:::     :::

ในวันที่ "รถม้ามรกต" ฟื้นคืนชีพ

วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
299
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
กลายเป็นทีมที่แพ้ยากไปแล้ว สำหรับ ลำปาง เอฟซี สโมสรเล็กๆ จากดินแดนล้านนา หลังพวกเขาไม่ปราชัยให้กับทีมใดๆ มาเป็นระยะเวลาถึง 810 นาที หรือ 9 นัดเข้าไปแล้ว (นับตั้งแต่นัดที่ 4 จนถึงนัดที่ 12 ของศึกไทยลีก 2)

พูดกันตรงๆ ตามเนื้อผ้า ไม่มีใครคาดคิดแน่ๆ ว่าขุนพล "รถม้ามรกต" จะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมแบบนี้ เพราะก่อนฤดูกาลจะเปิด นี่คือทีมที่แทบจะไม่มีความชัดเจนอะไรสักอย่าง ถ้าไม่เชื่อ ลองไปไล่ลำดับเหตุการณ์ดูกันได้เลย

เริ่มตั้งแต่การที่ต้องตกชั้นเป็นทีมแรกของศึกรีโว่ ไทยลีก ทั้งที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 3 นัด ตามมาด้วยการผ่องถ่ายนักเตะกลับไปยังต้นสังกัดที่แท้จริงอย่างหนองบัว พิชญ 


ซึ่งบรรดาผู้เล่นตัวหลักอย่าง วิชิต ธานี, ชาวิน ธีรวัจน์ศรี, วีรยุทธ ศรีวิชัย รวมไปถึงฝาแฝดตระกูลสงมาอย่างจักรกฤษและจักราวุธ ต่างทยอยเปิดตัวด้วยเครื่องแบบสีชมพูทั้งสิ้น 

และไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของตัวผู้เล่นเท่านั้น เพราะมันยังรวมถึงทีมงานผู้ฝึกสอนอีกด้วย โดยเฉพาะเฮดโค้ชผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรอย่าง "โค้ชต้น" สุกฤษฎิ์ โยธี ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่เดินทางกลับไปเปิดตัวภายใต้สีเสื้อของทัพ "พญาไก่ชน" เช่นกัน

ถ้านับเพียงแค่เรื่องตกชั้นก็คงพอเข้าใจได้อยู่ เพราะนั่นเป็นการเล่นลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกของสโมสรนับตั้งแต่ก่อตั้งมา เข้าใจได้ว่ายังไม่มีประสบการณ์ แต่ด้วยอะไรหลายอย่างที่มากกว่านั้น ก็ชวนให้มีคำถามเกิดขึ้นมากมายในหมู่แฟนบอล 


ทั้งในเรื่องของการจะมีทีมให้เชียร์ต่อหรือไม่ และถ้ามี ตัวผู้เล่นจะมีศักยภาพแค่ไหน เพราะเรื่องความชัดเจนของสโมสร ย่อมส่งผลต่อมาในส่วนของสปอนเซอร์อย่างไม่ต้องสงสัย

สุดท้ายแล้ว ก็ถือว่าโชคชะตายังเข้าข้างสโมสรแห่งนี้อยู่บ้าง เพราะกลุ่มทุนหลักอย่างพิชญบัณฑิตยังคงให้การสนับสนุนทีมต่อไป นั่นทำให้ ลำปาง เอฟซี ได้หายใจหายคอแบบสะดวกอีกครั้ง แม้จะไม่ได้ดีเท่ากับตอนอยู่บนลีกสูงสุดก็ตาม

แต่ก็อย่างที่บอกไป เมื่อนักเตะและทีมงานต่างพาเหรดกันออกจากทีมไปแทบทั้งหมด ทุกอย่างจึงเหมือนการรีเซ็ทแล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่ (ตัวผู้เล่นและทีมงานจากชุดเลื่อนชั้นสู่ไทยลีกในปี 2021-2022 ยังอยู่กับทีมเพียงแค่ 5 ราย) ที่เหลือจึงต้องเซ็นสัญญาเข้ามาใหม่แทบทั้งหมด

ไล่ตั้งแต่ตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน ที่ได้ กิษฐชัย วงศ์สิม หรือ "โค้ชชัย" เฮดโค้ชดาวรุ่งที่เข้ามารับตำแหน่งผู้นำของทีม 


ส่วนเรื่องของตัวผู้เล่นนั้น ต้องบอกว่าลำปางฯ ใช้งบประมาณที่มีอย่างคุ้มค่า เมื่อได้ตัวคู่หูบราซิลมาร่วมทีม ทั้ง ลวน ซานโตส และ ไคโอ โรดริเกซ ที่พึ่งสร้างชื่อด้วยการพาจันทบุรี เอฟซี เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกรองในฤดูกาลก่อน 

ส่วนผู้เล่นไทย ก็เป็นการผสมผสานนักเตะเกรดบีเข้าด้วยกันทั้งสิ้น เพราะบรรดาพ่อค้าแข้งที่ตบเท้าเข้ามา จัดเป็นประเภทไม่เด่นไม่ดังบนลีกสูงสุด แต่ถ้าเป็นระดับลีกรองแล้ว พวกเขายังเล่นกันได้แบบสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นวสันต์ สมานสินธุ์ จากนครศรี ยูไนเต็ด ซีเกต หมาดปูเต๊ะ และชาตรี รัตนวงษ์ จากหนองบัว พิชญ

จากที่กล่าวมาทั้งหมดก็ดูเหมือนทุกอย่างจะเริ่มลงตัวและเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เรื่องจริงกลับไม่เป็นแบบนั้น เมื่อพวกเขาออกสตาร์ท 3 นัดแรกด้วยการแพ้แบบ 100% ในทุกเกมที่ลงเตะ และอันดับก็หล่นไปอยู่ในโซนท้ายตารางอย่างไม่ต้องสงสัย (ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของการแข่งขัน ลำปางคือทีมอันดับสุดท้ายของศึกไทยลีก 2)


แต่เรื่องแย่ๆ ก็อยู่กับลำปางได้ไม่นาน เพราะเมื่อถึงนัดที่ 4 ของฤดูกาล พวกเขาก็เปิดบ้านเอาชนะจ่าฝูงในเวลานั้นอย่างนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ด้วยสกอร์ 1-0  ซึ่งนอกจากจะได้ 3 คะแนนแรกแล้ว โมเมนตั้มและความมั่นใจก็ดูเหมือนจะเหวี่ยงกลับมาทางฝั่งของลำปางเลยก็ว่าได้

อย่างที่บอกไปในช่วงแรกนั่นแหละครับ ทัพ "รถม้ามรกต" เริ่มกลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง เพราะหลังจากปลดล็อกชัยชนะนัดแรกได้สำเร็จแล้ว พวกเขาก็เริ่มทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนไม่แพ้ให้กับใครในลีกมาถึง 9 นัดเข้าไปแล้ว (สถิติเป็นรองแค่ทีมจ่าฝูงอย่างนครศรี ยูไนเต็ด ที่ไร้พ่ายไปทั้งหมด 10 นัด) 

ผลักตัวเองจากตอนแรกที่จมบ๊วย ทะยานขึ้นมาสู่เลขตัวเดียวที่อันดับ 8 ได้อย่างน่าชื่นชม และมีแต้มตามหลังอันดับ 6 ที่เป็นโควต้าเพลย์ออฟอยู่เพียง 2 คะแนนเท่านั้น 


ถึงแม้จะยังเหลือการแข่งขันอีกหลายแมทช์ แต่เมื่อฟอร์มโดยรวมของทีมกำลังเข้าฝัก ลำปางฯ อาจฝันหวานถึงการได้ลุยเพลย์ออฟอีกครั้ง และไม่แน่เหมือนกันว่าตัวของ "โค้ชชัย" อาจสร้างประวัติศาสตร์ตามรอยรุ่นพี่อย่าง "โค้ชต้น" ก็เป็นได้ 

คอยติดตามเทพนิยายเรื่องนี้กันให้ดีครับ อาจยังไม่รู้ตอนจบของมันจะเป็นแบบไหน แต่บอกได้แค่ว่า ในวันที่ "รถม้ามรกต" ฟื้นคืนชีพนั้น

อะไรก็หยุดพวกเขายากจริงๆ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด