บทความนี้เขียนเพื่อจะชื่นชมถึงการได้ขึ้นมาช่วยทีมชุดใหญ่แมนยูไนเต็ดของ "ฮันนิบาล เมจบรี" มิดฟิลด์เชิงรุกวัย 20 ปี ดาวรุ่งทีมชาติตูนีเซีย จากโอกาสการลงสนามที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายนัดที่ผ่านมา และน้องสามารถโชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยม แสดง performance ที่ดีในสนามให้ได้เห็นอย่างน่าชื่นใจ 

ในฐานะที่เป็นคนตามเชียร์น้องมาตั้งแต่ชุดเยาวชนมานานหลายปี มาจนถึงวันนี้เห็นแล้วก็รู้สึกดีใจว่า ในที่สุดก็มีดาวรุ่งที่ทะลุขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่แบบจริงๆจังๆได้อีกหนึ่งคนซะที เพราะเราต้องพูดกันตามตรงว่า เด็กดาวรุ่งในอะคาเดมี่ของแมนยูไนเต็ดมีมากมาย และไม่ใช่ทุกคนที่ฝีเท้าถึง หรือเก่งพอจะขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้

ดาวรุ่งในตำแหน่งมิดฟิลด์ของแมนยูไนเต็ดมีอยู่เยอะ ซึ่งจำนวนไม่น้อยต้องย้ายออกไปหาโอกาสยังที่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นซีดาน อิคบัล, ชาร์ลี ซาเวจ, อีธาน กัลเบรธ เป็นต้น รวมถึงนักเตะคนอื่นๆในวัยเดียวกันที่ยังเฝ้ารอคอยโอกาสอยู่ อย่าง แดเนียล กอร์

ไม่ใช่ดาวรุ่งชื่อดังๆทุกคนที่จะสามารถขึ้นมาได้ นักเตะคนนั้นจะต้องมีจุดเด่นอะไรในตัวที่สามารถ "ใช้งานได้จริง" อยู่ในตัว

ณ ตอนนี้กองกลางดาวรุ่งสองคนที่น่าสนใจที่สุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็คงหนีไม่พ้น ค็อบบี้ ไมนู และ ฮันนิบาล เมจบรี นี่เองที่พอจะสามารถดันขึ้นมาใช้งานในชุดใหญ่ได้จริง

พื้นฐานในเรื่องตำแหน่งและบทบาทการเล่นของฮันนิบาล แฟนผีหลายๆคนที่ติดตามกันมานานก็อาจจะรู้จักกันดี ในฐานะที่เขาเป็น "กลางรุก" ที่เป็นนักเตะตัวสร้างสรรค์การเล่นในสไตล์ของเพลย์เมคเกอร์อีกหนึ่งคนในตำแหน่งเบอร์ 10 แต่เป็นผู้เล่นที่มีความหลากหลายในตัวค่อนข้างสูง

ฮันนิบาลมีสกิลทักษะของผู้เล่น "Winger" อยู่ในตัว ทั้งทางด้านเทคนิค และทางด้านกายภาพ เจ้าตัวสามารถออกไปเล่นตัวรุกริมเส้นแบบปีกก็ได้ หรือจะวิ่งพล่านในแดนบนเพื่อทำเกมรุกอย่างอิสระ ในฐานะตัว Advance Playmaker ที่ทำหน้าที่หลายอย่างก็ได้เช่นกัน

แต่ในอีกมิติ ฮันนิบาลสามารถที่จะลงต่ำมายืนกลางเป็น CM ในลักษณะของมิดฟิลด์ตัวพลังงานให้กับทีม เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นผู้เล่นที่เป็นตัวโฮลดิ้ง หรือจะออกบอลบุกจากแนวลึกได้แบบ DLP ดังนั้นการยืนกลางของฮันนิบาลจะมีความเป็น "กลางกึ่งปีก" ที่มีพลังงานสูง ขับเคลื่อนเกมขึ้นหน้าได้ดี ซึ่งลักษณะนี้เขาจะเรียกกันว่า Mezzala นั่นเอง

ยืนเบอร์ 10 ฮันนิบาลคือ Advance Playmaker ส่วนให้ยืนต่ำลงมาเป็นเบอร์8 พื้นฐานเขาคือ Mezzala แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะเล่นแนวพลังงานแบบ Box-to-Box ได้ซะด้วยซ้ำ

ขณะนี้ ในยามที่ฮันนิบาล เมจบรี ได้รับโอกาสในการลงสนามจริงๆ ช่วงที่ทีมกำลังต้องการเปลี่ยนแปลง และหาพลังงานมาเติมในแดนกลาง ทำให้เขามีโอกาสได้ลงสนามเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดเกมกับเบิร์นลีย์ เจ้าตัวได้ลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกในพรีเมียร์ลีก ถือเป็นเรื่องที่น่าดีใจมากๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม ทำให้เรารู้สึกประทับใจยิ่งกว่าเดิม

เนื่องจากในเกมที่แมนยูเจอกับเบิร์นลีย์ ทีมเจ้าถิ่นจากการนำโดยปรัชญาสายคอนโทรลของเฮดโค้ชอย่าง แว็งซองต์ กอมปานี ทำให้ปีศาจแดงไม่สามารถที่จะครอบครองบอลได้ง่ายๆ และเป็นเบิร์นลีย์ที่เก็บบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ในจุดนี้ยูไนเต็ดขาดผู้เล่นสายเก็บบอล ครองบอลให้ทีมไปจาก 11 ตัวจริงเยอะมากตั้งแต่หลังจนถึงแดนหน้า อย่างเช่นมาร์ติเนซ, ชอว์, วาราน ที่เป็นตัวถือบอลในแดนหลังเก่งๆ, ปีกขวาตัวรักษาการครองบอลอย่างอันโทนี่, หรือนักเตะกองกลางที่ยังไม่ฟิตอย่าง อัมราบัต และ เมสัน เมาท์

ฮันนิบาล ถูกใช้งานเป็นมิดฟิลด์ตัวบนในพื้นที่ AM ของทีม โดยมีด้านหลังเป็น แม็คโทมิเนย์-คาเซมิโร่ ดังนั้นเมื่อดูจากทีมชีทที่ไม่มีตัวเล่นสายครองบอลเหลืออยู่ในสนามเลย แมนยูจึงไม่ได้ครองบอลทำเกมมากเท่าไหร่นัก ดังนั้นมิติการเล่นที่เป็นตัวเพลย์เมคเกอร์ของฮันนิบาล จึงมีโอกาสไม่ค่อยมากเท่าไหร่ เราจึงไม่ค่อยได้เห็นในจุดนั้น

แต่ในทางตรงกันข้าม เราได้ดู "พลังงานการเล่น" ของฮันนิบาลกันแบบเต็มๆ ในภาคของเกมรับ และการสู้กันด้วย "ไดนามิคกลางสนาม"

จุดเด่นที่ฮันนิบาลแสดงออกมาให้เห็นในสนาม ที่ผู้เขียนชอบและปลื้มมากๆ มันคือเรื่องของ "ตัวตนในการเล่นฟุตบอล" ของฮันนิบาล ซึ่งมันก็คือสิ่งที่เรียกว่าคาแรคเตอร์นี่เอง ที่เขามีคุณสมบัติอันน่าสนใจนี้อยู่ในตัว

ผมชอบฮันนิบาลมากๆที่เขาเป็นนักฟุตบอลที่ใจสู้ และเล่นบอลอย่าง "ดุดันและเข้มข้น" อย่างที่เราเขียนบ่อยๆว่ามันคือลักษณะของการเล่นด้วยความ Aggressive & Intensive นั่นเอง

สำคัญยังไง?

ในโลกของฟุตบอลแล้วมันคือกีฬาที่ต้องใช้ทรัพยากรร่างกายค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง ความทนทานของกล้ามเนื้อ (strength), ในเรื่องพละกำลังและแรงปะทะที่ต้องต่อสู้กับคู่แข่งที่แกร่งเหมือนกันหรือมากกว่าเราในสนาม, พลังงานร่างกายในเรื่องของความอึด (endurance) ที่ต้องวิ่งได้ตลอดทั้งเกมไม่หยุดหย่อน ยิ่งตอนนี้พรีเมียร์ลีกนำกฎการทดเวลาเจ็บตามจริงจนทำให้แมตช์นึงเล่นกันถึง 100 นาที ยิ่งสำคัญมาก

นอกจากเทคนิค นอกจากพลังร่างกาย คุณจะต้องมี "จิตใจที่ห้าวหาญในสนามฟุตบอล" อีกด้วย เพราะนี่คือกีฬาลูกผู้ชายที่ต้องวัดกันด้วย "ใจ" เป็นหลัก ฝ่ายไหนใจสู้กว่า ยิ่งมีโอกาสสูงในการแสดงความแข็งแกร่งเอาชนะคู่แข่งได้

ถ้าพูดเป็นภาษาฟุตบอลที่คุ้นเคย จะบอกว่ามันคือการทำให้โมเมนตัมอยู่ข้างเราด้วยใจของเราเองก็คงได้      

ความดุดันและเข้มข้นของฮันนิบาล มันเป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาจาก "หัวใจนักสู้" ในการเล่นฟุตบอล ที่ไอ้เด็กคนนี้มันใจสู้จริงๆ ไม่เคยฝ่อเวลาเจอคู่แข่ง ไม่สนว่าใครจะอายุมากกว่า ตัวใหญ่ตัวเล็ก ฮันนิบาลสู้ทุกจังหวะ ซึ่งนั่นคือคุณสมบัติในเชิงจิตใจของการเล่นฟุตบอลทางด้าน mental เขามีทั้งความมุ่งมั่นในสนาม (Determination) และคุณสมบัติสำคัญมากๆที่โค้ชทุกคนชื่นชอบ นั่นก็คือเรื่อง "Work Rate" หรือ ความขยันในสนามนั่นเอง ที่ฮันนิบาลเป็นนักเตะที่มี Work Rate สูงที่สุดคนหนึ่งของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตอนนี้

บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เซร์คิโอ เรกีลอน, ราสมุส ฮอยลุนด์ และ ฮันนิบาล เมจบรี ชื่อพวกนี้คือคนที่สามารถมองเห็นและสัมผัสได้จริงๆว่า Work Rate สูงมากๆ (ไม่ใช่ว่าคนอื่นไม่ดีนะครับ แต่พวกนี้คือเห็นได้ง่ายและเด่นชัด)

ย้อนกลับไปในเกมที่เจอกับเบิร์นลีย์ ฮันนิบาลเล่นในตำแหน่ง AM ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวบนตรงกลางก็จริง แต่ถึงเวลาเล่นในสนาม ฮันนิบาลดรอปต่ำลงมาช่วยเกมรับเยอะมาก จังหวะ 50-50 ที่เป็น Ball Recoveries เราเห็นเขาพุ่งเข้าไปสู้ในทุกๆจังหวะ, เกมรับของฮันนิบาลถือว่าใช้ได้เลย แข็งแกร่งและดุดันมากๆขนาดที่ผู้เขียนก็ยังตกใจว่า น้องมันเล่นได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ

ถ้านับเฉพาะ Defensive Actions ต่างๆ (บล็อค แทคเกิล ตัดบอล ฯลฯ) ฮันนิบาลดูจะเล่นเกมรับได้แข็งแกร่งกว่าบรูโน่ซะด้วยซ้ำ เพราะทางนั้นสรีระร่างกายเสียเปรียบคู่แข่งอยู่ แต่ฮันนิบาลดูเหมือนว่าร่างกายจะแกร่งกว่าบรูโน่อีกในเกมรับ จังหวะพุ่งเข้ามาสไลด์ตัดบอลนี่ถ้าไม่บอกว่า ฮันนิบาลเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก ก็จะคิดว่าเขาคือเบอร์ 8 แท้ๆคนนึงเลย

เกมรับที่ว่า เกิดขึ้นจาก "ความขยัน" ในการที่จะลงต่ำมาช่วยทีม เกิดจากความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อถอย ในการมีส่วนร่วมกับเกมการเล่นของทีม ทั้งใน phase 1 ของการครองบอลที่ก็มีส่วนร่วมในการต่อบอลด้วย รวมถึง phase 2 ขณะที่ไม่มีบอล เขาเป็นตัววิ่งที่คัฟเวอร์พื้นที่ได้แอเรียค่อนข้างกว้างมาก ตั้งแต่วิ่งไล่เพรสซิ่งแดนบนร่วมกับฮอยลุนด์ ลามจนมาถึงลงต่ำมาในระนาบเดียวกันกับคาเซมิโร่ ที่ยืนเป็น 6s คู่กับแม็คโทมิเนย์

เกมนั้น ฮันนิบาล เมจบรี บางจังหวะลงมาช่วยต่ำเหมือนเป็น "มิดฟิลด์ตัวรับคนที่สาม" ของทีม ถ้าไปดูคลิปการเล่นก็จะเห็นชัดเลยว่าถอยลงมาช่วยสร้างเกมรับต่ำมากจริงๆ คือถ้าถอยต่ำกว่านี้ก็ลงไปในกรอบเขตโทษแล้ว

จังหวะที่เล่นเกมรุกขณะที่ทีมมีบอลในครอบครอง ฮันนิบาลมีจุดบกพร่องให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็แค่เล็กน้อย 

จุดที่ไม่ดีคือ บางจังหวะของการให้บอล ยังมีให้บอลไม่เข้าใจกับเพื่อน หรือตัดสินใจในสนามไม่ดีให้เห็นนิดหน่อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้น พอมีให้เห็นบ้าง แต่ก็ไม่ได้พลาดไปซะทุกจังหวะ เพราะหลายๆช็อตฮันนิบาลก็ให้บอลกับเพื่อนได้สวยงาม เขาเป็นคนที่จ่ายบอลให้แรชฟอร์ดทะลุขึ้นไปได้ยิงมุมแคบในช่วงต้นเกมด้วย

ถึงจะมีจุดพลาดบ้างแต่ก็ค่อนข้างน้อยและไม่ได้แย่ โดยรวมการให้บอลถือว่าทำได้ดี จังหวะของเกมลื่นไหล ไม่ทำให้ทีมเสียจังหวะ เพราะฮันนิบาลเป็นตัวที่ออกบอลง่ายด้วย เพื่อนมีจังหวะก็ไหลให้เลยตามเซนส์บอลที่ดี

อันนี้คือดีมาก มันเป็นคุณสมบัติของผู้เล่นสายฟันเฟืองของทีมได้ดี ในอนาคตถ้าแมนยูครองบอลได้ และเขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกให้ทีม ก็มีโอกาสที่จะสามารถเล่นเป็นตัวคุมเกมรุกแบบ Enganche ที่ปักหลักเป็นตัวออกบอลสำคัญ คล้ายๆกับเคสของโอเดการ์ด หรือพวกโมดริชได้ในอนาคตเหมือนกัน

นอกจากนี้ สิ่งที่ดีมากๆแบบไม่จกตา คือเรื่องของ "ไดนามิคการเล่น" ที่นอกเหนือจากการเพรสซิ่ง การเข้าสู้จังหวะชิงบอล การคัฟเวอร์พื้นที่ในเรนจ์ที่กว้างมากตั้งแต่แดนบนสุด ยันลงมาต่ำสุดในพื้นที่กลางรับ ฮันนิบาลยังมีไดนามิคการเคลื่อนที่ที่ดีมากๆ ทั้งการขยับหาตำแหน่ง, เคลื่อนที่ไปพร้อมๆกับขับเคลื่อนเกมร่วมกับเพื่อน, เล่นบอล Pass & Move ให้เห็น ถ้าใครไปดูคลิปฮันนิบาลจะเห็นเลยว่าเด็กมันวิ่งตลอดเวลา สามารถใช้ความเร็วเล่นวันทูร่วมกับเพื่อนเพื่อสร้างตำแหน่งที่ได้เปรียบคู่แข่งได้

"ไดนามิค" สำคัญมาก ซึ่งตรงนี้เทน ฮาก ต้องการจากนักเตะที่เขาเสริมเข้ามาอย่างเมสัน เมาท์นั่นแหละ ดังนั้นถ้าพูดถึงเรื่องตำแหน่ง เมาท์ คือ คู่แข่งโดยตรงของ ฮันนิบาล ที่จะต้องแย่งตำแหน่งกันในบทบาท มิดฟิลด์เบอร์ 8 กึ่งเบอร์ 10 ให้กับทีมนั่นเอง

ไดนามิค จะทำให้การเล่นของทีมกลมกล่อม รวดเร็ว ทรงพลัง และรับมือยาก นั่นคือสิ่งที่เทน ฮาก อยากจะได้ และในตอนนี้อยู่ในระหว่างการสร้างอยู่ ก็ต้องเอาใจช่วยกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ในยามที่พวกเมาท์ อัมราบัตไม่พร้อม ฮันนิบาลคือคนที่ลงมาช่วยทีมในจุดนี้ได้ดีมาก

ด้วยข้อได้เปรียบเรื่อง "อายุและสภาพร่างกาย" ที่น้องยังเป็นเด็กวัยรุ่น พลังงานการเล่นสูงปรี๊ดไม่มีหมด ใจสู้และ "กล้าเล่น" ทุกจังหวะไม่ว่าจะเกมรับเกมรุก ทำให้ตอนนี้ฮันนิบาลถือเป็นตัวเล่นที่น่าสนใจสุดๆ ยิ่งเขาได้โอกาสลงสนามในตอนนี้แล้วทำได้ดี แสดงฝีเท้าออกมาให้แฟนบอลได้เห็นว่าเขาทำอะไรได้บ้าง นี่คือเรื่องราวในแง่ดีที่สุด ในช่วงที่แมนยูเจอปัญหารุมเร้ามากมาย และฟอร์มการเล่นต้องลุ้นเหนื่อยในทุกๆนัด

การทะลุขึ้นมาได้โอกาสของฮันนิบาล เมจบรี และทำผลงานได้ดี คือสิ่งที่ดีจริงๆ และคุณสมบัติสำคัญที่ผู้เขียนเชื่อว่ามันจะทำให้เขามีเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จแน่ๆ 

คาแรคเตอร์ในการเล่นฟุตบอลที่แข็งแกร่งและดุดันของเขานี่แหละ จะพาให้เขาขึ้นไปได้สูงยิ่งกว่านี้อีกในอนาคต

เดิมเรารู้จักเขาแค่ว่า เป็นนักเตะมิดฟิลด์ตัวรุกที่มีความสามารถที่ดี มีสกิลทักษะที่ยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้เจ้าฟูน้อยแสดงให้เห็นแล้วว่า เขามีคุณสมบัติที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งซึ่งนักฟุตบอลเก่งๆที่ทำผลงานได้โดดเด่นเขามีกัน มันคือตัวตนในการเล่นที่แข็งแกร่งและดุเดือด ผ่านการทำงานหนัก และความพยายามที่จะช่วยทีมนั่นเอง

ใครจะมาใครจะไปเราไม่รู้ แต่เด็กคนนี้อยากเชียร์ให้น้องได้โอกาสลงสนามมากขึ้นเรื่อยๆจริงๆ เห็นแล้วก็ชื่นใจว่า นี่คือ DNA ที่เราต้องการ นักเตะที่ก้มหน้าก้มตาเล่นในสนามอย่างเต็มที่แบบนี้ พร้อมด้วยเทคนิคการเล่น และสกิลทักษะพื้นฐานที่มีติดตัวอยู่แล้ว บอกเลยว่าน่าเชียร์ยาวๆ

"แม่ทัพแห่งกรุงคาร์เธจ" ชายผู้เป็นดวงดาวแห่งความหวังดวงใหม่ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว 

อำมหิตอัจฉริยะ.. Hannibal Mejbri

#BELIEVE

-ศาลาผี-