เนื่องจากกลางเดือนพฤศจิกายนนี้พลพรรค “ช้างศึก” จะมีโปรแกรมสำคัญลงทำศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบคัดเลือก รอบ 2 วันที่ 16 พฤศจิกายน เปิดบ้านรับการมาเยือนของขุนพลแดนมังกร “จีน” ต่อด้วย สิงคโปร์ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน
แม้ว่าขุนพลจากแดนมังกรและลอดช่องจะไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ระดับเดียวกับทีมเกรดเอเหมือน ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ หรือ ออสเตรเลีย แต่คงไม่ใช่งานที่ง่ายแน่ๆ
ล่าสุดไทยเพิ่งได้รับข่าวร้ายเมื่อต้องขาด “เจ้านิว” ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางจอมลุยจากทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด หลังรับบาดเจ็บอย่างรุนแรงบริเวณเอ็นประกบข้างด้านในและเอ็นไขว้หน้า
ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญ ส่งผลให้ดาวเตะวัย 30 ปี ต้องพักนานกว่าครึ่งปีเป็นอย่างน้อยเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามในตำแหน่ง “กองกลาง” ยังมีตัวเลือกเยอะไม่ว่าจะเป็น สารัช อยู่เย็น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, วีระเทพ ป้อมพันธ์, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, ปกเกล้า อนันต์
หรือจะเป็น กฤษดา กาแมน หรือ ธีราทร บุญมาทัน ที่พร้อมขยับมาเล่นเป็นห้องเครื่องได้ได้อย่างไร้รอยต่อ ตรงนี้ มาโน โพลกิง คงไม่ต้องปวดหัวอะไรมาก
แต่ปัญหาใหญ่คงหนีไม่พ้นเรื่องของตัวรุก โดยเฉพาะ “กองหน้าตัวเป้า”
ตอนนี้หัวหอกเบอร์ 1 ของทีมชาติไทย คือ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แต่หัวหอกวัย 35 ปี มีอาการบาดเจ็บและต้องพักตั้งแต่เกมบุกไปชนะ สุโขทัย เอฟซี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
แม้จะมีรายงานว่า “มุ้ย” มีโอกาสฟิตกลับมาลงสนามช่วยทีมชาติไทย ในเกมเจอกับ จีน แต่ด้วยวัยและสภาพร่างกายของเขาดูแล้วโอกาสฟิตเต็ม 100 เปอร์เซนต์คงมีน้อยแน่ หากได้ลงสนามคงช่วยทีมไม่ได้มาก
เมื่อมองไปยังตัวเลือกที่จะฝากผีฝากไข้ได้ยิ่งปวดหัวไปใหญ่ เพราะหลายคนต่างฟอร์มตกกันเป็นแถว
ไม่ว่าจะเป็น ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของรางวัลดาวซัลโวรีโวไทยลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
ตอนนี้ “เจ้าอาร์ม” ยิงประตูให้ “ปราสาทสายฟ้า” ในลีกไปเพียงแค่ 2 ประตูเท่านั้น
ส่วน ปรเมศย์ อาจวิไล หัวหอกจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ฟอร์มการยิงประตูก็สามวันดีสี่วันไข้ แม้จะยิง 4 ตุง ในไทยลีก แถมตอนนี้ร่างกายก็ยังไม่สมบูรณ์
ขณะที่ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย แม้จะฟอร์มร้อนแรงยิงไป 5 ประตู แต่ประตูที่ทำได้เกิดขึ้นจากการลงสนามเป็นตัวสำรอง
เมื่อได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงเขาแทบจะกลายเป็นคนละคนกับบทบาทซูเปอร์ซับ แถมประสบการณ์ในทีมชาติชุดใหญ่ก็น้อย จะให้ฝากความหวังไว้คงยาก
ขณะที่เจ้าหนูวันเดอร์คิดอย่าง “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่ย้ายไปเล่นกับ โอเอช ลูเวิน ในลีกสูงสุดของ เบลเยียม ก็โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานจนโอกาสลงสนามมีน้อยนิด ไม่รู้ว่าจะฟิตกลับมาเล่นให้ทีมชาติไทยได้หรือเปล่า หากกลับมาได้จะฟอร์มเทพไหมก็ยังไม่มีใครการันตี
ด้านตัวรุกริมเส้นอย่าง สุภโชค สารชาติ จาก คอนซาโดเล ซัปโปโร หรือ เอกนิษฐ์ ปัญญา จาก อูราวะ เรด ไดมอนส์ โอกาสลงสนามในเจลีกก็ไม่สม่ำเสมอนัก
นี่ยังไม่นับ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ที่แทบจะหายไปจากทีม การท่าเรือ หลังจากยิงจุดโทษพลาดจน ไทย พ่าย อิรัก ในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 49 ที่ผ่านมา ส่วน ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว,ยศกร บูรพา กับ เบน เดวิส ก็เงียบๆ ไปเหมือนฟอร์มของ ชลบุรี เอฟซี
ส่วนบรรดาตัวรุกที่ทำผลงานโดดเด่นตอนนี้คงมีเพียง บดินทร์ ผาลา จากการท่าเรือ และ รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก เท่านั้น คงไม่เพียงพอสำหรับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ที่แฟนบอลตั้งความหวังไว้สูง
นี่เป็นเป็นปัญหาใหญ่ที่ มาโน่ โพลกิง และทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช ต้องวางแผนรับมือและหาทางออกในการวางแท็คติคกับตัวเลือกในแนวรุกที่ไม่ฟิตและฟอร์มตกในเวลานี้
หากวางแผนไม่ละเอียดหรือมีข้อผิดพลาดจนไม่สามารถคว้าแต้มจาก จีน หรือ สิงคโปร์ ใน 2 เกมแรกได้ งานนี้เก้าอี้กุนซือของ มาโน่ ร้อนระอุแน่
แบบนี้น่าเป็นห่วงจริงๆ
