นี่คือนักเตะสายเลือดเอเชีย ที่กำลังสร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยม ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญ ช่วยให้ไบรท์ตัน ก้าวมาเกาะหัวตารางในลีกสูงสุดของอังกฤษ แน่นอนว่า หากเรามองไปที่ เอกลักษณ์ที่เด่นชัดของเจ้าตัวแล้ว นั่นคือการเลี้ยงบอลนั่นเอง
มิโตมะ มีสถิติการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งที่น่าชื่นชม โดยแบ็คของสโมสรดังหลายคน เคยถูกเขาพาทัวร์ และเผาเครื่องมาแล้ว ช่วงนี้ เราลองไปย้อนดูเคล็ดลับของดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่น กันหน่อย ผ่านการเปิดเผยเคล็ดลับ และมุมมอง จากปากของเจ้าตัวเองเลย ... เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราลองไปดูแนวทางการเลี้ยงบอลของเขากัน
มิโตมะ ออกมากล่าวว่า ก่อนจะเริ่มเลี้ยงบอล สิ่งที่เชาเลือกทำเป็นอันดับแรก นั่นคือการหลอกบรรดากองหลังด้วยสายตาก่อน ด้วยการแกล้งมองไปอีกทาง เพื่อเป็นการสร้างความสับสัน และดึงความสนใจของเหล่ากองหลังคู่แข่งว่า เขาอาจเลือกจ่ายบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม
เขากล่าวว่า “ก่อนที่ผมจะเลี้ยงบอลหลบ สิ่งแรกๆที่ผมสังเกตคือ จุดศูนย์ถ่วง ในการยืนปักหลักของกองหลัง คุณต้องดูว่า คู่แข่งเทน้ำหนักไปทางไหน ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยๆ แม้จะเป็นเพียงหลักระยะห่าง 1 เซ็นติเมตร ช่วยให้ผมเลี้ยงบอลหลบ และเอาชนะกองหลังได้แล้ว”
ปีกความเร็วสูง กล่าวต่อว่า “ผมจะต้องจัดการกับสถานการณ์กับสถานการณ์ให้ดี โดยสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือผมจะเฝ้ารอเวลา เพื่อให้กองหลังขาตาย การเลี้ยงบอลฝ่าไปก็จะง่ายขึ้น ผมชอบกระชากบอลด้วยหลังเท้า หากใช้ข้างเท้าด้านใน ผลที่ออกมาคือ ข้อสะโพกจะบิดออกไปด้านนอก เป็นอุปสรรคต่อความเร็ว ในการออกตัววิ่ง”
“ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมศึกษาการเลี้ยงบอลในลักษณะแบบนี้ จากเนย์มาร์ ผมคอยเฝ้าดูกระบวนการเหล่านั้น ภาพที่เนย์มาร์ กระชากบอลผ่านกองหลังคนแล้วคนเล่า ทำให้ผมเริ่มฝึกการเลี้ยงบอลหลบคู่แข่งด้วยตัวเองบ้าง ผมต้องการสร้างรูปแบบเป็นของตัวเอง”
“อีกคนที่ผมดูการเล่น นั่นคือคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขาเป็นนักเตะที่เหลือเชื่อ ผมชอบสไตล์การเล่นของเขา ผมพยายามเฝ้ามอง และอยากเป็นเหมือนเขา ผมพยายามทำตามเขา และเดินรอยตาม โดยเแพาะในด้านของการเลี้ยงบอล และจังหวะการออกตัววิ่ง เรียกว่าทุกอย่างเลย”
แม้ว่ามิโตมะ จะเป็นนักฟุตบอลที่ขึ้นชื่อ ในเรื่องการเลี้ยงบอลหลบคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้เป็นคนที่จะตะบี้ตะบันเลี้ยงบอลเพียงอย่างเดียว เขาตระหนักดีกว่า ฟุตบอลคือกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม และนั่นคือปรัชญาในการเล่นฟุตบอลของเขา หากพูดง่ายๆคือ มิโตมะ รู้ดีว่า จังหวะไหนควรเล่น และจังหวะไหนไม่ควรเล่น เขามักค้นหาทางเลือกที่ดีที่สุด ในการเล่นจังหวะต่อไปเสมอ
มิโตมะ ทิ้งท้ายว่า “สำหรับผม ฟุตบอลคือกีฬาที่ผสมผสมผสาน ระหว่างความแข็งแรงของร่างกาย และการตัดสินใจ ผู้เล่นที่เก่งในเรื่องการเลี้ยงบอล และเอาแต่เลี้ยง แบบไม่สนใจสิ่งรอบข้าง คู่แข่งก็อาจจะจับทางได้ ผมคิดว่า การเลี้ยงบอลที่มีประสิทธิภาพ เริ่มจากการส่งบอลให้ตรงกับเพื่อนร่วมทีม”
“นอกจากนี้ ยังต้องเข้ากับจังหวะการเล่นแบบอื่นด้วย บางที ความเร็วในการตัดสินใจ อาจมีความสำคัญกว่าความเร็วของเท้าการซ้อมเรื่องสปีดต้นของผม เน้นไปที่การจำลองสถานการณ์แบบ 1 ต่อ 1 และการเลี้ยงบอลผ่านกรวยด้วยความเร็ว รวมถึงฐานการซ้อมเรื่องปฏิกริยา”
“จากนี้ไป ผมจะต้องฝึกซ้อมให้หนักขึ้น ทั้งในด้านเทคนิคการเลี้ยงบอล และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย เพราะผมยังคงมีจุดบกพร่อง ในการดวลกับกองหลังในลีกยุโรปอยู่ ดังนั้น นี่คือการปิดรอยโหว่เหล่านั้น"
ขณะที่ คริสเตียน เบอร์เกสส์ กองหลังของสโมสรโรยัล ยูเนียน แซงต์-กัลลัวส์ ที่เคยร่วมงานกับมิโตมะ สมัยที่มาเล่นแบบยืมตัว ออกมากล่าวอย่างน่าสนใจ เพื่อเป็นการยืนยันความคิดของมิโตมะ
โดยกล่าวว่า “ผมรู้ข่าวการย้ายทีมของเขา ผ่านทางสื่อออนไลน์ เขาย้ายมาเล่นร่วมกับเราในแบบยืมตัว แต่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย” อย่างไรก็ตาม เพียงการฝึกซ้อมครั้งแรก เบอร์เกสส์ และคนอื่นภายในทีม ก็รู้จักเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ ความสามารถของมิโตมะ เพียงพอที่จะบอกทุกคนภายในทีมว่า นี่ไม่ใช่เป็นการย้ายทีม เพียงเพราะเหตุผลด้านการตลาด
เบอร์เกสส์ เล่าต่อว่า เพียงแค่การซ้อมครั้งแรก การเลี้ยงบอลของมิโตมะทำให้เพื่อนร่วมทีมที่ตามประกบ ต้องเหนื่อยลิ้นห้อยแล้ว
“ผมจำการซ้อมครั้งแรกของมิโตมะ ได้เสมอมา อัตราการเร่งฝีเท้าของเขา ถือว่ารวดเร็วมาก เขาทำการฉีกตัวประกบเป็นชิ้นๆ ด้วยการกระชากบอลผ่านไปอย่างง่ายดาย ถือว่าโชคดีมาก เพราะผมกับเขาอยู่ทีมเดียวกัน”
“เขามีความเยือกเย็น โดยเฉพาะเวลาครอบครองบอล ทำให้เขากลายมาเป็นนักฟุตบอลที่โดดเด่น นอกจากนี้ เขาสามารถพาบอลไปด้านนอก พร้อมกับใช้ความเร็วเล่นงานคุณได้เลย เขาจะเกี่ยวบอลเข้าเท้าขวา และจบสกอร์ หากคุณพยายามจะดักพื้นที่ เขาก็จะตัดเข้าใน และผ่านบอลเข้าไปลุ้นที่บริเวณหน้าปากประตู”
"จังหวะเปลี่ยนความเร็วของเขา คือการลากตัดเข้าใน และสลับลากออกไปด้านนอก การเร่งความเร็ว 2-3 ก้าวแรกของเขา เป็นอะไรที่อันตรายมาก บางครั้ง หากเกมออกแนวตันๆ คนในทีมจะมีความคิดว่า หากเราได้บอลกลับมาครอง เราก็จะหาทางส่งต่อไปให้เขา และปล่อยให้เขาจัดการเอง”
“ส่วนเรื่องการจบสกอร์ ผมมองว่าเขาคล้ายกับเธียร์รี่ อองรี เขาเยือกเย็น เวลายิงบอลไปเสียบเสาไกล ไม่ว่าจะเป็นในสนามซ้อม หรือในสนามแข่งขัน เป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน เพราะผู้คนส่วนมากมักจะมีอาการตื่นตระหนก แต่มันเหมือนกับว่า เขามีเวลามากเหลือเกิน ในสถานการณ์เหล่านั้น“
“มิโตมะ ถือเป็นนักเตะที่ทุ่มเททุกอย่างสุดตัว ทั้งในแง่ของทัศนคติของการเป็นผู้ชนะ และคุณภาพในการครองบอล”
