือนกับชาวอาร์เจนไตน์ ทั่วไป
เพียงไม่นาน คำเรียกขานแบบนั้น เป็นอันต้องยุติลง ภายในแคมป์ทีมชาติอาร์เจนติน่า ไม่มีการเอ่ยคำว่า “ไอ้หนุ่มหัวแดง” อีกต่อไป เพราะคนที่เข้ามาปราม และไม่ให้ทุกคนเรียกเขาแบบนั้น คือชายนามว่า “ลิโอเนล เมสซี่”
แม็ค อัลลิสเตอร์ กล่าวว่า “ผมจำได้ว่า ทุกคนเรียกผมว่า -เจ้าโคโล่- ซึ่งในภาษาอาร์เจนไตน์ หมายถึงพวกหัวแดง ผมไม่ชอบการเรียกแบบนั้น จากนั้น เมสซี่ เดินมาบอกกับเพื่อนร่วมทีมทุกคนว่า -แม็ค อัลลิสเตอร์ ไม่ชอบให้ใครมาเรียกชื่อนั้น ดังนั้น อย่าเรียกเขาแบบนั้นอีก”
นี่คือความประทับใจที่แม็ค อัลลิสเตอร์ มีต่อเมสซี่ เพราะนี่ไม่ใช่เพียงหนึ่งในนักเตะที่ดีสุดของโลกลูกหนัง แต่ยังเป็นฮีโร่ในดวงใจ และกัปตันทีมที่เอาใจใส่ทุกคนอย่างเท่าเทียม
การกระทำดังกล่าวของเมสซี่ ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า ทีมชาติอาร์เจนติน่า คือความเป็นหนึ่งเดียว และจะไม่มีนักเตะคนไหน ที่ถูกปฏิบัติแตกต่างออกไป
“ตอนที่ผมเจอกับเมสซี่ เป็นครั้งแรก ผมหน้าแดงมาก เลือดแทบไม่เดินเลย ผมไม่กล้าแม้แต่จะพูดคำว่า -สวัสดีครับ- ด้วยซ้ำไป” แม็ค อัลลิสเตอร์ กล่าวต่อ “ผมตื่นเต้นสุดๆ มือสั่นไปหมด และเหงื่อออกท่วมตัว เพราะเขาคือฮีโร่ของผม”
“ผมรู้สึกประหม่า ที่ได้พบหน้าหนึ่งในนักเตะที่ดีสุดของโลก แน่นอนว่า มันเป็นเรื่องที่แสนพิเศษ ผมไม่มีวันลืมเหตุการณ์เหล่านี้ พ่อของผมเคยเล่นกับมาราโดน่า ส่วนผมมีโอกาสเล่นเคียงข้างเมสซี่ เราภูมิใจกับเรื่องนี้”
การปกป้องจากเรื่องที่หลายคนมองข้าม อย่างเรื่องการเรียกชื่อ “ไอ้หนุ่มหัวแดง” กลายเป็นความรู้สึกดีเล็กๆ ทำให้แม็ค อัลลิสเตอร์ วิ่งอย่างลืมตาย
จนช่วยกันพาทีมชาติอาร์เจนติน่า ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 เป็นผลสำเร็จ แน่นอนว่า เขา และนักเตะในทีม ล้วนอยากให้เมสซี่ ปิดฉากเส้นทาง ด้วยการคว้าโทรฟี่เวิลด์ คัพ มาครอบครอง
“การได้เล่นร่วมกับเมสซี่ คือความฝัน บอกตามตรงว่า นอกสนามผมไม่ได้คุยกับเขามากนัก เพราะผมเป็นคนขี้อาย และไม่อยากรบกวนเขาด้วย เมสซี่ เป็นคนดี และเงียบขรึม เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน ถือเป็นเรื่องดีที่เขาเกิดมาเป็นชาวอาร์เจนไตน์ ผมหวังว่า นี่จะไม่ใช่ฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขา” แม็ค อัลลิสเตอร์ ทิ้งท้ายถึงบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจของเขา
