ทว่า เสียงจากแฟนบอลที่บุนเดสลีกากลับไม่มองอย่างนั้นเลยสักนิด เพราะว่ากองกลางตัวตัดเกมรายนี้นอกจากจะเป็นกัปตันม้าขาวแล้ว เขายังเป็นตัวท็อป มีสถิติในการเล่นเกมรับติดท็อปเทนของลีกเลยนะครับ ก่อนจะตัดสิน เอนโดะ เรามาลองทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นก่อนสักนิด เผื่อมุมมองที่มีอคติต่อเขาอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ วาตารุ เอนโดะ เป็นกองกลางตัวรับที่เล่นให้กับ สตุ๊ตการ์ท มาตั้งแต่อยู่ในลีกรอง เขามีส่วนสำคัญในการช่วยพาทีมเลื่อนชั้นคัมแบ็คสู่บุนเดสลีกา และเคยรับบทฮีโร่ยิงประตูสำคัญช่วยให้ทีมไม่ต้องไปเล่นเพลย์ออฟหนีตกชั้นมาแล้ว เอนโดะ เติบโตมาจากสโมสร โชนัน เบลมาเร่ ก่อนจะเล่นได้อย่างโดดเด่นจนย้ายไปคว้าแชมป์กับ อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส ได้หลายรายการ ทั้งแชมป์ เจลีก คัพ ในปี 2016, ซูรูกะ แบงค์ แชมเปี้ยนชิพ ในปี 2017 และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการพาทีมได้แชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2017 โดยในนัดชิงชนะเลิศที่ดวลกับ อัล-ฮิลาล เขาลงสนามเป็นตัวจริงทั้ง 2 นัด ด้วยฟอร์มที่พีคจัดกับ อุราวะ ทำให้เขาย้ายมาเล่นในยุโรปกับทีมในเบลเยียม ตามมาด้วยถูก สตุ๊ตการ์ท ยืมตัวก่อนจะถูกซื้อขาดในเวลาต่อมา ซึ่งปีแรกกับทีมเขาลงสนามไปมากถึง 21 นัด และพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในบุนเดสลีกาได้อีกด้วย เอนโดะ เป็นนักเตะคนโปรดของ เปเลกริโน่ มาตาราซโซ่ กุนซือของม้าขาว เขาได้รับคำยกย่องว่าเป็น Soldier และบางครั้งเรียกว่าเป็น The Bodyguard ประจำทีมกันเลยทีเดียว "เขามีบุคลิกของความเป็นผู้นำ เป็นตัวอย่างที่ดีทั้งในและนอกสนาม เขาทำให้คนอื่น ๆ เล่นบอลง่ายและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง นี่คือคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ของ เอนโดะ" สไตล์การเล่นของ เอนโดะ ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจ แม้ว่าตำแหน่งหลักจะเป็นกองกลางตัวรับ แต่เขาก็เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์และแบ็คขวาได้ด้วย นั่นจึงทำให้เขาเป็นที่โปรดปรานของกุนซือทุกคน โดยเฉพาะ มาตาราซโซ่ ที่ไว้วางใจมอบให้ เอนโดะ เป็นกัปตันทีม สตุ๊ตการ์ท ถาวรเลยตั้งแต่ช่วงกลางฤดูกาล 2020-21 เรื่อยมาจนปัจจุบัน "ผมเลือก วาตารุ เอนโดะ เป็นกัปตันของเรา เพราะว่าเขาคือคนที่พร้อมจะให้คนอื่นก้าวขึ้นมาแสดงความรับผิดชอบในเรื่องต่าง ๆ ได้เช่นกัน เขาเป็นแบบอย่างที่ดีในทีมและเล่นได้สม่ำเสมอมากที่สุดในทุก ๆ เกม" เว็บไซต์ Squawka ได้นำข้อมูลตัวเลขของ เอนโดะ ซึ่งอ้างอิงมาจาก ออปต้า อีกทีถึงผลงานตั้งแต่ฤดูกาล 2020-21 โดยเทียบกับกองกลางในบุนเดสลีกาที่มีการลงสนามเกิน 30 นัด ซึ่งมีระบุว่า เอนโดะ สามารถเอาชนะการครองบอลมากที่สุดในพื้นที่สุดท้าย 254 ครั้ง, เอาชนะการดวลกลางอากาศมากที่สุด 219 ครั้ง, เคลียร์บอลมากที่สุด 175 ครั้ง, ผ่านบอลมากที่สุดเป็นอันดับสอง 3,940 ครั้ง และเข้าแท็คเกิ้ลมากถึง 208 ครั้ง นับว่าสูงมาก ๆ สำหรับตัวเลขในเรื่องเกมรับ จุดเด่นของ เอนโดะ คือการเป็นนักเตะที่วิ่งไล่บอลดี เข้าแท็คเกิ้ลแม่นยำ หนักหน่วงแต่ไม่โฉ่งฉ่าง สถิติของเขากับ สตุ๊ตการ์ท คือลงสนาม 99 นัด แต่ได้ใบเหลืองแค่ 12 ใบและไม่เคยได้ใบแดงเลยสักครั้งเดียว อีกจุดที่น่าสนใจมาก ๆ คือเขาแทบไม่เจออาการบาดเจ็บหนัก ๆ เลย ครั้งสุดท้ายที่เจ็บจนต้องพักคือในฤดูกาล 2018-19 โน่น แสดงให้เห็นว่ามีความแข็งแรงและการซื้อตัวมาครั้งนี้ของ ลิเวอร์พูล น่าจะไม่เจอปัญหาเรื้อรังแบบเคสของ เกอิต้า อีกเรื่องที่แฟน ลิเวอร์พูล ไม่ควรวิตกก็คือ เอนโดะ ในวัย 30 ปีมีประสบการณ์ค่อนข้างเยอะ มีความนิ่ง เล่นในลีกสูงสุดของเยอรมันมาแล้ว และด้วยสไตล์ที่ดุดัน ขยันวิ่ง มีวิสัยทัศน์ดี เขาน่าจะเข้ากับระบบของ คล็อปป์ ได้ไม่ยาก ดีไม่ดีอาจเป็นดีลที่เด็ดอย่างเคสของ เจมส์ มิลเนอร์ ก็ได้ การเลือก เอนโดะ มาร่วมทัพไม่น่าจะเป็น Panic buy แบบ อาร์ตูร์ แต่เชื่อว่าทางทีมคงมองเห็นประโยชน์ในระยะสั้นว่าจะเข้ามาช่วยทีมได้ไม่มากก็น้อย
