:::     :::

Tactical Analysis : แก้เกมเข้าเป้า เอาชนะตามมาตรฐาน

วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2566 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
2,140
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สามแต้มสำคัญของแมนยูที่หลังจากตั้งลำในเกมได้ ก็แสดงมาตรฐานการเล่นที่เหนือกว่า และที่สำคัญ วันนี้การแก้แทคติกของเทน ฮากทำได้เยี่ยมจริงๆ มีข้อสังเกตในเชิงแทคติกยังไงบ้าง บทความนี้คัดบางส่วนที่สำคัญๆมาวิเคราะห์ให้ได้เห็นกันครับ

จบลงไปแล้วสำหรับเกมล่าสุดที่แมนยูไนเต็ดบุกไปเอาชนะเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดได้ 1-2 เป็นเกมที่ทีมยังขาดคาเซมิโร่เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บจากแมตช์ทีมชาติ ทำให้ลูกพี่คาเซไม่มีชื่อในเกมนี้ ขณะที่สองกองหลังอย่าง วาราน กับ เรกีลอน ที่กลับมาซ้อมได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ฟิตพอจะลงเล่นในนัดนี้เช่นกัน ทำให้ทีมต้องจัดทัพตามตัวเล่นที่มี และใช้นักเตะในส่วนของแผงหลังเป็นชุดเดียวกันกับที่เอาชนะเบรนท์ฟอร์ดมาได้ 2-1 ด้วยการใช้ลินเดอเลิฟเล่นแบ็คซ้ายจำเป็น และคู่เซ็นเตอร์แบ็คตัวกลางเป็นแมกไกวร์-อีแวนส์ ต่อเนื่องกันอีกหนึ่งนัด

เกมก่อนที่ฟอร์มดีทั้งคู่ แฟนผีหลายๆคนอาจจะเริ่มวางใจพวกเขาสองคนแล้ว และเกมนี้ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ส่วนตัวผู้เขียนชื่นชมฟอร์มการเล่นของแมกไกวร์ที่อ่านจังหวะในเกมขาดทุกช็อต และเข้ามาชิงตัดบอล โขกสกัดเคลียร์บอลให้ทีมได้จนบอลไดเร็คต์ของเชฟยูทำอะไรเราไม่ได้เลย อันนี้คือดีมาก ส่วนตัวให้ Man of the Match ไปเลย

ส่วนในเรื่องของรูปเกมวันนี้ ในช่วง 25 นาทีแรกเกมของยูไนเต็ดดูเหมือนว่าจะโดนสร้างจังหวะบุกจากเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดหลายต่อหลายครั้งในจังหวะสวนกลับที่เป็น transition play จากหลายๆช็อตที่กองหลังเราต้องรีบถอยกลับมาตั้งกระบวนเกมรับ ทำให้เจอปัญหาเยอะ แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงแรกมาได้ ทีมก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

และนี่คือแทคติกที่สังเกตได้ในเกมนี้ ทั้งเรื่องการแก้เกม และการเข้าทำของแมนยูที่มีหลายจุดน่าสนใจดังนี้

1. เกมรุกของเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดใช้จังหวะ transition ดีมากในช่วงแรกๆ

ข้อนี้อยากชื่นชม Paul Heckingbottom ว่าวางแผนมาดีมากในการปรับทีมจากแบ็คไฟว์ มาเล่นแบ็คโฟร์ในระบบ 4-4-2 แถมยังดันไลน์เกมรับ (Defensive Line) ขึ้นมาสูงจนถึงกลางสนามอีก ดันเกมบุกใส่แมนยูสูงมากโดยไม่กลัวโดนโต้กลับเลย ทำให้การเล่นเกมรุกของพวกเขามีปริมาณนักเตะค่อนข้างมาก ไม่ใช่แผนมาอุดหลังบ้านแล้วใส่ตัวรุกไว้สองคนเหมือนทีมอื่นๆ สังเกตจากภาพข้างบนนี้ก็จะเห็นชัดว่าตัวที่ดันขึ้นมาบุกของเชฟยู มี3-4 คนที่ได้บุกสวนขึ้นมาใส่แมนยูในจังหวะเปลี่ยนผ่านในช็อตข้างบนนี้

หรือจะมาดูจังหวะนี้ที่ได้ยิงก็ได้ จะเห็นว่าแนวรับแมนยูเสียกระบวน และทรงยืนไม่เป็นทรงเลย เซ็นเตอร์สองคนมากองกันทางซ้าย และลูกนี้ยิงติดแมกไกวร์แต่บอลปลิ้นไปเข้าทางตัวเติมอย่างแม็คเบอร์นีย์ได้ยิง แต่ติดเซฟโอนาน่า ภาพข้างล่างจะเห็นเลยว่านักเตะแมนยูไปกองกันตรงนั้น 4 คน แต่สุดท้ายบอลก็หลุดไปเข้าทางคู่ต่อสู้ได้

การที่ทีมเสียบอลกลางสนาม และเชฟยูเล่นโจมตีเร็ว ส่งผลให้การถอยมาแพ็คเกมรับของแมนยูมีปัญหา และพวกเขาใช้ transition play สร้างโอกาสยิงได้ดีจนโอนาน่าต้องเซฟหลายครั้ง ภาพนี้จะเห็นเลยว่า อีแวนส์ที่เติมเกมในลักษณะของตัวเล่นกึ่งมิดฟิลด์, และแบ็คสองข้างในรูป ดาโลต์ลินเดอเลิฟ จะลงมาไม่ทันเลย นั่นคือจุดที่เชฟยูฉวยโอกาสและทำได้ดีมาก

นี่คือประเด็นแรกของการถูกโจมตีด้วยบอลเร็วของเชฟยู

2. เกมเพรสซิ่งที่ทำให้ยูไนเต็ดขึ้นเกมจากแดนหลังไม่ได้ในช่วงแรก

ตามภาพนี้เห็นๆเลย เราจะพบว่าเงื่อนไขที่ทำให้นักเตะเชฟยูวิ่งเพรสใส่นักเตะยูไนเต็ด ที่เรียกว่าเป็น pressing triggered นั้นคือการจ่ายบอลออกริมเส้น ถ้าเกมออกริมเส้นนักเตะเชฟยูจะวิ่งใส่ทันที ขณะที่ตรงกลางพวกเขามี "ปริมาณ" ที่เพียงพอแล้วในการป้องกันไม่ให้ขึ้นเกมตรงกลางได้ด้วยการยืนคุมพื้นที่รอบๆอัมราบัตในรูป ขณะที่บอลถ้าออกมาริมเส้น นักเตะตัวรับบอล(receiver) จะถูกบีบและแทคเกิลทันที ลูกนี้ในภาพแมนยูก็ขึ้นเกมจากหลังบ้านมาให้แนวแถวสองไม่ได้ โดนเพรสกินเรียบหมด

ภาพข้างบนนี้จะเห็นเลยว่า ปริมาณนักเตะเชฟยูกลางสนามเยอะมากๆ การดันขึ้นสูงมาเล่นเกม mid-block กลางสนามแบบไม่เกรงกลัวแมนยู ทำให้พวกเขาเปิดเกมบุกใส่แมนยูจากแดนบ้านแมนยูเองเลยได้ง่ายมาก ซึ่งมันคือการตัดบอลเล่นในแดนบนของเชฟยูได้สำเร็จ และกลายเป็นเกมรุกในจังหวะ transition play ตามที่อธิบายไว้ในข้อ1

ส่วนเรื่องการดันเกมสูงขนาดนี้มาสู้กับแมนยู เหตุที่ไม่โดนแมนยูเล่น counter attack เพราะพวกเขาเพรสตัดเกมสวนกลับยูไนเต็ดได้ดีมากในช่วงแรกๆ อย่างในภาพข้างล่างนี้ บรูโน่ได้บอลจะมาบุกสวนก็โดนตัดบอลไปง่ายๆเช่นกัน

เกมโต้กลับไปไม่ค่อยถึงตัวสวนอย่างมาร์คัส แรชฟอร์ด ขณะที่ฝั่งอันโทนี่ทางขวา โดนเพรสติดตัวเหมือนเคย ทำให้เขาไม่สามารถโต้กลับไปด้วยตัวเองได้ มักจะเสียบอลก่อน หรือถ้าไม่เสียบอล ก็จะโดนแทคติก "ตัดฟาล์วทันที" เพื่อเบรคเกมโต้แมนยู อย่างที่เราได้เห็นว่าอันโทนี่ เรียกเท้าจากนักเตะเชฟยูได้เยอะ โดนเตะจนเรียกใบเหลืองได้ แต่นั่นก็ทำให้เชฟยูปลอดภัยจากการโดนสวนเหมือนกัน ถือว่าคุ้ม

3. โอกาสในการทำเกมรุกของยูไนเต็ดคมกว่า

หลังจากที่ 25 นาทีแรกโดนบุกกดยาวๆทั้งบอลเร็ว ทั้งการครองบอลบุกใน phase 1 with ball ยูไนเต็ดเริ่มตั้งลำและพยายามครองบอลให้ได้บ้าง เพื่อสร้างโอกาสเกมรุก และเมื่อมีโอกาสวันนี้ทีมใช้จังหวะการเล่นน้อยครั้ง sequence เกมบุกไม่ต้องเยอะ แต่เมื่อมีโอกาสก็ลองเสี่ยงเลย ทั้งบอลเร็ว และการยิงจากแถวสอง

ลูกนี้เริ่มต้นจากลินเดอเลิฟที่เล่นแบ็คแบบ Inverted Full-Back หุบเข้าในมา และจ่ายพรีแอสซิสต์ให้บรูโน่ชิพเข้าไปให้แม็คโทมิเนย์ ที่เล่นแบบเบอร์8เติมเกมเข้ากรอบเขตโทษ และเมื่อได้บอลเขาก็ทำหน้าที่ Second Striker ได้อย่างดี ในยามที่ฮอยลุนด์โดนล็อคตาย 2-3 คนในบริเวณรอบๆกรอบหกหลา

แม็ค ฮอยลุนด์ ยืนเป็นกึ่งๆหน้าคู่กดใส่กรอบคู่แข่งตลอดทั้งเกม 

แม็คโทมิเนย์ยิงเข้าไปด้วยโอกาสยิงครั้งเดียวของเขาเป็นประตู เฉียบคมมาก และสิ่งที่ต้องชมคือเกมรุกแมนยูวันนี้ไม่ลีลา เวลาที่ครองบอลใส่เชฟยูได้ ถ้ามีโอกาสก็จะครีเอทจังหวะยิงเลยทันที และแต่ละลูกยิงค่อนข้างใกล้เคียงทุกลูก ถากเสาไปหลายครั้ง ชนคานไปอีกสอง

แต่วันนี้ทำประตูได้สอง เกมรุกของเราทำได้ดีและถือว่าใช้โอกาสไม่เปลืองเลย เพราะการใช้เปลืองคือยิงทิ้งๆขว้างๆ แต่เกมนี้โอกาสส่องยิงเฉียดประตูหลายลูกมาก แค่มันยังไม่เข้าแค่นั้น

4. เกมครองบอลที่ Perfect จากการมีเอริคเซ่นลงมาช่วยอัมราบัต

เกมการครองบอลครึ่งหลังเนี้ยบขึ้นกว่าเดิม จากสองวิธีการ อย่างแรกคือ ถอยอัมราบัตลงไปเป็นตัวออกบอลจากแผงหลังเลย ในเมื่อยืนสูงขึ้นมากลางสนามแล้วบอลมาไม่ค่อยถึงเพราะโดนเพรสบีบพื้นที่รอบๆ ครึ่งหลังเทน ฮาก แก้ให้อัมราบัตถอยไปยืน half-back ระนาบเดียวกับอีแวนส์ที่ถอยต่ำลงมาแล้ว และแมกไกวร์ เซ็ตหลังสามเสมือน โดยมีคริสเตียน เอริคเซ่น เป็นมิดฟิลด์ตัวฟรีที่ถอยลงมาช่วยแผงหลังต่อบอล

ทำให้ตอนนี้ระบบกลายเป็นกลางคู่ ตัวนึงคืออัมราบัตที่ยืนเป็นตัวปักแบบ Anchor ขณะที่เอริคเซ่น ลงต่ำมาเป็นมิดฟิลด์ตัวที่สองที่คอยเชื่อมเกม จะบอกว่าคริสเตียนเป็นพวกลูกหาบแบบ Carrilero ก็ได้ในเกมนี้ แต่การมีกลางที่เล่น 6 และ 6กึ่ง8 อยู่ร่วมกันในสนาม มันทำให้เกมการครองบอลของแมนยูต่อเนื่อง และไหลลื่นมากอย่างที่เห็น

เอริคเซ่นเล่นง่าย จ่ายบอลฉลาด และโฟลวบอลดีสุดๆ เมื่อทีมครองบอลได้ เก็บบอลได้ และ build-up ขึ้นหน้าได้สบายๆ ต่างจากครึ่งแรก ทำให้ทีมเริ่มที่จะ dominate เกมได้มากกว่าเดิม 

ผลสุดท้ายคือแมนยูเป็นฝ่ายครองบอลบุกแบบดัน Defensive Line ขึ้นมาถึงกลางสนาม โดยมีสองมิดฟิลด์คู่double pivot นี้คุมเกมตรงกลางเป็นหลักไว้ตามภาพข้างล่างนี้

ชัดเจนว่ามันคือผลสัมฤทธิ์ของภาคการแก้เกมโดยเทน ฮาก ที่ทำให้แมนยูครองบอลได้เสร็จสรรพ จนกระทั่งต่อมาปั้นเกมบุกต่อเนื่อง ได้ส่องจากอัมราบัต บรูโน่ แรชฟอร์ดเรื่อยๆ จนกระทั่งดาโลต์ยิงสำเร็จ

5. เกมรุกโอเวอร์โหลด และชัยชนะของการ "ครองบอลบุก"

ต่อเนื่องมาจากแทคติกด้านบน เมื่อทีมครองบอลได้ดีกว่าเดิม โอกาสมันมาก็เรื่อยๆอย่างที่เห็น แมนยูยิงชนคานบ้าง ถากเสาบ้าง แต่ก็ใกล้เคียงทุกจังหวะ และได้บุกต่อเนื่อง จนกระทั่งเข้านาทีที่ 77 ผลจากการครองบอลได้ ทำให้นักเตะหลายๆคนดันเกมขึ้นมาสูง

ดูในกรอบเขตโทษก่อนว่า วงกลมส้ม บรูโน่นั้นเติมเข้ากรอบแทนแม็คโทมิเนย์ที่ออกไปแล้ว ทำให้ปริมาณไม่เสียเปรียบเชฟยูในกรอบ ขณะที่ตัวงนอก เป็นอัมราบัต กับ เอริคเซ่น เล่นแทนตามภาพนี้ (ไม่ได้ลงชื่อไว้) แต่ให้ดูตัวในกรอบเป็นสำคัญว่า หมาก แรช หนวด เข้าไปพื้นที่สุดท้ายกันครบ 

การ์นาโช่พยายามทำเกมบุกด้านข้าง และให้สังเกตพื้นที่ว่างลินเดอเลิฟ ที่ทีมขึงเกมริมเส้นไว้ ซึ่งแม้ไม่ใช่คนโปรดอย่างแบ็คซ้ายธรรมชาติ แต่ลินเดอเลิฟมองหาตำแหน่งเพื่อนได้ดี และจ่ายแอสซิสต์ให้ดาโลต์ที่ยืนหาตำแหน่งว่างให้ตัวเองดีมากดังรูป ก่อนจะเปิดอัลติปั่นโค้งแบบเดวิด เบ็คแฮม เข้าไปอย่างสวยงาม 

การที่ดาโลต์ว่างขนาดนั้น เพราะการโอเวอร์โหลดนักเตะเข้ากรอบเขตโทษด้วยตัวอื่นๆไปหมด จนแนวรับเชฟยูถอยต่ำไปหมดแล้ว จึงเป็นโอกาสให้พวกตัวแถวสองได้ลองยิง จนลูกนี้ดาโลต์ก็ทำสำเร็จ

มันคือผลจากแทคติกโดยตรง และเป็นผลจากความมุ่งมั่นในการจะบุกเพื่ออยากจะเอาชัยชนะของทีมล้วนๆ

มันคือชัยชนะที่เราทำได้ดี ทีมเวิร์คของเราเยี่ยม เกมรับไม่มีข้อผิดพลาดอะไรใหญ่ๆเหมือนเกมก่อนๆ ลูกจุดโทษมันเป็นเรื่องของดวงพอสมควรที่ซวยบอลไปโดนมือ ไม่ได้ถึงกับเป็นการเล่นผิดพลาดส่วนตัวอะไรขนาดนั้น ขณะที่การเจอกับแทคติกเซอไพรส์ของเชฟยูจนเสียกระบวนในช่วงแรก โชคดีมากที่แผงหลังยังเหนียว ตั้งแต่กองหลังสองคน แมกไกวร์ที่โหม่งจนหัวถลอก จอนนี่อีแวนส์ที่เติมจนแทบจะเป็นลิเบอโร่แล้ว ขณะที่ลินเดอเลิฟ ดาโลต์ช่วยเกมรับได้ดีมาก 

และคนสำคัญ อังเดร โอนาน่า ฟอร์มติดในวันนี้ ช็อตข้างล่างนี้ต้องชมความสดของอัมราบัตที่ตามจนสุดซอย และโอนาน่าตัดสินใจออกจากเส้นมาบล็อคลูกนี้สวยมาก นี่คือทีมเวิร์คและความเหนียวแน่นจริงๆ ปัญหาเกมรับเปื่อยยุ่ยจากนัดก่อนๆ วันนี้ถือว่าแก้ไขได้แล้ว

ขณะที่การเปลี่ยนตัวของเทนฮากก็ทำได้ดี ตัวที่ลงไปสามตัวแรกคือปังหมด การ์นาโช่ช่วยทีมได้ดีในจังหวะโต้กลับ ขู่เชฟยูทำให้บุกใส่เราไม่ได้ในช่วงท้ายจะพยายามตีเสมอ ส่วนเอริคเซ่นบรรยายไปแล้วว่าทำให้ทีมคุมสถานการณ์ได้อยู่หมัดจริงๆ แม้แต่มาร์กซิยาลก็ขยันและชิงบอลเล่นได้บ่อยครั้งมากๆ

เกมรุกไม่มีอะไรต้องกังวลตั้งแต่แรก และก็ผลิตสกอร์ได้จริงๆ ถ้าลงล็อคกว่านี้จริงๆก็มีโอกาสจะถึงสามลูกได้เหมือนกัน

เพราะงั้นวันนี้จึงเป็นเกมที่ดูแล้วมีเสียวนิดๆช่วงต้น แต่พอเห็นปรับตัวได้ คุมเกมได้ ก็รู้แล้วว่าเราชนะได้แน่ๆ เพราะคุณภาพการทำประตูมันแตกต่างกันมาก และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

หวังว่าจะเป็นชัยชนะที่ดีสำหรับแฟนผีหลายๆท่าน สามแต้มที่เก็บได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมาสองนัดติดแล้วนี่คือโคตรดี 6แต้มเน้นๆ ตอนนี้แต้มเราห่างจากนิวคาสเซิลกับไบรท์ตันแค่คะแนนเดียวด้วยจำนวนนัดที่เท่ากัน โอกาสขึ้นไปสู่ด้านบนยังมีอีกเยอะ ค่อยๆแก้ไปทีละจุด พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ฤดูกาลนี้เพิ่งเริ่มต้น

และชัยชนะในวันนี้คือรอยประทับของจิตวิญญาณของ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

กลับคืนสู่สรวงสวรรค์นะครับปู่

#BELIEVE

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด