:::     :::

เรอัล มาดริด กาสตีย่า มีที่มาจากไหน ?

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟุตบอลสเปนนอกจากทีมชุดใหญ่แล้ว ชุดเล็กก็นับว่ามีบทบาทและสร้างสีสันได้ไม่น้อย เพราะถูกส่งลงเล่นในลีกระดับอาชีพด้วย ส่วนมากน้อย หรืออยู่ระดับสูงแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละทีม ดังนั้นใครที่ติดตามบอลสเปนลึกหน่อย ก็มักจะได้ยินชื่อทีมชุดเล็กของสโมสรดังๆผ่านหูอยู่บ่อยๆ

ส่วนใหญ่ก็ตั้งกันง่ายๆ ใช้ชื่อสโมสรนำหน้า ต่อท้ายด้วย เบ (B) เป็นอันจบ เช่น แอต.มาดริด เบ, บียาร์เรอัล เบ, เคตาเฟ่ เบ ฯลฯ 

หรืออีกชื่อยอดนิยมที่มักนำมาตั้งต่อท้ายคือ แอตเลติโก หรือ แอธเลติก เช่น เซบีย่า แอตเลติโก หรือ บาร์เซโลน่า แอธเลติก ซึ่งทีมชุดเล็กของยอดทีมแคว้นกาตาลุนญ่านั้นเปลี่ยนกลับมาใช้ แอธเลติก ห้อยท้ายอีกครั้งในยุคของ โจน ลาปอร์ต้า นี่เอง ก่อนหน้านี้ก็เรียกสั้นๆว่า ‘บาร์ซ่า เบ’ มาตลอด


แต่มีอยู่ทีมนึง แล้วก็เป็นทีมใหญ่เสียด้วยที่มีชื่อเรียกแตกต่างไปจากผู้อื่น นั่นคือชุดเล็กของ เรอัล มาดริด

หลายคนสงสัย ทำไมไม่ใช้ เรอัล มาดริด เบ หรือ เรอัล มาดริด แอตเลติโก หรือ เรอัล มาดริด แอธเลติก แบบชาวบ้านชาวช่อง แต่กลับใช้คำว่า ‘เรอัล มาดริด กาสตีย่า’ ที่ฟังดูแล้วความหมายมันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับกีฬาเลย 

มาครับผมจะเล่าให้อ่าน ! 

………………………….

ถอยกลับในยุคอดีต มีสโมสรฟุตบอลแห่งนึงในกรุงมาดริด ก่อตั้งขึ้นในปี 1930 ชื่อว่า Agrupación Deportiva Plus Ultra (ออกเสียงว่า อากรูปาซิออน เดปอร์ตีบา ปลุส อุลตร้า) หรือเรียกสั้นๆว่า อาเด ปลุส อุลตร้า 


ในยุค 30 หลังสงครามกลางเมือง เรอัล มาดริด มีความพยายามที่จะขยายเครือข่ายของตัวเองออกไปยังทีมอื่นๆในกรุงมาดริด เพื่อประโยชน์ในการดึงนักเตะจากทีมต่างๆเข้ามาใช้งาน รวมถึงส่งนักเตะตัวเองที่ยังไม่พร้อมขึ้นชุดใหญ่ออกไปเล่นแบบยืมตัวโดยไม่ต้องเสียเวลานั่งข้างสนาม


ช่วงเวลานั้นทีมที่โด่งดังเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือ Agrupación Deportiva Plus Ultra (ออกเสียงว่า อากรูปาซิออน เดปอร์ตีบา ปลุส อุลตร้า) หรือเรียกสั้นๆว่า อาเด ปลุส อุลตร้า 


อาเด ปลุส อุลตร้า ก่อตั้งขึ้นโดย ปลุส อุลตร้า บริษัทประกันภัยรายใหญ่ของประเทศในยุคนั้น โดยเริ่มต้นจากตั้งทีมขึ้นมาและให้บรรดาพนักงานที่พอมีฝีเท้าสมัครเข้ามาเล่น ก่อนจะไต่ขึ้นไปเล่นในฟุตบอลลีกระดับ เตเซร่า ดิบิซิออน หรือ ดิวิชั่น 3 

เรอัล มาดริด เล็งเห็นถึงศักยภาพของ อาเด ปลุส อุลตร้า จึงยื่นข้อเสนอขอเข้าไปเป็นพันธมิตรด้วย โดยในปี 1947  ซานตีอาโก้ เบร์นาเบว ประธานเรอัล มาดริด บรรลุข้อตกลงกับ อันโตนิโอ บอร์ราเชโร่ รองประธานบริษัทปลุส อุลตร้า ประกันภัย และประธานสโมสรอาเด ปลุส อุลตร้า 



พฤษภาคม 1947 ทั้งสองฝ่ายเซ็นเป็นพันธมิตรร่วมกันเป็นระยะเวลา 2 ปีพร้อมอ๊อปชั่นต่อเพิ่มปีต่อปี โดยมีข้อตกลงว่า เรอัล มาดริด สามารถดึงนักเตะของ อาเด ปลุส อุลตร้า ไปเล่นได้โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงิน ขณะเดียวกันก็สามารถโอนถ่ายผู้เล่นของตัวเองไปยัง อาเด ปลุส อุลตร้า ได้ตามความเหมาะสม 


เพื่อการนี้ มาดริด จะทำการสนับสนุนเงินทุนให้ อาเด ปลุส อุลตร้า นำไปปรับปรุงสนาม เวโลโดรม ของตัวเอง ซึ่ง เรอัล มาดริด มีสิทธิ์มาลงซ้อมที่สนามแห่งนี้ได้ 

นอกจากนี้ เรอัล มาดริด จะจ่ายเงินให้ อาเด ปลุส อุลตร้า เดือนละ 5,000 เปเซต้า (ประมาณ 30 ยูโรในปัจจุบัน) ให้เป็นค่าใช้จ่ายของสโมสร 

ด้วยความช่วยเหลือทั้งทางตรงและทางอ้อมทำให้ อาเด ปลุส อุลตร้า ถูกมองจากผู้คนและสื่อในยุคนั้นว่าเป็นทีมชุดสำรองของ เรอัล มาดริด รวมทั้งมีข่าวลือเรื่องการเปลี่ยนชื่อ ซึ่งทางสโมสรก็ปฏิเสธมาโดยตลอด 


ถือกำเนิด กาสตีย่า 

เรอัล มาดริด กับ อาเด ปลุส อุลตร้า  ดำเนินความสัมพันธ์เช่นนี้มาตลอดเกือบ 30 จนกระทั่งในปี 1972 ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญก็เกิดขึ้น และถือเป็นยุคแห่งการก่อกำเนิด เรอัล มาดริด กาสตีย่า อย่างเป็นทางการ 

Banco de Bilbao หรือธนาคารแห่งบิลเบาเข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัทประกันภัย ปลุส อุลตร้า ถึงร้อยละ 90 โดยมีเป้าหมายเปลี่ยน ปลุส อุลตร้า ให้กลายเป็นบริษัทประกันภัยของธนาคารเอง 


นอกจากนี้ Banco de Bilbao ยังพยายามตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นของ ปลุส อุลตร้า ออกไป ซึ่งทำให้สโมสร อาเด ปลุส อุลตร้า มีความเสี่ยงที่จะหายไปจากสารบบวงการฟุตบอลสเปน 


และที่แน่ใจได้ว่า Banco de Bilbao ตั้งใจจะลบชื่อสโมสร อาเด ปลุส อุลตร้า ออกแน่ๆ ก็เนื่องจากพวกเขาต้องการได้ที่ดินที่ใช้เป็นสนามเหย้าของ อาเด ปลุส อุลตร้า ที่อยู่ในย่านอาร์ตูโร่ โซเรีย มาสร้าง ปิโซ่ หรือ 

อพาร์ทเมนท์หรูเพื่อขายทำกำไร 



อันโตนิโอ บอร์ราเชโร่ ประธานสโมสรอาเด ปลุส อุลตร้าจึงนำความเข้าปรึกษากับ เรอัล มาดริด เพื่อขอความช่วยเหลือ 

ซานตีอาโก้ เบร์นาเบว จึงเดินเรื่องโดยใช้สิทธิตามกฏของสหพันธ์ฟุตบอลแยก อาเด ปลุส อุลตร้า ออกจากบริษัทประกันภัยปลุส อุลตร้า 


เมื่อแยกจาก บริษัทประกันภัยปลุส อุลตร้า อย่างเด็ดขาดแล้ว อาเด ปลุส อุลตร้า จึงต้องพึ่งพาการสนับสนุนทางการเงินจาก เรอัล มาดริด มากยิ่งขึ้น ทำให้อิทธิพลของ ‘โลส บลังโกส’ ที่มีต่อ อาเด ปลุส อุลตร้า ก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว 

วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 1972 อาเด ปลุส อุลตร้า เปิดตัวต่อสื่อมวลชนก่อนลงเล่นฟุตบอลีกระดับเตเซร่าด้วยจำนวนผู้เล่น 19 คน ปรากฏว่ามีถึง 7 คนที่ยืมตัวมาจาก เรอัล มาดริด 



กระทั่งในวันสุดท้ายของเดือนสิงหาคม 1972 หรือ 1 เดือนก่อนการแข่งขันฟุตบอลลีกจะเริ่มขึ้น อาเด ปลุส อุลตร้า ก็ประกาศเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการ โดยใช้ชื่อใหม่ว่า กาสตีย่า เซเอเฟ (castilla cf) กลายสภาพเป็นทีมชุดเล็กของ เรอัล มาดริด อย่างเป็นทางการ 

สำหรับชื่อ กาสตีย่า เซเอเฟ (castilla cf)  นี้ เป็นชื่อของอดีตทีมฟุตบอลในเมืองมาดริดยุค 30 ที่หายไปพร้อมๆกับการมาของสงครามกลางเมืองสเปน หากแต่ความหมายของคำว่า กาสตีย่า นั้น มีอยู่ 2 ทฤษฏี 


ทฤษฎีที่แพร่หลายที่สุดเกี่ยวกับต้นกำเนิดของคำว่า ‘Castilla’  มันมาจากคำว่า Castellum ในภาษาละติน หมายถึงป้อมปราการหรือค่ายทหารและอาจตีความได้ว่าเป็น “ดินแดนแห่งปราสาท"

ส่วนอีกทฤษฎีนึงเชื่อกันว่ามันคือชื่อของอาณาจักรโบราณในแถบคาบสมุทรไอบีเรียซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศสเปน และ โปรตุเกส 


และทั่งหมดนี้ก็คือที่มาที่ไปของ เรอัล มาดริด กาสตีย่า ทีมชุดเล็กที่ยุคนึงได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งเอาไว้ผมมาเล่าให้อ่านกันกันวันหลังครับ


เจมส์ ลา ลีกา  

 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด