นี่คือนักเตะที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มีคนรักมากมาย และมีคนเกลียดเยอะเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อเราลองไปพลิกปูมหลังของเขาแล้ว เราก็จะพบว่า ชีวิตของเขามีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนี่คือเด็กชายชาวบราซิเลี่ยน ที่ต้องต่อสู้ชีวิตอย่างหนัก และต้องอาศัยความพยายามอย่างมหาศาล
ช่วงนี้ เราลองไปดูเส้นทางชีวิตของ ริชาร์ลิซอน กันหน่อย ลองไปดูกันว่า ปัจจัยอะไรบ้าง ทำให้เขามีความฝัน และแรงผลักดัน จนก้าวมาติดทีมชาติบราซิล ชุดใหญ่ และเล่นกับทีมดังระดับโลกอย่างสเปอร์ส เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราลองไปติดตามพร้อมๆกันเลย
ริชาร์ลิซอน เกิด และเติบโตที่ โนวา เวเนเซีย ประเทศบราซิล เกิดในครอบครัวฐานะยากจน พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เขาต้องสลับใช้ชีวิตกับพ่อแม่ ในช่วงเวลา และสถานที่ที่แตกต่างกัน
ชีวิตวัยเด็กเต็มไปด้วยความยากลำบาก สภาพแวดล้อมแถวบ้านที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม กับยาเสพติด ความอันตรายที่สุดในชีวิต คือการโดนเหล่าอันธพาลเอาปืนมาจ่อหัว เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นกลุ่มคู่อริ ที่พยายามรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่
เขาต้องผจญชีวิต ด้วยการทำงานหาเงินตามข้างถนน เด็กขายไอศกรีม, เด็กขายลูกอม, เด็กล้างรถ และเด็กเก็บเมล็ดกาแฟในฟาร์ม นี่คือสารพัดอาชีพ ที่เขาเคยเป็นในวัยเยาว์ ทั้งหมดเป็นการแบ่งเบาภาระของครอบครัว
แม้จะผ่านการหาเงิน ด้วยสถานะที่หลากหลาย แต่ความฝันสุดท้าย คือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เขาตระหนักดีว่า นี่คือหนทางที่จะนำพาเขา และครอบครัว รอดพ้นจากความเป็นอยู่ในรูปแบบนี้ เมื่อเบื้องบนวางเส้นทางที่แสนโหดร้ายมาให้ เขาก็ต้องกำหนดโชคชะตาครั้งใหม่ด้วยตัวเอง
“ย้อนกลับไปตอนที่ผมอายุ 17” เขาเริ่มเล่า “ผมไปเยี่ยมพ่อในช่วงสุดสัปดาห์ พ่อแยกทางกับแม่มาเป็นสิบปีแล้ว พ่ออาศัยอยู่ในฟาร์ม และกำลังทนทุกข์กับภาวะซึมเศร้า”
“ผมผูกพันกับพ่อมาก ส่วนหนึ่งเพราะ พ่อเชื่อมั่นในความฝันของผมที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลมาตลอด พ่อเดินทางไปทุกหนแห่ง เพื่อดูผมลงสนาม แน่นอนว่า ผมอยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมต้อเจอ นั่นคือการโดนทีมต่างๆปฏิเสธรับเข้าร่วมทีม รวมรายชื่อทีมที่บอกปัดยาวเป็นหางว่าว”
นอกจากความเจ็บช้ำน้ำใจ ยังซุกซ่อนความเจ็บปวดทางร่างกายเอาไว้ด้วย เขาเคยเดินทางไปทดสอบฝีเท้า ด้วยระยะทางไปกลับกว่า 1,800 กิโลเมตร กับสโมสรที่ชื่อว่าอาไว การแย่งชิงรุนแรงมาก เขาต้องเข้านอนพร้อมกับรอยฟกช้ำที่ขาแทบทุกวัน
ขณะที่การทดสอบฝีเท้ากับฟิกูเรนเซ่ เขาแทบไม่มีเงินเหลือติดตัว จนถึงขั้นต้องขอยืมรองเท้าสตั๊ดจากเพื่อนคนอื่น ผลสุดท้าย ไม่มีทีมไหนรับเขาเลย ... ก่อนที่การเดิมพันครั้งสำคัญ เกิดขึ้นที่สโมสรอเมริกา เอ็มจี
“ในวัย 17 ปี ผมกำลังฝึกซ้อมกับทีมเยาวชนของสโมสรอเมริกา เอ็มจี แม้ว่าผมจะอายุมากแล้ว เมื่อเทียบตามมาตรฐานของอะคาเดมี่ อย่างไรก็ตาม ผมยังคงพยายามที่จะได้รับสัญญาอาชีพ ผมรู้ดีว่า นี่คือโอกาสสุดท้ายของผมแล้ว”
พ่อของเขาอาศัยอยู่บนที่ดินของเจ้าของรายหนึ่ง ณ ที่แห่งนั้นมีบ่อตกปลา 3 บ่อ พวกเขาได้รับอนุญาตให้ตกปลาได้เพียงแค่ 2 บ่อ ด้วยความคึกคะนอง เขาดันไปตกปลาในบ่อต้องห้าม ทำให้พ่อของเขาโดนตำหนิอย่างหนักหน่วง นั่นเป็นเหมือนการจุดไฟแห่งฝันให้กลับมาโชติช่วงอีกครั้ง
“ผมกับพี่น้องเกิดไปตกปลาในบ่อต้องห้าม” เขากล่าวต่อไป “ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ทำไมผมถึงทำแบบนั้น ถือเป็นเรื่องที่โง่มาก ท้ายที่สุด เจ้าของที่ดินรู้เรื่องนี้เข้า เขาเดินไปหาพ่อของผม พร้อมกับตะโกนด่าต่อหน้าคนจำนวนมาก”
“เขาบอกว่าสามารถไล่พ่อของผมออกจากที่ดินแห่งนี้ได้ทุกเมื่อ นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่พ่อต้องการเลย กับการถูกทำให้ขายหน้า ทันใดนั้นเอง บางอย่างเกิดขึ้นภายในหัวของผม ผมพูดออกมาว่า -ผมจะทำทุกอย่าง เพื่อคว้าสัญญานักเตะอาชีพของอเมริกา เอ็มจี ผมจะพาพ่อออกจากที่นี่ให้ได้-” ริชาร์ลิซอน กล่าว
เมล็ดพันธุ์แห่งความพยายาม เริ่มผลิบานออกมาเป็นผล เมื่ออเมริกา เอ็มจี รับตัวเขาเข้าร่วมทีม ก่อนจะผลักดันสู่ทีมชุดใหญ่ในเวลาต่อมา นอกจากเขาเองที่ดีใจแล้ว พ่อของเขาก็อดภาคภูมิใจไปด้วยไม่ได้
“พูดตามตรง ผมคงยกธงขาว เพื่อขอยอมแพ้ไปแล้ว หากผมไม่มีคนที่คอยช่วยเหลือ หนึ่งในนั้นคือพ่อของผม” เขาย้อนความทรงจำ ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมดังอย่างฟลูมิเนนเซ่ และนั่นคือใบเบิกทาง สู่ฟุตบอลลีกยุโรป
“เหตุการณ์ที่บ่อตกปลา คือแรงขับเคลื่อนของผมมาอย่างยาวนาน”
ริชาร์ลิซอน ทิ้งท้ายถึงแรงบันดาลใจ ที่นำพาเขามาสู่จุดสูงสุด นั่นคือการเล่นในนามทีมชาติบราซิล ชุดใหญ่
