ทำให้พลพรรคลูกหนังจากถิ่นคลองเตยเก็บเพิ่มเป็น 19 แต้ม จากการลงสนามในศึกไฮลักซ์รีโวไทยลีก ฤดูกาล 2023/24 ไป 9 นัด นำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนมีแต้มนำ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง 2 แต้ม 

ส่วน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าที่รั้งทีมอันดับ 3 และ 4 แข่งน้อยกว่า 3 และ 2 นัด ตามลำดับ เนื่องจากมีโปรแกรมนัดตกค้างรออยู่ 

ต้องมาดูว่าทั้งคู่จะสามารถเก็บ 3 แต้มได้ทั้งหมดหรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ “สิงห์เจ้าท่า” จะฉายเดี่ยวบนตารางคะแนนอย่างองอาจ 

แน่นอนว่าด้วยคะแนนที่สูสีกันแบบนี้ทำให้การคับเคี่ยวแย่งแชมป์ลีกปีนี้เข้มข้น ชนิดที่แฟนบอลได้ลุ้นกันยาวๆ 

ย้อนกลับไปที่ฟอร์มการเล่น “สิงห์เจ้าท่า” ต้องบอกว่าร้อนแรงจริงๆ เรียกว่าปีนี้ได้ลุ้นแชมป์ยาวๆ แถมขุมกำลังทั้งตัวจริงตัวสำรองล้วนแน่นปึ๊ก 

ก่อนจะมาพลาดท่าในนัดล่าสุด พวกเขาเก็บชัยได้ 3 นัดรวด ยิงประตูคู่แข่งรวมไป 16 ประตู ใน 5 นัดที่ผ่านมา รวมแล้วส่องตาข่ายคู่แข่งรวม 27 ประตู มากที่สุดในลีกขณะนี้ 

ขณะที่ตัวรุกอย่าง แฮมิลตัน ซัวอาเรส ยังคงยิงไม่หยุด ตอนนี้ทำไป 8 ประตู นำเป็นดาวซัลโวร่วมกับ อู กึน-จอง ของโปลิศ เทโร

ปีนี้ต้องชมการเสริมตัวรุกของ การท่าเรือ ที่เก็บ แฮมิลตัน ไว้ พร้อมไปคว้า บาร์รอส ทาร์เดลี อดีตคู่หูสมัยค้าแข้งอยู่กับ “หนองบัว พิชญ” เข้ามาเติมแกร่ง 

ทำให้ภาระการทำประตูไม่ต้องตกไปอยู่ที่ท่านฤาษีคนเดียว ส่วนตัวรุกคนอื่นสามารถสอดขึ้นไปทำประตูได้ด้วย ทำให้ยากต่อการจับทางของคู่แข่ง 

ตอนนี้ ทาร์เดลี ยิงไป 6 ประตู ขณะที่ซูเปอร์ซับอย่าง ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ก็ยิงไป 5 ประตู หากมีกองหน้าคนใดคนหนึ่งติดโทษแบนหรือบาดเจ็บสามารถ “โค้ชอั๋น” สุรพงษ์ คงเทพ และ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ กุนซือคู่ยังมีตัวตายตัวแทนได้ 

อีกหนึ่งคนที่ไม่ชมได้เลยคือ “เจ้าโดม” บดินทร์ ผาลา ปีกวัย 28 ปี ที่กำลังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติไทย หลังจากทริปยุโรปหลายคนคิดว่าเขาจะได้พัก ที่ไหนได้ยังฟิตสามารถลงสนามได้ต่อเนื่องและยิงประตูได้ด้วย 

ฤดูกาลนี้ปีกร่างเพียวลมทำผลงานได้ดีมาก สามารถสร้างความปั่นป่วนแนวรับคู่แข่ง และยึดตำแหน่งตัวจริงทางริมเส้นทางฝั่งซ้ายได้อย่างเหนียวแน่น 

ขนาดตัวสำรองอย่าง ธนาสิทธิ์ ศิริผลา หรือ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ยังไม่สามารถแย่งตำแหน่งตัวจริงได้ 

หลายคนสบประมาทอดีตปีก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ว่าเป็นลูกรักของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร 

แต่ชีวิตการค้าแข้งในถิ่นแพท สเตเดียม ของเขาค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากปีกที่ฟอร์มการเล่นลุ่มๆ ดอนๆ สามารถเล่นได้อย่างคงเส้นคงวามากขึ้น 

ที่สำคัญเลยเขาแทบไม่มีข่าวเสียๆ หายๆ เลย เรียกว่าใช้ความสามารถในสนามพิสูจน์ตัวเองว่ามีดี จนยึดตัวจริงได้ 

เมื่อพรรษาลูกหนังเพิ่มขึ้นเขามีความนิ่งกว่าเดิม รู้ว่าจังหวะไหนควรเลี้ยง จังหวะไหนควรส่ง ไทม์มิ่งเกมดีขึ้นเรื่อยๆ มักยืนอยู่ในตำแหน่งที่ดี และเล่นได้อย่างมั่นใจ 

แถมการจบสกอร์ยังเฉียบขาด ตอนนี้เขามีส่วนร่วมกับการยิงประตูระดับสโมสรกับทีมชาติไทย 4 จาก 5 นัดหลังสุด 3 เกมหลังสุดในสโมสรเขายิงติดต่อกันได้ด้วย

ไม่ว่าจะเป็นการยิงประตู ขอนแก่น ยูไนเต็ด, อุทัยธานี เอฟซี และ ลำพูน วอร์ริเออร์ รวมแล้วยิงให้ การท่าเรือ ไป 4 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ 

เมื่อฟอร์มในสโมสรดีย่อมส่งผลโดยตรงต่อทีมชาติไทย ในเกมอุ่นเครื่องล่าสุดกับ เอสโตเนีย เขาสามารถทำ 1 แอสซิสต์ให้ จักพัน ไพรสุวรรณ ทำประตูตีเสมอ 1-1 

หากย้อนไปในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ เขามีส่วนสำคัญทั้งจ่ายบอลจากสุดเส้นหลังก่อนโดนกองหลัง เลบานอน ทำเข้าประตูตัวเองในเกมชนะ 2-1 และโหม่งประตูตามตีเสมอ อิรัก 2-2 ก่อนที่สุดท้ายจะแพ้จุดโทษ

ตอนนี้ใครจะมองว่ามาตรฐานของ “เจ้าโดม” อยู่แค่ระดับในอาเซียน หากจะมองภาพรวม ถามว่าปีกไทยแท้ๆ คนไหนบ้าง ที่ฝีเท้าอยู่ในระดับเอเชีย หรือในยุโรป? บอกเลยว่าหายาก

หากจะหาปีกไทยแท้ที่ฟอร์มดีเหมือน “เจ้าโดม” ตอนนี้บอกเลยว่ามีน้อยมาก ที่พอจะสูสีหน่อยน่าจะเป็น “รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก” ของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 

แต่ถ้าจะวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ชั่วโมงนี้ปีกจากการท่าเรือเป็นต่อนิดๆ เพราะเครื่องร้อนแรงจริงๆ ทั้งในสโมสรและทีมชาติไทย

มาลุ้นว่าปีนี้เขาจะพา การท่าเรือ เข้าวินคว้าแชมป์ไทยลีกมาครองได้หรือเปล่า ถ้าทำได้น่าจะเป็นขวบปีที่สมบูรณ์แบบมากๆ ของ “เจ้าโดม” บดินทร์ ผาลา เลยทีเดียว