หลังความพ่ายแพ้ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้กับ โคเปนเฮเก้น 3-4 ทำให้ 4 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มทีมแพ้ไป 3 เกม หล่นไปเป็นบ๊วยของกลุ่มเป็นที่เรียบร้อย 

อันที่จริงสถานการณ์ในการลุ้นเข้ารอบต้องบอกว่าเปิดกว้างอยู่ ตัด บาเยิร์น มิวนิค ที่ชนะ 4 เกมรวดลอยลำเข้ารอบไปแล้ว ตอนนี้ที่สองของกลุ่มก็คือ โคเปนเฮเก้น ที่เพิ่งชนะพวกเขาไปมี 4 คะแนนเท่ากับ กาลาตาซาราย ส่วน "ปีศาจแดง" มี 3 แต้ม

สองเกมที่เหลือทีมจะไปเยือน กาลาตาซาย ที่ ตุรกี และปิดท้ายด้วยการเปิดบ้านเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่ง ยูไนเต็ด ก็ต้องรบกวนให้ทาง "เสือใต้" ชนะ โคเปนเฮเก้น ในเกมนัดที่ 5 ด้วย และเกมสุดท้ายก็อันเชิญมาแพ้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั่นจะทำให้พวกเขาเป็นรองแชมป์กลุ่ม เข้ารอบน็อคเอาท์ต่อไป 

นั่นคือเรื่องของทางทฤษฎี แต่ในทางปฎิบัติแล้วยังมีข้อสงสัยว่าลำพังแค่ตัวเองมีปัญญาที่จะทำได้รึเปล่า

จากผลงานที่ย่ำแย่ในซีซั่นนี้ ทำให้ตอนนี้บ่อนรับพนันที่ อังกฤษ ทุกสำนักต่างยกให้นายใหญ่ชาวฮอลแลนด์ถูกดันขึ้นเป็นเต็ง 1 ของกุนซือพรีเมียร์ลีกที่จะโดนปลดเป็นรายต่อไปหลังจากที่ก่อนหน้านี้ยังเป็น พอล เฮ้คกิ้งบ็อทท่อม ผู้จัดการทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

ที่นี้ก็มาดูความน่าจะเป็นที่อาจจะเป็นไปได้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะตัดสินใจปลด เทน ฮาก ออกจากตำแหน่งก่อนปีใหม่ มาไล่เรียงโปรแกรมกันก่อนสักเล็กน้อยก่อนที่จะถึงวัน "บ็อกซิ่ง เดย์" ซึ่งมีโอกาสที่จะชะตาขาด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมลงสนามในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ ลูตัน ในบ้านวันเสาร์นี้ ซึ่งถูกมองว่าต้องชนะเท่านั้น และหากชนะก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายอะไรเท่าไรนัก เพราะเป็ยคู่ต่อสู้ที่ถูกมองว่าต้องชนะอยู่แล้ว

จากนั้นจะพักเบรกทีมชาติสองสัปดาหืก่อนที่จะกลับมาเล่นกันต่อ เริ่มต้นด้วยการไปเยือน เอฟเวอร์ตัน, ไปเยือน กาลาตาซาราย ในแชมเปี้ยนส์ ลีก, ไปเยือน นิวคาสเซิ่ล เป็นสามเกมซ้อนที่จะต้องเล่นนอกบ้าน และต้องบอกว่าไม่ง่าย

หลังจากนั้นจะลงเล่นในบ้านเจอกับ เชลซี, เฝ้ารังเจอ บอร์นมัธ และ ปิดท้ายเกมรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งถ้าทีมไปแพ้ที่ ตุรกี มาก็จบ แต่ถ้าชนะหรือเสมอได้ก็ลุ้นกันต่อนัดนี้ จากนั้นไปเยือน ลิเวอร์พูล

เกมที่ แอนฟิลด์ ในวันที่ 17 ธันวาคม นี่แหละที่ถูกมองว่าอาจจะเป็นนัดสุดท้ายกับ "ปีศาจแดง" ของ เอริก เทน ฮาก หากในช่วงเวลาก่อนหน้านั้นยังลุ่มๆ ดอนๆ และตกรอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้ว

เรื่องราวมันก็จะคุ้นๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2018 สมัยที่ โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีม ซึ่งนายใหญ่ชาวโปรตุเกส ก็คุมเกมนัดสุดท้ายให้กับ ยูไนเต็ด ในการมาเยือนที่ แอนฟิลด์ นี่เอง ครั้งนั้นเล่นกันในวันที่ 16 ธันวาคม ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ 1-3 และหลังจากนั้นสองวันก็โดนปลดจากตำแหน่ง

ก็มีความเป็นไปได้ว่าหาก "ปีศาจแดง" แพ้ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์นั้น เช้าวันรุ่งขึ้น เอริก เทน ฮาก อาจจะได้พาดหัวข่าวว่าตกเก้าอี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับ มูรินโญ่ เมื่อ 5 ปีก่อน

เรื่องนี้ถือว่าเป็นกระแสอย่างมาก เพราะทุกคนเชื่อว่าตอนนี้ เอริก เทน ฮาก จะยังไม่โดนปลด แต่การแพ้เกม "แดงเดือด" นี่แหละจะทำให้ชะตาขาด

แชมป์ คาราบาว คัพ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ตอนนี้ถูกลืมไปหมดแล้ว เหมือนอย่างที่ หลุยส์ ฟาน กัล ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ แต่ก็โดนปลด หรือกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ได้ทั้งแชมป์ คาราบาว คัพ และ ยูโรปา ลีก ก็ยังไม่รอด

ก็รอติดตามกันว่าสุดท้าย เอริก เทน ฮาก จะได้อยู่คุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอีกนานแค่ไหน