เพราะนี่เป็นการลงมาเล่นในลีกพระรองเป็นครั้งแรกของดาวเตะลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวค้าแข้งอยู่กับทีมในลีกสูงสุดทั้งหมด ไล่ตั้งแต่สโมสรแรกอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต่อด้วยสุพรรณบุรี เอฟซี และเมืองทอง ยูไนเต็ด จนถึงทีมล่าสุดอย่างการท่าเรือ เอฟซี

นอกจากจะเป็นเพราะเพื่อนสนิทอย่าง ชิดชนก ไชยเสนสุรินธร ที่เป็นคนชักชวนให้มาอยู่ด้วยกันตามที่มีข่าวออกไปในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว อีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เจ้าตัวเลือกย้ายมาร่วมทัพ "พยัคฆ์ล้านนา" ก็คงเป็นเพราะต้องการโอกาสในการลงสนามอย่างสม่ำเสมอนั่นแหละ  

ถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์เอามากๆ สำหรับการตัดสินใจลงมาหาความท้าทายใหม่แบบนี้ เพราะถึงแม้ช่วงหลังจะต้องตกเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยคลาสบอลและชื่อเสี่ยงเก่าๆ ของชัปปุยส์แล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังถูกจัดให้เป็นนักเตะระดับแถวหน้าของเมืองไทย ชนิดที่ว่าสามารถย้ายไปเล่นให้ทีมไหนก็ได้บนลีกสูงสุดอยู่ดี 

แน่นอนว่าการลดระดับตัวเองลงมาเล่นในลีกรองครั้งนี้ ย่อมหนีไม่พ้นคำวิจารณ์จากบรรดาแฟนบอลไทยบางส่วน ที่บ้างก็บอกว่าเขาหมดสภาพแล้ว บ้างก็บอกว่ามาเพื่อขายเสื้อ หรือแค่เป็นการตลาดที่เอาไว้มาเรียกแฟนบอลสาวๆ เข้าสนาม ซึ่งตรงนี้เราปฏิเสธความคิดเห็นเหล่านั้นไม่ได้หรอก 

แต่ว่าในมุมมองที่ไม่ดีและเป็นแง่ลบ ก็ต้องมีมุมมองที่ดีและเป็นแง่บวกอยู่ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างที่เห็นได้แบบชัดเจนเลย ก็น่าจะเป็นเรื่องของกระแสแฟนบอลในเพจสโมสรที่เยอะขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหลังจากดีลนี้เกิดขึ้น ยิ่งถ้าวันไหนลงรูปเดี่ยวของชัปปุยส์ด้วยแล้วนั้น จำนวนคอมเม้นท์และยอดไลค์-แชร์ จะเยอะเป็นพิเศษเลยทีเดียว

ตรงจุดนี้ถ้าเราพูดถึงในแง่ของการตลาดหรือการประชาสัมพันธ์ มันก็ช่วยเรียกกระแสได้ดีจริงๆ นั่นแหละ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้ว ยังไงก็ต้องวัดกันที่ผลงานในสนามอยู่ดี

ซึ่งในเรื่องนี้ ชัปปุยส์ก็ไม่ทำให้แฟนๆ "พยัคฆ์ล้านนา" ต้องผิดหวัง เพราะแม้จะมีเวลาร่วมซ้อมกับทีมได้แค่ไม่กี่วัน แต่เขาก็เริ่มต้นด้วยการทำแอสซิสต์แรกให้กับทีมได้ตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาล ในเกมที่เชียงใหม่ เอฟซี ไล่ถล่มผู้มาเยือนอย่างเกษตรศาสตร์ เอฟซี ไปถึง 4-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ที่สำคัญคือในเกมวันนั้นเขาอยู่ในสนามครบทั้ง 90 นาที และนอกจากจังหวะแอสซิสต์ดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีส่วนร่วมกับเกมค่อนข้างเยอะ ทั้งยังมีจังหวะสวิทช์บอลสั้น-ยาว สวยๆ หลายครั้งตามที่เจ้าตัวถนัด เรียกง่ายๆ ว่าคลาสบอลยังคงอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ

ซึ่งจากผลสกอร์ดังกล่าวนั้น ก็ช่วยส่งให้ต้นสังกัดของตัวเองอย่างเชียงใหม่ เอฟซี ทะยานขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงประจำสัปดาห์แรกของการแข่งขันไทยลีก 2 เป็นที่เรียบร้อย

แม้จะเป็นเพียงแค่การแข่งขันนัดแรกและเป็นการเจอกับคู่แข่งที่วรรณะต่ำกว่า แต่ก็อย่างที่มีคำกล่าวไว้ว่า การเริ่มต้นที่ดีจะมีชัยไปกว่าครึ่ง และชัยชนะในวันนั้นก็น่าจะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเขาและเพื่อนร่วมทีมอย่างมากโข 

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป ชัปปุยส์และเพื่อนๆ จะต้องยกทัพไปเยือนทีมฟอร์มแรงอย่าง สมุทรปราการ ซิตี้ ในวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคมนี้

ก็ต้องมาตามดูกันว่าสุดท้ายแล้ว ดาวเตะหน้าหล่อคนนี้จะยังรักษามาตรฐานการเล่นไว้ได้ดีเหมือนนัดแรกรึเปล่า ที่สำคัญไปกว่านั้นคือผลลัพธ์ในตอนสุดท้าย เขาและทีมจะไปถึงฝั่งฝันด้วยการเลื่อนชั้นได้หรือไม่ 

ซึ่งถ้าในตอนท้ายสุดมันสามารถเป็นไปตามนี้ได้จริงๆ นี่คือการใช้ผลงานตอบกลับคำวิจารณ์ได้อย่างสวยสดงดงามเลยทีเดียว

ผมยังมีไฟในการเล่นฟุตบอลอย่างเต็มเปี่ยม และผมไม่ได้มาเพื่อขายเสื้อ...

ขออวยพรให้ตอนจบเป็นแบบนี้นะ ชัปปุยส์