เรื่องนี้ยังเป็นเพียงแค่ข่าวที่ตั้งข้อสังเกตขึ้นมาเท่านั้นว่า แมนยูไนเต็ดอาจจะสนใจเซ็น "ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก" เข้ามาร่วมทีม โดยได้มีการ offer นักเตะคนนี้ให้ยูไนเต็ดพิจารณา แต่ว่ายังคงต้องรอดูว่าสโมสรสนใจจะดำเนินการในดีลนี้หรือไม่ [Jason Burt Telegraph : tier 3]
ฮอยเบียร์กในวัย 28 ปี ของสโมสรท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ เป็นนักเตะกองกลางธรรมชาติที่เล่นได้ทั้ง CM และ DM ไม่ว่าจะในระบบกลางคู่ที่เขาเหมาะที่สุดในการเล่น double pivot ให้กับทีม หรืออาจจะให้เป็นแบ็คอัพให้คาเซมิโร่ก็ไหว
ส่วนในเรื่องของคุณสมบัติฝีเท้า การรู้มือซึ่งกันและกันของโค้ชกับนักเตะ ถ้าจะถามว่าเอริค เทน ฮาก รู้จักมากน้อยแค่ไหน ก็คงจะเป็นไปตามภาพข้างล่างนี้ตอนสมัยอยู่บาเยิร์นด้วยกัน
ใช้คำว่าเด็กเก่าได้ไหม ก็น่าจะได้
ในเรื่องของข้อดีทางด้านคอนเน็คชั่นและสายสัมพันธ์ที่อาจเกิดขึ้นในทีม ก็น่าจับตามองว่าเขาจะเป็นนักเตะเลือดเดนส์อีกคนจากทีมชาติเดนมาร์ก ที่ย้ายตามคริสเตียน เอริคเซ่น และ ราสมุส ฮอยลุนด์ เข้ามาร่วมอยู่ในทีมแมนยูไนเต็ด และจะเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ทีมมีเสถียรภาพในการเล่นมากขึ้น
คำถามของบทความนี้ที่ว่า ทำไมถึงมีข่าวกับ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก เขาโดดเด่นยังไงบ้าง และจะช่วยทีมได้ในแง่ไหนถ้าเราจะอยากได้ตัวเข้ามาจริงๆ มีรายละเอียดแบบสั้นๆคร่าวๆดังต่อไปนี้
ก่อนอ่านอยากให้สละเวลาสักห้านาทีดูคลิปการเล่นของเขาก่อน จะช่วยให้เห็นภาพได้อีกมากครับ
1. ข้อมูลทั่วไป
Pierre-Emile Höjbjerg
อายุ 28 ปี / ส่วนสูง 185 cm
สโมสร : Tottenham Hotspur
เท้าที่ถนัด : ขวา
สัญชาติ : เดนมาร์ก
ตำแหน่งการเล่น : CM / DM
สัญญาปัจจุบันจะหมดปี : 2025
2. บทบาทการเล่น
จุดเด่นและ role ในการเล่นของฮอยเบียร์ก สามารถเรียกได้ว่าเป็น "Ball-winning Midfielder" น่าจะชัดเจนและตรงที่สุด เป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่เน้นบทบาทการตัดเกมคู่แข่ง เอาชนะแดนกลาง และเชื่อมบอล ออกบอลให้กับทีมได้
ลักษณะของฮอยเบียร์กจะเป็นตัวเล่นที่ซัพพอร์ทและอำนวยความสะดวกให้ทีมในการปักหลักจัดการพื้นที่แดนกลางให้ทีม เก็บงาน และส่งเสริมเพื่อนตำแหน่งอื่นๆ
การเล่นที่ช่วยเหลือทีมของเขา บางครั้งมีเรนจ์การเล่นที่กว้างจนถึงการจะถอยต่ำลงไปช่วยงานในกรอบเขตโทษได้ด้วยอยู่หลายๆครั้ง ข้อนี้แฟนบอลสเปอร์ส น่าจะเห็นกันบ่อย ด้วยส่วนสูงที่มากพอสมควร (185) และร่างกายที่ใหญ่ แข็งแกร่ง ชนได้ปะทะได้ ดังนั้นอีกหนึ่ง roleการเล่น ของปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก คือการที่เน้นยืนต่ำ ถอยไปช่วยเหลือเซ็นเตอร์แบ็คในการป้องกันในกรอบ หรือเซ็ตบอลจากแดนหลังในฐานะ "Half-back" คล้ายๆกับแม็คโทมิเนย์ของเราได้อีกด้วย
หน้าที่ในการเล่นของเขาจะเป็นมิดฟิลด์ที่เล่นสาย "ป้องกันและสนับสนุน" (Defend & Support) เป็นหลักจริงๆ คือเกิดมาเพื่อทีมนั่นเองพูดง่ายๆ จะให้ยืนเป็นตัวต่ำสุดแบบ Defensive Midfielder หรือ Half-back เลยก็ได้ หรือจะให้เขายืนเป็นตัวซัพพอร์ทในลักษณะ "มิดฟิลด์ตัวต่ำคนที่สอง" ที่ยืนเยื้องบนขึ้นมาจากตัวต่ำสุดนิดนึงแบบ Segundo Volante ก็โอเค หรือจะให้เน้นซัพพอร์ทเชื่อมเกมแบบมิดฟิลด์ลูกหาบสาย Carrilero ไปเลยก็ได้ เหมาะมากกับระบบกลางคู่
ส่วนเรื่องพื้นที่การเล่นในสนามของเขา ฮอยเบียร์กเป็นมิดฟิลด์ที่รับผิดชอบหน้าที่ในแดนกลางเป็นหลัก พูดง่ายๆคือเกิดมาเพื่อบู๊กลางสนามจริงๆ เรื่องนี้สามารถเห็นได้ใน heatmap ในภาพ
3. จุดเด่นในการเล่น
จุดเด่นใหญ่หลายประการที่เราคิดว่าเหมาะกับการเล่นกลางคู่ หรือกลางต่ำให้กับทีมเราได้คือ
3.1 เกมรับ จากข้อได้เปรียบเรื่อง Physical ร่างกายที่แข็งแกร่ง อึดถึกทนทาน ความสามารถในการสร้าง Defensive Actions ต่างๆก็ถือว่าดี โดยเฉพาะเรื่องตัดบอล (Interceptions) และ การเคลียร์บอลจากพื้นที่อันตราย ความมุ่งมั่นและ mentality หัวจิตหัวใจในการเล่นทางด้านความดุดันและเข้มข้นก็ถือว่าดี
พูดง่ายๆเกมรับใช้ได้นั่นแหละ ข้อนี้เป็นจุดเด่นอยู่แล้วเรื่อง แต่สิ่งที่อยากเพิ่มเติมให้คือ ถ้าสังเกตการเล่นของฮอยเบียร์กดีๆ ที่เขาเล่นเกมรับได้เหนียว มันไม่ใช่การวิ่งเข้าไปไล่เตะ ไล่ปะทะแล้วเอาชนะคู่แข่งได้
แต่มันมาจากความสามารถในการ "อ่านเกม" การคาดเดาเกมในสนาม และเรื่องของ Spatial Awareness (การรับรู้ทางพื้นที่ในสนาม) ฮอยเบียร์กเป็นคนที่อ่านพื้นที่การเล่นได้เก่ง ดังนั้นเกมรับของเขาจึงไปโดดเด่นที่เรื่องการ "อ่านตัดบอล" ได้บ่อยครั้งมากๆ ตามสถิติการเล่นเกมรับที่เป็นค่า Interceptions สูงๆนั่นเอง
3.2 การออกบอล ฮอยเบียร์กถือเป็นมิดฟิลด์ตัวออกบอลที่แน่นอนคนหนึ่ง เป็น Passer ตัวออกบอลที่เปอร์เซ็นต์การออกบอลระยะสั้นกับระยะกลางสำเร็จอยู่ในระดับ 90% เหมาะกับทีมที่เน้นการครองบอลพอสมควร
ฤดูกาลที่ผ่านมา ฮอยเบียร์กจ่ายบอลสำเร็จเฉลี่ยอยู่ที่ 88.2% แยกเป็นบอลสั้นจ่ายสำเร็จ 92.5% / บอลระยะกลาง 90.9% และวางบอลยาวแม่นยำ 77.1% เรื่องการจ่ายบอลสำเร็จในเรทนี้ถือเป็นเรทที่ดีสำหรับนักเตะระดับกองกลางในการเล่นสาย possession-based ทั้งหลาย ดังนั้นถ้าพูดเรื่องปริมาณการสัมผัสบอล การออกบอลสำเร็จ การสร้างprogressive passes ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์กก็ถือว่าดีเยี่ยมสำหรับการเล่นเป็น "ฐานมิดฟิลด์" ให้กับแมนยูไนเต็ด
3.3 ลูกกลางอากาศ ข้อนี้ถือเป็นจุดเด่นเลย ไม่แปลกใจว่าทำไม ฮอยเบียร์กถึงสามารถถอยไปเล่น Half-back ได้ ความสามารถในการดวลลูกโด่งกับคู่แข่งถือว่ายอดเยี่ยมมาก จากการดวลทั้งหมด 34 ครั้ง เขาแพ้แค่ 7 จังหวะแค่นั้นเอง นอกนั้นอีก 27 ครั้งชนะรวดด้วยเรทการเอาชนะใน Aerial Duel ได้ทั้งสิ้น 79.4% ให้กับท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ เมื่อฤดูกาลที่แล้วในเกมพรีเมียร์ลีก
เอาแบบเห็นภาพคือ ขึ้น 5 ครั้งชนะไป 4 นั่นเองครับ
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ ความสามารถที่โดดเด่นในด้านต่างๆ ทั้งการครองบอล เกมรับ ส่วนร่วมกับเกม ฯลฯ เมื่อเอาไปเข้าเปรียบเทียบใน Player Comparison Tools ของ Opta Analyst ปรากฏว่าฮอยเบียร์กมีมิติการเล่นที่โดดเด่นในด้านต่างๆ คล้ายคลึงกับนักเตะสามคนที่แฟนบอลรู้จักดีอย่าง โธมัส ปาร์เตย์, เดแคลน ไรซ์ และ ยูริ ทีลิมันส์ ออกมา
แฟนบอลก็อาจสงสัยว่า ถ้ามันดีทำไมสเปอร์สจะปล่อยตัว นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขามีนักเตะแดนกลางอยู่ค่อนข้างเยอะจนล้นในตำแหน่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นอีฟ บิสซูม่า, ป๊าป ซาร์, โอลิเวอร์ สกิปป์ เป็นต้น (ยังไม่รวมพวกเจ็บอย่างเบนทานคูร์ที่ผ่าเข่าพักยาว หรือ เอ็มดอมเบเล่อีกคนด้วย กลางแทบจะทับกันตาย)
4. Squad Analysis
ต่อคำถามที่ว่า เราจะเซ็นเค้าเข้ามาทำไม จะมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมในด้านไหนบ้าง ด้วยการวิเคราะห์และคาดการณ์ก็คงจะตอบได้สั้นๆว่า พอจะดึงเข้ามาเป็นออฟชั่นกลางต่ำให้กับแมนยูไนเต็ดนั่นเอง เล่นCMได้ เล่นDM ได้ เรื่องเกมรับและการจ่ายบอลโดดเด่นสองอย่าง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของมิดฟิลด์ตัวกลางสนาม นี่คือเบื้องต้นที่เราพอจะมองเห็นข้อดีจากการจะเซ็นตัวนี้
บางคนอาจจะทักว่า ถ้าแล้วจะเอาฮอยเบียร์กเข้ามา สรุปทีมจะเล่นระบบอะไรกันแน่ จะกลับไปเล่นกลางคู่แบบ 4-2-3-1 หรือ? แล้วที่พยายามจะปั้น 4-3-3 โดยใช้เมสัน เมาท์ล่ะ? ข้อนี้ก็ต้องตอบว่า ถ้าสมมติว่ามีการจะซื้อฮอยเบียร์กเข้ามาจริงๆ คิดว่าเทน ฮาก อาจจะอยากได้ผู้เล่นที่มีความเป็น "เบอร์6" เข้ามาเสริม Squad Depth มากกว่า เพื่อช่วยคาเซมิโร่โดยตรง
เพราะฮอยเบียร์ก เป็น CM ที่เล่น DM แบบเบอร์ 6 เหมือนคาเซมิโร่ได้เลย ในการซัพพอร์ตเกมจากแดนกลางต่ำ ประเด็นนี้คิดว่าน่าจะเคลียร์สำหรับคนอ่านว่า ทำไมต้องซื้อฮอยเบียรก์เข้ามา ก็เหมือนกันเป๊ะๆกับมุมมองที่ต้องการโซฟียาน อัมราบัตเข้ามานั่นแหละครับ คือทดแทนตำแหน่ง เป็นแบ็คอัพโดยตรงนั่นเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอย่าลืมว่ามันเป็นแค่ "ข่าว" ที่เพิ่งจะนำเสนอกันวันนี้เท่านั้น ระดับสูงก็ยังไม่รายงานเลย เพราะฉะนั้นก็แค่ฟังหูไว้หูเฉยๆพอไม่ต้องตื่นเต้นหรือตัดสินว่า "เย้ ดีจังเลยจะซื้อตัวนี้" หรือ "โห่ ซื้อไมอ่ะพี่ ไม่อยากได้" ทีมยังต้องเคลียร์ squad อีกเยอะ ทั้งนักเตะเก่าที่ขายไม่ออก และตัวเป้าหมายที่ข่าวแรงมาตลอดอย่าง Sofyan Amrabat ที่ความคืบหน้าล่าสุดตอนนี้คือ "ดีลยังไม่คืบ" เท่าไหร่นัก
รอติดตามข่าวกันต่อไป ตอนนี้ลิสต์แดนกลางที่มีข่าวกับแมนยู ยังคงเป็น โซฟียาน อัมราบัต, ไรอัน กราเฟนแบร์ก และ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก ต้องดูว่าใครจะได้เข้ามาเป็นตัวช่วยของแมนยูไนเต็ดในตลาดซัมเมอร์นี้ที่กำลังจะปิดอีกสี่วันข้างหน้า
แนวโน้มสูงสุดยังคงเป็นอัมราบัตอยู่ แต่ถ้าสโมสรตัดสินใจพิจารณาในดีลไหนเราก็จะให้เกียรติและเคารพในการตัดสินใจ เพราะเรารู้ดีอยู่แล้วว่าผู้จัดการทีมและทีมงานมีรายละเอียดของมุมมองอยู่แล้วว่าจะซื้อผู้เล่นคนหนึ่งเข้ามาเสริมทีมในราคาที่ไม่ใช่น้อยๆด้วยเหตุผลทางฟุตบอลอย่างไรบ้าง ไม่น่าเป็นห่วงเลยในเรื่องนี้ว่าจะเอาแต่ละคนเข้ามาด้วยเหตุผลอะไร
ที่น่าห่วงจริงๆคือ จะได้ใครเข้ามาได้ทันเวลารึเปล่าเท่านั้นเอง
ถ้าพิจารณาขุมกำลังของทีม แฟนแมนยูควรรู้อยู่แล้วว่าเราขาดมิดฟิลด์ตัวต่ำธรรมชาติอย่างมาก สองรายแรกอย่าง อัมราบัต และ ฮอยเบียร์ก คือตัวเล่นที่เหมาะจะดึงเข้ามาเสริมกลางต่ำโดยตรง ขณะที่กราเฟนแบร์กเองก็สามารถเล่นเป็นตัวคุมเกมตั้งเกมได้ ไม่ว่าใครจะเข้ามามันก็สอดรับกับสิ่งที่เป็นจุดอ่อนจุดบกพร่องของแมนยูไนเต็ดชุดปัจจุบันทั้งสิ้น
ขอให้แมนยูไนเต็ดปิดตลาดนี้ด้วยดีลมิดฟิลด์อีกสักหนึ่งคน รวมถึงโกลมือสองที่กำลังจะประกาศในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้สำหรับอัลทาย บายินดิช์ แล้วรอลุ้นว่าจะมีเซอไพรส์ดีลอะไรอีกไหมเกี่ยวกับแมกไกวร์ที่ข่าวกำลังเริ่มกลับมาอีกครั้ง ซึ่งแมนยูก็ต้องหาตัวเข้ามาทดแทนแน่นอน
ทุกดีลทุกประเด็น ไม่ว่าจะกองกลางกองหลัง อีกสี่วันรู้เรื่อง อดทนปวดตับกันอีกนิดนะ
#BELIEVE
-ศาลาผี-
References
https://www.transfermarkt.com/pierre-emile-hojbjerg/profil/spieler/167799
https://fbref.com/en/players/8b04d6c1/Pierre-Hojbjerg
https://theanalyst.com/eu/2023/06/opta-player-comparison-tool/
