เท้าความกันสักเล็กน้อย ย้อนไปในวันที่ 30 เมษายน 2566 หรือเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว วันนั้นเป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายของศึกไทยลีก 2 ประจำฤดูกาล 2022-2023 และสมุทรปราการ ซิตี้ ก็ยังไม่การันตีอยู่รอดปลอดภัยในลีก เพราะแต้มยังไม่ขาด พวกเขาต้องลงทำการแข่งขันในนัดสุดท้ายกับทีมว่าที่แชมป์อย่าง นครปฐม ยูไนเต็ด
นั่นคืองานที่หนักหนาเอาการ เพราะนครปฐมคือทีมที่เล่นในบ้านได้ดีมากๆ สุดท้ายแล้วผลการแข่งขันก็เป็นไปตามคาด เมื่อพวกเขาบุกไปแพ้ด้วยสกอร์ 0-2 ส่งให้เจ้าบ้านได้ฉลองแชมป์ในรังเหย้าของตัวเองพร้อมสิทธิ์ในการเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด แต่ด้วยผลการแข่งขันของสนามอื่นที่เป็นใจ จึงทำให้สมุทรปราการฯ รอดตกชั้นและได้อยู่สู้ต่อในฤดูกาลนี้นั่นเอง
เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาในเวลาเพียงแค่ 5 เดือนกว่าๆ ที่เกือบตกชั้นเปลี่ยนเป็นลุ้นเลื่อนชั้น พวกเขาพลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างไร วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบดังกล่าวกัน
"โค้ชแมน" ผู้รวมใจน้องๆ
อันดับแรกต้องบอกว่าธนา ชะนะบุตร คือเฮดโค้ชของทีมในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าเขาคืออดีตนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยประสบการณ์และชื่อเสียงในการเล่นฟุตบอลที่สั่งสมมา ก็ทำให้เขามีบารมีมากพอที่จะเป็นศูนย์รวมใจของน้องๆ ภายในทีมได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ซึ่งเมื่อรวมใจรวมพลังกันได้แล้ว มันก็ย่อมส่งผลให้สโมสรมีผลการแข่งขันที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ "โค้ชแมน" เท่านั้น เพราะบรรดาสตาฟฟ์โค้ชที่เข้ามาช่วยงาน ก็ล้วนแต่เคยผ่านเวทีไทยลีกหรือมีธงติดที่หน้าอกมาแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปิยะชาติ ถามะพันธ์, ปกาศิต แสนสุข หรือปฏิภาณ เพชรพูล แน่นอนว่าด้วยชื่อเสียงของโค้ชทุกคนที่กล่าวมา ยังไงเด็กๆ ในทีมก็ต้องเกรงใจและเชื่อฟังอย่างแน่นอน
ส่วนผสมที่ลงตัวและการตลาดที่น่าสนใจ
สมุทรปราการ ซิตี้ เป็นหนึ่งในสโมสรที่มีสควอดนักเตะเยอะที่สุดทีมหนึ่งของศึกไทยลีก 2 เพราะลงทะเบียนไปทั้งหมด 31 คนด้วยกัน และจากที่ไล่ดูรายชื่อก็พบว่ามีทั้งนักเตะดาวรุ่งและบรรดาจอมเก๋ามากประสบการณ์รวมอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งดาวรุ่งอย่างพวก ศุภวิชญ์ ร่มโพธิ์ภักดิ์, ศุภพล สุทธิศักดิ์, กิตติชัย ใยดี หรือนักเตะจอมเก๋าอย่าง โช ชิโมจิ, รณชัย รังสิโย และธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ นอกจากนี้ พวกเขายังทำการตลาดได้น่าสนใจมากๆ เพราะได้ทำการเซ็นสัญญากับปิยพล ม่วงมี หรือจีโน่ เดอะ สแน็ค ยูทูปเบอร์ชาวไทยที่มีผู้ติดตามกว่า 4 ล้านคนในช่องของตัวเองให้มาช่วยปลุกกระแสของทีม ซึ่งก็ได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ เพราะในวันที่เพจสโมสรลงข่าวดังกล่าว ก็มีการแชร์ออกไปถึง 460 ครั้งด้วยกัน ไม่ต้องแปลกใจถ้าพวกเขาจะได้รับการพูดถึงบนโลกโซเชียล หรือได้จำนวนแฟนคลับเพิ่มจากตรงส่วนนี้
นักเตะต่างชาติตอบโจทย์
ทัพ "เขี้ยวสมุทร" ลงทะเบียนนักเตะต่างชาติไปทั้งหมด 4 คนด้วยกัน ซึ่งนอกจากโช ชิโมจิ ที่มีประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลที่เมืองไทยมาก่อนแล้ว บรรดานักเตะ 3 รายที่เหลือ ถือเป็นของใหม่ถอดด้ามทั้งหมด ทั้งคู่หูบราซิลอย่างเฟอร์นานโด เวียน่า กับบิยาโน่ เนโต้ และลี ซาง จิน มิดฟิลด์สัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งแม้จะไม่เคยเล่นฟุตบอลในประเทศไทยมาก่อน แต่ทั้ง 3 คน ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในรายของกองหน้าอย่างเฟอร์นานโด เวียน่า ยิงไปแล้วทั้งหมด 5 ประตู รั้งอันดับที่ 3 ของตำแหน่งดาวซัลโวประจำลีก ส่วนบิยาโน่ เนโต้ แม้จะลงเล่นในตำแหน่งกองหลัง แต่ก็ทำประตูให้กับทีมได้แล้ว 1 ลูก ในเกมนัดเปิดสนามที่บุกไปชนะพัทยา ยูไนเต็ด ขณะที่ลี ซาง จิน ก็ไม่น้อยหน้า เมื่อลงสนามให้กับทีมไปทั้งหมด 8 นัด และยิงไปแล้ว 1 ประตูเช่นกัน ปกติแล้วการเซ็นสัญญานักเตะต่างชาติของสโมสรในประเทศไทย มักจะเจอของปลอมอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับทั้ง 3 คนดังกล่าวที่สมุทรปราการฯ เลือกเซ็นเข้ามานั้น ต้องบอกว่าพวกเขาได้ของดีและตอบโจทย์จริงๆ
เมื่อนำเหตุผลดังกล่าวข้างต้นมารวมกับการได้คนอย่าง "เดอะบิ๊ก" สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา และ "ดร.เป็ด" อาณัติชัย วาสประเสริฐสุข เข้ามาบริหารทีมด้วยแล้วก็ยิ่งน่ายินดีเข้าไปใหญ่ เพราะว่านี่คือคนบ้าฟุตบอลทั้งคู่ ดังนั้นอะไรที่ดีต่อสโมสรทั้งสองคนจัดการให้หมดอยู่แล้ว
และทั้งหมดนี้ก็คือสาเหตุว่าทำไม สมุทรปราการ ซิตี้ จึงกลับมามีลุ้นเลื่อนชั้นอีกครั้ง !!!
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในศึกไทยลีก 2 จะกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ โดยนัดที่ 9 สมุทรปราการ ซิตี้ จะต้องบุกไปเยือนดีพี กาญจนบุรี ในวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม เวลา 19.00 น.
เริ่มติดตามการลุ้นเลื่อนชั้นของทัพ "เขี้ยวสมุทร" ได้ตั้งแต่นัดนี้เป็นต้นไป
