:::     :::

เทพนิยายแห่งการเลื่อนชั้น

วันอาทิตย์ที่ 06 สิงหาคม 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
434
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หนึ่งในโมเม้นท์ที่น่าจดจำที่สุดของศึกไทยลีก 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นการฉลองแชมป์พร้อมสิทธิ์การเลื่อนชั้นกลับสู่ไทยลีก 1 ของนครปฐม ยูไนเต็ด แล้ว การหนีตายที่ทุ่งบางเขนของเกษตรศาสตร์ เอฟซี ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน

ย้อนความทรงจำกันสักนิด เงื่อนไขของเกษตรศาสตร์ฯ ในนัดสุดท้าย คือต้องชนะให้ได้ก่อน จากนั้นไปลุ้นให้ทั้งราชประชาและสมุทรปราการ ซิตี้ แพ้ทั้งคู่ พวกเขาจึงจะอยู่รอดตามกฎมินิลีก 

ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เกมที่ง่ายเลย เพราะคู่ต่อสู้ในวันนั้นของเกษตรศาสตร์ฯ คืออยุธยา ยูไนเต็ด ทีมที่กำลังมีลุ้นไปเตะเพลย์ออฟเลื่อนชั้น 


แล้วก็เป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ เมื่ออยุธยาฯ บุกมาขึ้นนำก่อนถึงสองครั้ง แต่เกษตรศาสตร์ฯ ก็สวมหัวใจสิงห์รัวสกอร์คืน ก่อนจะแซงกลับมาชนะได้สำเร็จด้วยสกอร์ 3-2 เมื่อครบ 90 นาที

และเมื่อไปดูผลการแข่งขันในอีก 2 สนามแล้ว ก็เรียกว่าเป็นใจให้พวกเขาเหมือนกัน เพราะทั้งราชประชาและสมุทรปราการฯ ต่างแพ้ให้กับคู่แข่งทั้งคู่ (ราชประชาแพ้แพร่ ส่วนสมุทรปราการแพ้นครปฐม) ทำให้เกษตรศาสตร์ฯ ได้สิทธิ์อยู่รอดในเวทีลีกพระรองต่อไป แม้จะต้องลุ้นกันหลายต่อก็ตาม 

จากการหนีตายสุดดราม่าในวันนั้น เชื่อว่าทีมผู้บริหารของสโมสรน่าจะได้รับบทเรียนไปพอสมควร จึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างของในทีมแบบที่เราต่างไม่เคยเห็นกันมาก่อน


เริ่มตั้งแต่การต่อสัญญากับเฮดโค้ชอย่าง อนุรักษ์ ศรีเกิด ให้คุมทีมต่อไป ไล่มาจนถึงการเปิดตัวนักเตะที่ค่อนข้างรวดเร็วต่างกับปีก่อนๆ และที่สำคัญคือไม่ได้มีแค่นักเตะโนเนมเท่านั้นที่เข้ามาสู่ทีม หากไม่เชื่อก็ลองดูรายชื่อต่อไปนี้ได้เลย

อภิภู สุนทรพนาเวศ, ทัตพิชา อักษรศรี, อานนท์ ประสงค์พร, ยศวรรธน์ มณทา, ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ หรือตัวผู้เล่นต่างชาติอย่างลี จอง ชอน ที่โชว์ฟอร์มได้ดีกับสุพรรณบุรี เอฟซี รายชื่อเหล่านี้คือนักเตะที่พากันตบเท้าเข้ามาเซ็นสัญญากับทีมทั้งสิ้น

ในเรื่องของการเก็บตัวเพื่อฝึกซ้อมแทคติกนั้น ทัพ "นาคามรกต" ก็เป็นทีมแรกๆ ที่เรียกตัวนักเตะกลับมาซ้อมในช่วงปรี-ซีซั่น และได้มีการยกทัพไปเก็บตัวที่ ม.เกษตรฯ วิทยาเขตกำแพงแสน มีการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วย จนไปถึงการจัดกิจกรรมละลายพฤติกรรมของนักฟุตบอลในทีมเพื่อให้เกิดความสามัคคี 


ขณะที่ช่องทางโซเชียลมีเดียของสโมสร ก็เริ่มมีการอัพเดทเป็นระยะๆ มากขึ้น ทั้งในเฟซบุ๊คและอินสตาแกรม รวมถึงมีการไลฟ์สดให้แฟนบอลได้เห็นบรรยากาศของนักฟุตบอลด้วยเช่นกัน

จากทั้งหมดที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าเกษตรศาสตร์มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากทีเดียว ด้วยการลงทุนที่มากขึ้นและเร็วขึ้น ก็ทำให้ภารกิจของสโมสรจึงไม่ใช่การหนีตกชั้นแบบฤดูกาลที่ผ่านมาอีกต่อไป 

โดยในส่วนนี้ ประธานสโมสรอย่างคุณสุเทพ วงศ์รื่น ก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าผลงานอย่างแย่ที่สุดในฤดูกาลใหม่นี้คืออันดับ 6 เป็นอย่างน้อย 


อาจจะดูยากไปหน่อยสำหรับทีมที่เคยวนเวียนอยู่ในโซนกลางจนถึงค่อนไปทางท้ายตาราง แต่ขึ้นชื่อว่าฟุตบอลแล้วนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ก็ขนาดโอกาสในการหนีตกชั้นที่มีไม่ถึง 1% พวกเขายังเคยทำได้สำเร็จมาแล้ว ทำไมจะขอฝันไกลถึงการเลื่อนชั้นบ้างไม่ได้ล่ะ 

ยิ่งในเวลาที่ฟุตบอลไทยกำลังเป็นช่วงขาลงและมีไม่กี่ทีมที่ทุ่มทุนสร้างได้แบบนี้ด้วย เราปฏิเสธและมองข้ามทีมองค์กรอย่างเกษตรศาสตร์ไม่ได้จริงๆ 

สำหรับโปรแกรมนัดแรกของพวกเขาจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 โดยเกษตรศาสตร์จะต้องบุกไปเยือนเชียงใหม่ เอฟซี ที่สนามเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งก้าวเล็กๆ แต่ฝันใหญ่ๆ ของทีม "นาคามรกต" จะเริ่มต้นจากตรงนี้


ไม่มีใครล่วงรู้ถึงเรื่องอนาคต แต่ขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วยให้ตอนจบนั้น จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง

และหวังว่าถึงวันนั้นจะได้เขียนถึงเทพนิยายแห่งการเลื่อนชั้นอีกครั้ง


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด