ทางผู้บริหารสโมสรพยายามมองหาตัวเลือกที่เหมาะสม นอกจากความสามารถด้านฟุตบอลที่ต้องถึงแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญก็คือเทรนเนอร์คนใหม่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากนักเตะแกนหลักของทีม หลังได้รับบทเรียนสำคัญจากกรณีของ เซเตียน ที่ปล่อยปละละเลยจนคุมห้องแต่งตัวไม่อยู่ 

ในลิสต์ของ เฟร์นานโด โรอิก ประธานสโมสรมีชื่อเทรนเนอร์ดังหลายคนอยู่ในนั้น ทั้ง ยูเลย โลเปเตกี,มาร์เซโล่ กายาร์โด้ รวมถึง ราอูล กอนซาเลซ แต่หลังจากที่แคสติ้งอย่างละเอียด สุดท้าย โฆเซ่ โรฆา หรือ ‘ปาเชต้า’ กลายเป็นคนที่ได้รับตำแหน่งนายใหญาเรือดำน้ำสีเหลืองไปครองอย่างสุดเซอร์ไพรส์ ทั้งๆที่ตอนแรกถือว่าเป็นม้านอกสายตา

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ ปาเชต้า อดีตกุนซือราชบุรีคนนี้ได้รับเลือก ?

หากมองที่โปรไฟล์ ปาเชต้า สู้ โลเปเตกี,กายาร์โด้ หรือ ราอูล ไม่ได้เลย เขาไม่ได้เป็นยอดนักเตะสมัยค้าแข้งแบบ ราอูล หรือ กายาร์โด้ ทีมใหญ่สุดที่เคยเล่นด้วยก็ เอสปันญ่อล , ไม่เคยคุมทีมชาติใหญ่ๆ ไม่มีประสบการณ์คุมแข้งซูเปอร์สตาร์ หรือคุมทีมในลีกระดับท็อปอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

แต่อย่างที่เอ่ยถึงข้างต้น หลังประสบการณ์อันเลวร้ายที่ได้รับจาก เซเตียน , ปาเชต้า คือคนที่นักเตะบียาร์เรอัล มองว่าน่าจะทำงานร่วมกันได้ แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้คุมทีที่เล่นในบอลถ้วยยุโรป 

ชีวิตเทรนเนอร์ที่ผ่านมา ปาเชต้า ทำงานกับสโมสรเล็กๆมาโดยตลอด เริ่มต้นในปี 2009 กับ นูมานเซีย จากนั้นก็ไป เรอัล โอเบียโด้,การ์ตาเคน่า ออกจากสเปนครั้งแรกไปคุม โคโรน่า คีลเซ่ ที่โปแลนด์ กลับมา เอร์กูเลส ก่อนชีพจรลงเท้าเดินทางไกลไปคุม ราชบุรี ในศึกไทยลีกฤดูกาล 2016-17  

จาดนั้นกลับมารับงานในสเปน กับ เอลเช่,อ้วยส์ก้า และ เรอัล บายาโดลิด เป็นทีมล่าสุด ก่อนโดนปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 3 เมษายนปีนี้ หลัง บายาโดลิด โดน เรอัล มาดริด อัดเละ 0-6

แม้จะทำงานกับทีมเล็กมาตลอด แต่ประสบการณ์การคุม 9 สโมสร ถือเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ทำให้ ปาเชต้า เป็นที่สนใจของบอร์ดบียาร์เรอัล

นอกนั้นแล้ว ประสบการณ์การดิ้นรนต่อสู้ทั้งเพื่อเลื่อนชั้น และเพื่อความอยู่รอดอย่างโชกโชนก็ถือว่าตรงตามความต้องการของสโมสรเช่นกัน

โรอิก และบอร์ดบริหารบียาร์เรอัล ต้องการคนที่ผ่านการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดเพื่อที่ว่าในยามสถานการณ์คับขันจะสามารถรับมือได้ ซึ่งตลอดชีวิตการคุมทีมของ ปาเชต้า เขาอยู่กับสถานการณ์ที่ว่านี้มาตลอด

ในจุดเชื่อมโยงกัน ยามสถานการณ์คับขัน ไม่เพียง ปาเชต้า จะรับมือกับบรรยากาศภายในทีมได้แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้บอร์ดสโมสรประทับใจก็คือการรับมือกับแรงกดดันจากสื่อ

หลายๆประโยคในการแถลงข่าวของ ปาเชต้า โดดเด่นเป็นที่ยอมรับของสื่อสเปนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจอมขยี้ จนหลายหนเปลี่ยนเสียงวิจารณ์ในแง่ลบให้กลายเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายได้ คำพูดองเขาหลายหนกลายเป็นวรรคทองที่สื่อนำไปใช้เป็นพาดหัว ซึ่งตรงนี้สร้างความประทับใจให้กับ โรอิก อย่างมาก 

ท่านประธานต้องการคนที่รู้จักตอบโต้ ควบคุมสถานการณ์อย่างเหมาะสม รับมือกับช่วงเวลายากลำบากได้ดี เพราะถึงแม้ฤดูกาลนี้จะเพิ่งเริ่มต้น แต่ บียาร์เรอัล มีแววว่าจะต้องพบกับความยากลำบาก หลังออกสตาร์ท แพ้ 3 จาก 4 เกมแรก อีกทั้งโปรแกรมฟุตบอลยุโรปก็งวดเข้ามาทุกขณะ 

นอกจากความสามารถในการรับมือแรงกดดันจากสื่อแล้ว ปาเชต้า ยังมีคาแรกเตอร์ที่กล้าหาญ กระหายที่จะพิสูจน์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ตรงนี้พิสูจน์มาแล้วจากการทำงานกับทีมเล็กๆ ที่แม้ว่าเป้าหมายจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ เพียงแค่การอยู่รอด แต่ก็นับเป็นงานที่ท้าทายอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับขนาดทีม,เม็ดเงินลงทุน และคุณภาพนักเตะ

ปาเชต้า ได้รับการชื่นชมว่ายามอยู่ในหน้าที่มีบุคคลิกที่ดุดันทำให้การว้อมของเขานั้นเข้มข้นมาก ส่งผลให้เกมของทีมเล่นออกมาด้วยความกระหาย ดุดัน แต่ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์กับผู้เล่นในทีมเป็นไปอย่างราบรื่น ทุกคนยอมรับเขา เพราะในเวลาเดียวกัน ปาเชต้า ก็เป็นคนที่ติดดิน เข้าถึงง่าย 

ปาเชต้า เป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน เขามักพูดเสมอว่าเขาไม่ใช่คนเก่ง ยังมีเทรนเนอร์ที่ดีกว่าเขา แต่ขากำลังทำงานเพื่อพัฒนาทีมอยู่ตลอดเวลา

ปาเชต้า เคยให้สัมภาษณ์กับ relevo สื่อดัง โดยพูดไว้ประโยคนึงว่า Detrás de esa estrella , el entorno es clave para su éxito หรือเบื้องหลังของดวงดาว สิ่งแวดล้อมคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ” ซึ่งประโยคนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเตะมีทัศนคติทำงานเพื่อทีมมากยิ่งขึ้น 

ท้ายที่สุด ปาเชต้า เป็นคนที่เกลียดความพ่ายแพ้ เขามีจิตวิญญาณของผู้ชนะในตัวอย่างเต็มเปี่ยม เป็นนักต่อสู้  ครั้งนึงเคยพูดว่า เขาไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกหลังพ่ายแพ้ได้ จนบางครั้งต้องคุยกับผู้เชี่ยวชาญ

        แน่นอนว่าด้วยผลงานที่ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ จึงทำให้ ปาเชต้า ถูกดูแคลนว่าการที่เขาได้รับตำแหน่งนี้ก็เพียงเพราะเขายอมรับเงื่อนไขสัญญาระยะสั้น 1 ปีได้ ผิดกับ ราอูล กอนซาเลซ ที่เรียกร้องสัญญาระยะยาว 

คำวิจารณ์นี้อาจไม่ยุติธรรมนัก แต่ก็เป็นสิ่งที่ ปาเชต้า ต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขาคู่ควรกับตำแหน่งนี้ และพิสูจน์ว่า บียาร์เรอัล เลือกคนไม่ผิด ด้วยการพาทีมประสบความสำเร็จตามเป้าหมายให้ได้

นี่คือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับ ปาเชต้า และ บียาร์เรอัล หลังจากทั้งคู่ตัดสินใจลงเรือ (ดำน้ำ) ลำเดียวกัน

เจมส์ ลา ลีกา