:::     :::

อิชิอิ กับภารกิจพาทีมชาติไทยผงาดเอเชีย

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
714
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ต้องยอมรับว่าหลังจากทีมชาติไทย เปิดบ้านแพ้ให้ จีน คาบ้าน 1-2 ในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ความเชื่อมั่นของแฟนบอลไทยที่มีต่อ "มาโน่ โพลกิ้ง" กุนซือทัพ "ช้างศึก" หมดลงทันที ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการทำตัวเองของกุนซือเลือดผสมบราซิล-เยอรมนี ด้วย

ไม่ว่าจะเป็นการตัดชื่อ สุพรรณ ทองสงค์ กองหลังจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่กำลังท็อปฟอร์มออก แล้วเปิดทางให้ มานูเอล ทอม เบียห์ร ที่เป็นตัวสำรองของ สุพรรณ ในทีม “แข้งเทพ” มีชื่อเป็น 1 ใน 23 คนชุดดวลแข้งทัพมังทอง 

นอกจากนี้ยังให้ ปฏิวัติ คำไหม มือกาวจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ลงเฝ้าเสาเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ก่อน กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล มือกาวที่ผลงานดีในการอุ่นเครื่องที่ยุโรป และยึดมือ 1 ของทีม “ช้างศึก” มาอย่างต่อเนื่อง


ขณะที่แนวรับยังดึงดันให้ กฤษดา กาแมน ยืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ทั้งที่เล่นกองกลางตัวรับอย่างสม่ำเสมอ แม้ดาวเตะจากชลบุรี จะยืนเป็นกองหลังเบอร์ 1 ในยุคของ มาโน่ แต่การเจอทีมระดับเอเชีย หลายคนมองว่าควรจะให้โอกาสกองหลังมืออาชีพลงเล่นดีกว่า ส่วน เจ้าและห์ ควรถูกดันไปเล่นกองกลาง 

ซ้ำร้ายหลังจาก พรรษา เหมวิบูลย์ เจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออก มาโน่ ยังโชว์กึ๋นส่ง มานูเอล ทอม เบียห์ร ลงสนามก่อน เฉลิมศักดิ์ อักขี กองหลังที่เล่นตัวจริงมาตลอดกับ การท่าเรือ เอฟซี 

แม้ มานูเอล ทอม เบียห์ร จะไม่ได้ก่อความผิดพลาดจนทีมเสียประตู แต่กุนซือควรเปิดทางให้คนที่ลงสนามบ่อยและผลงานดีลงสนามก่อนจึงจะเหมาะสม 

นอกจากนี้การส่ง สุภโชค สารชาติ ไปเล่นปีกขวา อาจทำให้แฟนบอลขุ่นเคืองใจ แต่หากตัด “อคติ” ออกไป ก็ต้องยอมรับว่า บดินทร์ ผาลา ฟอร์มการเล่นก็ดีทั้งระดับสโมสรและทีมชาติไทย จึงไม่แปลกที่ยึดตัวจริงทางฝั่งซ้าย


ส่วน สุภโชค ปีกขวาอาจไม่ใช่ตำแหน่งถนัด แต่ในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ เขาก็ทำผลงานไม่เลว แถมทำ 1 แอสซิสต์ ในเกมเสมอ อิรัก ในรอบชิงชนะเลิศ 

นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ มาโน่ ยึดแผนเดิม ซึ่งภาพรวมของ สุภโชค กับ บดินทร์ ในเกมกับ จีน ก็ไม่มีอะไรเสียหาย แต่พื้นสนามที่เจิงนองด้วยน้ำที่ขัง อาจทำให้จังหวะการลากเลื้อยหรือจังหวะสปีดเจออุปสรรค

ด้านการใช้ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่กำลังฟอร์มดีกับ อูราวะ เรด ไดม่อนส์ เพียง 25 นาทีสุดท้าย แม้จะดูว่าน้อย แต่ในหลายๆ เคสของทีมระดับโลก เราก็เห็นภาพแบบนี้บ่อยๆ โดยเฉพาะทีมชาติที่มีนักเตะฝีเท้าดีและใกล้เคียงกันหลายคน จึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร 


อย่าลืมว่ากุนซือสามารถส่งนักเตะลงสนามได้แค่ 11 คนต่อ 1 เกม แถมยังต้องมีตัวทีเด็ดไว้พลิกเกมเสมอหากสถานการณ์ตกเป็นรอง 

ขณะที่การใช้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เล่นกองหน้าตัวเป้าก่อน ศุภชัย ใจเด็ด ก็เป็นเรื่องความชอบ แม้ ศุภณัฏฐ์ จะโดดเด่นในตำแหน่งปีกขวา แต่เขาก็เล่นหน้าเป้ามาก่อน หากจะมองถึงความเร็วและจังหวะจบสกอร์ คลาสของ “ต้าวแบงค์” ก็ไม่เป็นรองใครในรุ่นเดียวกัน หรือรุ่นใกล้เคียงกันอยู่แล้ว 

แม้ว่า “มาโน่” จะแก้ตัวด้วยการพาทีมชาติไทย บุกไปอัด สิงคโปร์ คาบ้าน 1-3 ในเกมล่าสุด แถมจัดตัวลงตามตำแหน่งเหมือนกับอ่านคอนเมนต์แฟนบอลไทย แต่ก็ไม่สามารถเรียกศรัทธาจากแฟนบอลกลับมาได้ 

แน่นอนว่าสีหน้าของเขาที่บึ้งตึงในช่วงก่อนเกมและหลังเกม รวมไปถึงการหลั่งน้ำตาโบกมือให้แฟนบอลไทยที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ แสดงว่าเขาเองก็รู้ชะตากรรมตัวเองว่าคงไม่ได้ไปต่อกับทีมชาติไทยอย่างแน่นอน 


หากจะมองถึงความดีความชอบ “มาโน่” เองถือว่าประสบความสำเร็จในระดับอาเซียน แต่ในระดับเอเชีย เขาแสดงให้เห็นแล้วว่า “สอบไม่ผ่าน” การเจอทีมที่แรงกิ้งสูงกว่าเขาพาทีมเก็บชัยได้แค่ 3 นัด จาก 37 นัด ต่อ เลบานอน อันดับ 101 ของโลก เวียดนาม อันดับ 95 ของโลก และ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก้ เท่านั้น

การที่เขา “ยอม” ในสิ่งที่ไม่ควรยอม ทำตัวแบบดีครับผม เหมาะสมครับท่าน โดยเฉพาะการไม่เรียกนักเตะจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปอุ่นเครื่องที่ยุโรป เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น 

ในฐานะกุนซือทีมชาติไทย เขาต้องกล้าชนในสิ่งที่ควรทำและถูกต้อง ที่สำคัญสิ่งนั้นคือ “ประโยชน์สูงสุดของชาติ”

สุดท้ายเข็นต่อไม่ไหว การเลิกลาจึงเกิดขึ้น 


ล่าสุด “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมแถลงข่าวยืนยันแยกทาง มาโน่ โพลกิ้ง พร้อมแต่งตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ อดีตกุนซือ สุมทรปราการ ซิตี้, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และประธานเทคนิคทีมชาติไทย เข้ามาเป็นกุนซือทีมชาติไทยคนใหม่ 

ทำให้ อิชิอิ จะเป็นกุนซือชาวญี่ปุ่นคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลทีมชาติไทย ต่อจาก อากิระ นิชิโนะ ที่ล้มเหลวในการคุมทีม “ช้างศึก” ก่อนหน้านี้ 

ซึ่งทัวร์นาเมนต์ต่อไปของทีมชาติไทย ต้องบอกว่าล้วนเจองานหนัก เริ่มจากการบุกไปดวลทีมชาติญี่ปุ่น ในเกมอุ่นเครื่องต้อนรับศักราชใหม่วันที่ 1 มกราคม 2567 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 

จากนั้นจะเตรียมทีมศึกใหญ่ของทวีปเอเชีย ในศึกเอเชียน คัพ 2023 ที่ถูกเลื่อนมาเตะปี 2024 ที่ประเทศกาตาร์ ในกลางเดือนมกราคมศกหน้า 

ซึ่ง ไทย อยู่สายเดียวกับ โอมาน, คีร์กิซสถาน และซาอุดิอาระเบีย ที่มี โรแบร์โต้ มันชินี อดีตกุนซือทีมชาติอิตาลี ชุดแชมป์ยูโร 2020 คุมทัพอยู่ 


เป้าหมายในทัวร์นาเมนต์นี้ทีมชาติไทย ต้องผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ให้ได้เป็นอย่างน้อย ถ้าตกรอบแรกถือว่าล้มเหลว 

หลังจากจบเอเชียน คัพ ทีมชาติไทย จะต้องเจอศึกหนักดวล เกาหลีใต้ ในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 3 และ 4 ของกลุ่ม ซี ในเดือนมีนาคม 

แน่นอนว่าการหวังถึงชนะคงไม่ไหว แต่โจทย์เกมนี้คือต้องเล่นอย่างมีทรง ไม่โดนถล่มเละเป็นโจ๊กก็ถือว่าสอบผ่านแล้ว 

หากเปิดบ้านชนะ สิงคโปร์ และบุกชนะ จีน โอกาสจะผ่านเข้ารอบ 3 ย่อมมีสูง

นี่คือภารกิจใหญ่หลวงของทีมชาติไทย และ มาซาทาดะ อิชิอิ เรียกว่านี่คือ “เผือกร้อน” คงไม่ผิดหนัก

 ถ้าทำผลงานไม่ตรงตามเป้าหมาย รับรองว่าโดนแฟนบอลถล่มยับแน่ บางทีชื่อเสียงบารมีที่สะสมไว้จะพลอยหายไปด้วย 

แต่แฟนบอลก็ต้องทำใจด้วยว่า มาซาทาดะ อิชิอิ เองไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะเสกความสำเร็จใดๆ ให้กับทีมชาติไทยได้อย่างรวดเร็ว 


แต่หากทุกคน ทุกฝ่ายแสดงความเป็นมืออาชีพ มองเห็นผลประโยชน์ของชาติมาก่อนส่วนตน ไม่เลือกนาย มีวินัย ทำตามแท็คติคอย่างเคร่งครัด โอกาสที่จะทำได้ตามเป้าหมายก็มีเช่นเดียวกัน 

ส่วนในระยะยาวก็ต้องวางรากฐานฟุตบอลไทยให้แข็งแกร่ง สมาคมฯ ต้องทำงานอย่างเป็นระบบ ใช้คนที่มีความรู้เรื่องฟุตบอลมาทำหน้าที่อย่างจริงจังอย่างทั่วโลกเขาทำกัน โดยไม่ให้ผู้จัดการทีมหรือคนนอกมาแทรงแซงการทำงานได้ 

เพราะต่อให้มีกุนซือดี แต่นักเตะและระบบฟุตบอลไทย ยังย่ำอยู่ที่เดิมก็ไม่มีความหมาย และยากจะประสบความสำเร็จในระดับทวีปเอเชีย 

เมื่อระดับเอเชียยังไม่ประสบความสำเร็จ โปรดลืมเรื่อง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ไปได้เลย 

จากนี้อนาคตของฟุตบอลทีมชาติไทย จะสว่างไสว หรือ มืดมน ต้องรอติดตามกันต่อไป แต่แฟนบอลไทย ยังไงก็อย่าเพิ่งหมดศรัทธา 

คนไทย เชียร์ทีมชาติไทย ไปด้วยกันครับ หวังว่า อิชิอิ จะพาทีมชาติไทย ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายให้ได้

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด