:::     :::

จากเด็กขายของสู่นักพากษ์ชื่อดัง

วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม 2566 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
309
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาชีพนักพากษ์ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล, มวย, การ์ตูน ภาพยนต์ หรืออื่นๆ อีกมากมายน่าจะเป็นหนึ่งในอาชีพในฝันของใครหลายคน

เพราะนี่เป็นหนึ่งในอาชีพที่คุณสามารถทำได้อย่างยาวนานไปจนถึงอายุ 70-80 ปี ได้เลย หากสามารถรักษาสุขภาพเสียงเอาไว้ได้ดี

แน่นอนว่าแต่ละงานล้วนมีความยาก แต่มันไม่มีอะไรเกินความสามารถหากเรามีความตั้งใจอย่างที่ เซ็บ ฮัทชันสิน ที่ปัจจุบันเป็นผู้บรรยายทาง ไอทีวี และ สกาย สปอร์ตส์

นักพากษ์ที่ปัจจุบันอายุ 39 ปี ไม่ได้อยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่แรก เขาเริ่มต้นด้วยการทำงานใน เพ็ท ช็อป และร้านขายอุปกรณ์กีฬา แต่ความมุ่งมั่นและตั้งใจของเขาคือการที่จะเป็นนักพากษ์กีฬาให้ได้


ฮัทชินสัน ได้เผยถึงเส้นทางที่เป็นแรงบันดาลใจและการนำพาตัวเองไปอยู่ในเส้นทางที่ต้องการกับอาชีพนี้

"ผมเป็นโปรดิวเซอร์ทาง ไอทีวี, จากนั้นผมบอกว่า 'ฉันต้องให้ความสำคัญกับการคอมเม้นต์ของฉน' มันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของผมเสมอ" ฮัทชินสัน เปิดใจกับ ดิ แอธเลติก

"การทำงานเป็นโปรดิวเซอร์นั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ผมต้องการทำตามความฝันในวัยเด็ก ผมได้ทำงานอิสระซึ่งถือเป็นความเสี่ยงอย่างมาก แต่ผมยังเด็กและไม่มีความรับผิดชอบอะไรมากมาย ดังนั้นผมก็เลยทำมันได้"

"บางคนรู้สึกว่าผมตัดสินใจโง่ๆ แต่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย ผมมั่นใจในความสามารถของตัวเองที่จะได้งานทำ"


ฮัทชินสัน เล่าให้เพื่อนและครอบครัวฟังเกี่ยวกับความฝันที่เขามีในการเป็นผู้บรรยายกีฬาตั้งแต่อายุ 10 ปี แต่ก็บอกว่าได้รับความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยจากครูแนะแนวที่โรงเรียน

แม้กระทั่งพ่อของเขาเอง - เรย์ - ที่เป็นนักฟุตบอล โดยเริ่มต้นกับอะคาเดมี่ของ เลย์ตัน โอเรียนท์ ก่อนจะบาดจเบหนักจนต้องเลิกก็อยากให้เขาเป็นโค้ชก็ไม่ได้ช่วยมากนัก

และการแยกทางของ พ่อ-แม่ ก็ยิ่งทำให้เขาต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเดินตามความฝันมากยิ่งขึ้นไปอีก

ก่อนที่จะเข้าศึกษาที่ สแตฟฟอร์ดเชียร์ ยูนิเวอร์ซิตี้ ที่เขาสำเร็จการศึกษาในปี 2009 ในหลักสูตรวารสารศาสตร์กีฬา, ฮัทชินสัน เคยทำงานที่ร้าน เพ็ท ช็อป, สปอร์ต ไดเร็คท์ และเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาแล้ว

"ตอนที่ พ่อ-แม่ ผมแยกทางกัน มันยิ่งผลักดันผมมากขึ้นกว่าเดิม ผมเรียนกหลักสูตรวารสารศาสตร์กีฬาที่มหาวิทยาลัยสแตฟฟอร์ดเชียร์ และนั้นช่วยให้ผมใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น"


"จากนั้น ผมส่งจดหมายสมัครงานไป 20 แห่ง แต่มีแค่ 3 ที่ที่ตอบกลับ - ช่องทีวีของสโมสร, ไอทีวี และ บีบีซี สปอร์ต ประจำภูมิภาค"

"คนที่ปฎิเสธผมให้คำตอบว่า 'เราไม่มีตำแหน่งว่าง' คุณสามารถมองได้เป็นสองแบบ : หนึ่งคือพวกเขาโกหกผม หรือจริงๆ แล้วพวกเขาไม่มีตำแหน่งนั้นว่าง แต่ผมเริ่มรับความคิดที่ว่าพวกเขาแค่ไม่พร้อมรับผม"

ฮัทชินสัน เผยผ่านรายการ เดอะ วอยซ์ ในปี 2021 ว่าเขาได้นับแรงบันดาลใจจากบรรดาคนดังที่เขาทั้งดูและฟังทั้ง แฟร้งค์ บรูโน่, ฃินฟอร์ด คริสตี้, แฮร์รี่ คาร์เพนเทอร์, ไบรอัน มัวร์ และ เดวิด โคลแมน 

แม้ว่าเจาจะศึกษาจากบรรดาเหล่านี้บรรยายคนดัง แต่เขาก็แข็งขันและเตรียมตัวอย่างหนักก่อนเกมเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาถึงสนามก่อนเวลาถึง 3 ชั่วโมง!


"เสียงเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุด สไตล์ของผมอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน แต่วิธีที่ผมมองก็คือมันไม่ได้เรื่องของสำเนียง มันเกี่ยวกับการนำเสนอ"

"เมื่อครอบครัวและเพื่อนสนิทได้ยินเสียงของผมทางทีวีเป็นครั้งแรก พวกเขาพูดว่า 'ฉันรู้ว่านายทำได้' ผมมีต้นแบบอย่าง ไบรอัน มัวร์ เพราะเขาทำอะไรเรียบร้อยแต่มีอารมณ์ในน้ำเสียงของเขา นั่นเป็นวิธีที่ผ่านพยายามจะเป็น"

"เกมล่าสุดที่ผมทำก็คือเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอกับ เบรนท์ฟอร์ด, คุณกำลังเข้าสู่ช่วงท้ายเกมและคุณต้องคิดถึงภาพที่ใหญ่ขึ้น

"สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำสองประตูซึ่งทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผงาด, ผู้คนพูดเกี่ยวกับ 'เฟอร์กี้ ไทม์' แต่ในวันนั้นคือวันที่ภรรยาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จากไป ดังนั้นผมคิดว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการพูดถึง เซอร์ อเล็กซ์, คุณต้องมีไหวพริบกับสิ่งนั้น"


ในทำนองเดียวกันกับ อเล็กซ์ สกอตต์ นักพากษ์หญิง, ฮัทชินสัน ถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนกีฬา ในญานะหนึ่งในนักวิจารณ์ผิวสีเพียงไม่กี่คนใน สหราชอาณาจักร แต่สำหรับ ฮัทชินสัน เขายอมรับว่าไม่เคยตั้งใจอย่างชัดเจนที่จะทำให้มันเป็นแบบนั้น แค่มุ่งความสนใจในการทำฝันให้เป็นจริง

"ผมไม่เคยมองเรื่องการพยายามเป็นผู้บรรยายผิวสีคนแรก ผมมองที่ทีม อังกฤษ และนักเตะในพรีเมียร์ลีก ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เป็นคนผิวสี ความคิดของผมย้อนกลับไปเมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาที่แทบไม่มีคนผิวสีเลย แต่ผมรู้สึกสบายๆ และไม่ได้รู้สึกแปลกแยกอะไร"

"ผมเดาความแนวคิดของผมมาจาก พ่อ และ แม่ เพราะพวกเขาทำให้ผมเชื่อใจตัวเองเสมอ พวกเขาไม่ได้หยุดผมจากการไล่ล่าความฝัน"

ปัจจุบัน เขาผ่านการทำหน้าที่มาแล้วในฟุตบอลโลกทั้งของ ผู้ชาย และ ผู้หญิง โดยเป็นนักพากษ์หลักในรายการหลังด้วย แถมยังผ่านการโชว์ผลงานในการแข่งขัน รักบี้ เวิลด์ คัพ และ โอลิมปิก เกสม์ รวมถึงการพากษ์ในการแข่งขันชิงแชมป์มา 4 รายการแล้ว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด