กระบวนการเจราจาสัญญาฉบับใหม่เป็นไปอย่างรวดเร็ว มิเกล อังเคล คิล มาริน ติดต่อกับ นาตาเลีย น้องสาวและเอเยนต์ส่วนตัวครั้งแรกเมื่อ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยยื่นข้อเสนอขยายสัญญา 3 ปี 

แรกทีเดียว โชโล่ ต้องการต่ออีกแค่ 2 ปี แต่สุดท้ายสองฝ่ายเจราจากันลงตัว ซึ่งหากนับตั้งแต่ฉบับแรกเมื่อธันวาคม 2011 เท่ากับว่าเมื่อสิ้นสุดสัญญาฉบับใหม่ โชโล่ จะอยู่คุมทีมยาวนานถึง 15 ฤดูกาลเลยทีเดียว ซึ่งต้องยอมรับว่าฟุตบอลยุคหลังมานี้ เราไม่ค่อยเห็นเทรนเนอร์คนไหนที่อยู่กับทีมใดทีมนึงยาวๆเลย 

ยุคทศวรรษ 90 ถึงต้น 2000 น่าจะเป็นช่วงรอยต่อท้ายๆของครรลองนี้ ที่มี อาร์แซน เวนเกอร์ กับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็น iconic สำคัญ

เวนเกอร์ คุม อาร์เซน่อล นาน 22 ปี ตั้งแต่ 1996 ถึง 2018 ส่วน เฟอร์กี้ คุม แมนฯยูไนเต็ด  ตั้งแต่ 1986-2013 รวมระยะเวลา27 ปี นับน่าทึ่งเอามากๆ 

ขณะที่ในสเปนเองมี มิเกล มูนญอซ เป็นสัญลักษณ์สำคัญเพราะเคยคุม เรอัล มาดริด ถึง 14 ปี อันนับว่ายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ 

สื่อใหญ่อย่าง มาร์ก้า เลือกใช้คำว่า ‘เฟอร์กูสัน แห่ง แอตเลติโก’ ในการยกย่องถึงผลงานของ โชโล่ ที่สร้างไว้กับทีมตราหมี ซึ่งแม้ความยิ่งใหญ่ของเขาจะไม่เทียบเท่า เฟอร์กูสัน แห่ง ยูไนเต็ด แต่สำหรับ’โลส โกลโชเนโรส’ โชโล่ ได้ก้าวขึ้นไปเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่เรียบร้อยแล้ว 

โชโล่ ทำลายสถิติคุม ตราหมี ลงเล่นสูงสุดของ หลุยส์ อราโกเนส ไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ด้วยจำนวน 642 เกม และเวลานี้ไม่มีสถิติไหนของสโมสรที่ไม่ถูกเขาทำลาย 

โชโล่ คือเทรนเนอร์ที่พาทีมประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร นำ แอต.มาดริด คว้า 8 แชมป์ 

รายสำคัญอย่าง ลา ลีกา ได้ไป 2 สมัย ( 2013–14, 2020–21) นอกจากนี้ยังคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ 1 สมัย,ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า 1 สมัย, ยูโรป้าลีก 2 สมัย และ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพอีก 2 สมัย 

นอกจากเรื่องของจำนวนแชมป์แล้ว สิ่งที่ทำให้สโมสรให้คุณค่ากับ โชโล่ อย่างสูงก็คือการนำทีมผ่านเข้าไปเล่นในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 11 สมัยติดต่อกัน ซึ่งช่วยให้สถานะทางการเงินของสโมสรมี สเถียรภาพอย่างมากในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคำตอบว่าทำไม แอตเลติโก ถึงกล้าจ่ายให้ โชโล่ มหาศาลถึงปีละ 34 ล้านยูโรต่อปี เหนือกว่า เป๊บ กวาร์ดิโอล่า (22.4 ล้านยูโร) และ เจอร์เก้น คล็อปป์ (17.8 ล้านยูโร) 

ถ้ามองกันที่ตัวเลข 34 ล้านยูโรซึ่งเป็นค่าเหนื่อยของเทรนเนอร์ที่แพงที่สุดในโลก คุณก็อาจจะมองเห็นภาพไม่ชัดนัก แต่มองว่า โชโล่ ทำให้ แอตเลติโก ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายถึง 11 ปีติดต่อกัน แถมบางปีงทะลุไปถึงการคว้าแชมป์ลีก แชมป์ใบเล็กของยุโรป ทั้งๆที่งบประมาณในการทำทีมมีน้อยกว่า บาร์ซ่า และ เรอัล มาดริด กว่าครึ่ง ก็นับได้ว่าเป็นความคุ้มค่าอย่างที่สุด 

แอตเลติโก ไม่จำเป็นต้องซื้อนักเตะแพงๆ ในทุกปี ไม่ต้องมีสตาร์ระดับโลกในทุกตำแหน่ง เพียงขอแค่มี โชโล่ ตะโกนสั่งการอยู่ที่ข้างสนาม แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะบรรลุถึงเป้าหมาย 

ที่ผ่านมา มีเพียงสิ่งเดียวที่ โชโล่ ยังทำไม่สำเร็จในการกุมบังเหียน แอตเลติโก ก็คือการพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

นับแต่ก่อตั้งสโมสรมา แอตเลติโก ยังไม่เคยเป็นเจ้ายุโรปเลยแม้แต่ครั้งเดียว ใกล้เคียงที่สุดคือรองแชมป์ ซึ่งทีมเคยไปถึงนัดชิง 3 ครั้ง 

ครั้งแรกปี 1974 ตอนนั้นเป็นผลงานของ ‘เอล โตโต้’ ฮวน การ์ลอส ลอเรนโซ่ ส่วนอีก 2 ครั้งล้วนเกิดขึ้นในยุคสมัยของ โชโล่ ทั้งปี 2014 และ 2016 ซึ่งอกหักพ่ายให้ เรอัล มาดริด ทั้ง 2 ครั้ง โดยเฉพาะในปี 2014 ที่พลาดเสียประตูตีเสมอในนาทีที่ 90+3 ให้กับ เซร์คิโอ รามอส 

โชโล่ กับสัญญาฉบับใหม่ นับเป็นการตอกย้ำว่าบอร์ดบริหารของ แอตเลติโก ยังคงไว้เนื้อเชื่อใจในตัวกุนซือของพวกเขาอย่างที่สุด กลบกระแสข่าวลือช่วงกลางปีที่ผ่านมาว่าซีซั่นนี้อาจเป็นซีซั่นสุดท้ายของเขากับยอดทีมแดง-ขาว 

จากนี้จนถึง 2027 การคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้สักครั้ง น่าจะเป็นจุดสูงสุดของความสำเร็จระหว่าง โชโล่ กับ แอตเลติโก กระนั้นภารกิจใน ลา ลีกา ก็ยังเป็นสิ่งที่ท้าทายเขาอยู่เสมอในทุกสัปดาห์ 

มาลุ้นกันครับว่า โชโล่ จะทำสำเร็จหรือไม่ รวมถึงว่าเขาจะอยู่กับ แอตเลติโก ไปอีกกี่ปี 

เจมส์ ลา ลีกา