หนึ่งในเครื่องหมายการค้า ที่เขานำมาใช้ในฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศสหรัฐอเมริกา นั่นคือ  “ลูกฟรีคิก” แน่นอนว่า เมสซี่ ก้าวไปติดท็อป 5 นักเตะที่ยิงฟรีคิกมากที่สุดในโลก รวมกลุ่มเดียวกับจอมยิงฟรีคิกอย่าง เดวิด เบ็คแฮม, โรนัลดินโญ่ และเปเล่

นอกจากนี้ เมสซี่ ค่อยๆขยับตามหลังผู้นำอย่าง “จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่” ที่เป็นผู้สังหารฟรีคิกมากสุดในโลก ลดลงไปเรื่อยๆ หลายคนมองว่า การที่เมสซี่ เป็นนักเตะที่สังหารฟรีคิกได้อย่างเฉียบขาด อาจเป็นพรสวรรค์ของเขา ที่ดลบันดาลให้เกิดขึ้นแบบนั้น 

การเป็นนักฟุตบอลที่หลายคนพากันยกย่องให้เป็นคนที่เก่งกาจที่สุดในโลก ทำให้ภาพของเมสซี่ กลายเป็นคนที่ทำอะไรในสนามได้อย่างง่ายดายไปหมด อย่างไรก็ตาม การก้าวมาเป็นมือยิงฟรีคิกอันดับต้นๆของโลกลูกหนัง กลับแลกมาด้วยอะไรอย่างมากมาย 

ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อม และการทำการบ้านนอกสนาม จนหล่อหลอมให้เขา สามารถผลิตประตู จากลูกนิ่งได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ช่วงเวลานี้ เราไปค้นหาคำตอบว่า ทำไมเมสซี่ ถึงกลายเป็นหนึ่งในเจ้าพ่อฟรีคิก ? 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมสซี่ เป็นนักเตะที่เกิดมาพร้อม “พรสวรรค์” อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นคนที่ถือว่ามี “พรแสวง” เต็มเปี่ยมเช่นกัน เขาไม่เพียงทำงานร่วมกับผู้จัดการทีม และเพื่อนร่วมทีมเท่านั้น เขายังคงขอคำแนะนำกับสตาฟโค้ช ในทำหน้าที่เก็บข้อมูลของคู่แข่ง 

เมสซี่ ออกมาให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า หนึ่งในพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเขา สำหรับในการเล่นลูกนิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการยิงฟรีคิก รวมถึงการยิงลูกจุดโทษ นั่นคือการสละเวลา และศึกษาอย่างละเอียดยิบ 

เมสซี่ ศึกษาทุกอย่างเท่าที่จำเป็น มุ่งเน้นไปที่ข้อมูลของคู่แข่ง โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม ที่ต้องเผชิญหน้าด้วย เขาจำเป็นต้องรู้ว่า นายทวารแต่ละคนนั้น มีลักษณะในการพุ่งตัวเป็นอย่างไร, มีการยืนตำแหน่งแบบไหน และมีปฏิกริยาที่ว่องไวเพียงใด

ก่อนเกมการแข่งขัน เมสซี่ ทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมา เพื่อเป็นการค้นหาจุดอ่อน เพื่อเพิ่มโอกาส ในการส่งบอลเข้าประตูมากขึ้น

นอกจากการศึกษาคู่แข่งอย่างละเอียด เมสซี่ ออกมาบอกว่า สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการยิงลูกฟรีคิก  นั่นคือเรื่องของการฝึกซ้อม เขาบอกว่า ขณะที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นเลิกซ้อมโปรแกรมฝึกตามปกติ เขามักจะขออยู่สนามซ้อมต่อ โดยขอร้องให้ผู้รักษาประตูของทีมอยู่ด้วยกัน

เมสซี่ ฝึกพิเศษ เน้นเรื่องการยิงฟรีคิก และการยิงไกล ถือว่าเป็นการทำความคุ้นเคยกับสถานการณ์ และนำไปใช้ในการแข่งขันจริง เมสซี่ เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การฝึกซ้อมพิเศษ ยังเป็นตัวสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาสามารถค้นหารูปแบบการยิงที่เหมาะสมกับตัวเองมากสุด 

เขาจะรู้ว่า ควรยืนห่างจากลูกฟุตบอลเท่าไหร่ รวมถึงรู้ว่า ควรยืนมุมไหนของลูกฟุตบอล ไม่ว่าใครจะมองเขาเป็นนักเตะระดับโลก ที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ที่มากมาย แต่เขายืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีวันละทิ้งการฝึกซ้อมอย่างหนักเด็ดขาด

นอกจากนี้ เมสซี่ ยังกล่าวเสริมว่า การซ้อมยิงฟรีคิกอย่างสม่ำเสมอ และอย่างเข้มข้น ช่วยสร้างความคุ้นชินกับการยิง โดยที่เรื่องดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากปากของ “โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้” อดีตผู้รักษาประตูของบาร์เซโลน่า 

ปินโต้ คือคนที่คอยฝึกซ้อม ในการรับมือลูกยิงฟรีคิกของเมสซี่ เป็นประจำ ออกมากล่าวอีกด้วยว่า “ลูกฟรีคิกของเมสซี่ ถือว่าน่ากลัวมาก ย้อนเวลากลับไป สมัยซ้อมฟรีคิกด้วยกันที่บาร์เซโลน่า เมสซี่ มักส่งบอลเข้าไปนอนก้นตาข่าย อัตราเกือบ 100 เปอร์เซนต์ เลยทีเดียว”

ขณะที่ “เซร์คิโอ บุสเกตส์” อีกหนึ่งเพื่อนร่วมทีมที่บาร์เซโลน่า และปัจจุบันที่ทีมอินเตอร์ ไมอามี่ ออกมากล่าวถึงเพื่อนสนิทคนนี้เช่นเดียวกัน โดยบอกว่า เมสซี่ เป็นคนที่ให้ความสำคัญ ในเรื่องของการซ้อมยิงฟรีคิกเป็นอย่างมาก เรียกว่าเป็นคนบ้าซ้อมก็ย่อมได้ 

พร้อมกับบอกว่า แม้มีการวางอุปกรณ์ขัดขวาง ทว่าการยิงฟรีคิกเข้าประตู กลับมีเปอร์เซนต์ที่มากมายอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งทุกอย่างมาจากการฝึกซ้อม 

การที่เมสซี่ สามารถยิงฟรีคิกได้ ในยอดรวมกว่า 64 ประตู ส่วนประกอบสำคัญอีกหนึ่งอย่าง คือการสร้างความสับสนให้กับบรรดาผู้รักษาประตู โดยผู้รักษาประตูเหล่านั้น มักเจอความสับสน และการคาดเดาว่า เขาจะยิงไปทิศทางไหนกันแน่ ?

เมสซี่ เล่าให้ฟังว่า รูปแบบการยิงฟรีคิกที่เขาชื่นชอบมากที่สุด นั่นคือการยิงแบบปั่นบอลข้ามกำแพง นี่คือเทคนิคที่เขาชอบ และเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ แน่นอนว่า มันได้ผลมาแล้วในหลายครั้ง  ซึ่งลูกบอลที่ยิงข้ามกำแพงมานั้น  มักจะพุ่งเสียบจุดที่เขาเล็งเอาไว้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ทำอะไรแบบเดิมหมดซะทีเดียว โดยมักผสมผสานการยิงฟรีคิกแบบอื่นเข้าไปด้วย อาทิเช่นลูกเรียดพื้น หรือปั่นอ้อมกำแพง เพื่อไม่ให้พวกนายทวารล่วงรู้ว่า เขาจะยิงไปทิศทางไหน

จุดประสงค์หลักของการทำแบบนี้คือ ต้องการที่จะสร้างความสับสนให้กับ ผู้รักษาประตู กระทั่งปล่อยบอลออกจากเท้าไปแล้ว อีกหนึ่งเทคนิคคือ การใช้สายตาล่อหลอกว่า เขาจะยิงไปทางไหน ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางการยิงอย่างรวดเร็ว 

ก่อนที่เมสซี่ ยิงฟรีคิก และปล่อยลูกฟุตบอลออกจากเท้าแต่ละครั้ง การจัดระเบียบร่างกายของเขา ถือว่ายอดเยี่ยมมาก แต่ละครั้ง การจัดระเบียบร่างกาย แทบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงไปเลย ทั้งหมดเป็นการรักษาสมดุลให้มากที่สุด

เรื่องดังกล่าว “มาร์ก้า" สื่อชื่อดังของประเทศสเปน เคยออกมารายงาน พร้อมกับแนบหลักวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมด้วยว่า การยิงฟรีคิกของเมสซี่ เขาจะวางตำแหน่งของขา ในลักษณะมุม 50 องศา เท้าขวาจะปักหลักที่ผืนหญ้าอย่างหนักแน่น ก่อนที่เท้าซ้ายจะสัมผัสบอล 

ส่งผลให้เขาสามารถวางตำแหน่งร่างกายได้อย่างมั่นคง พร้อมกับควบคุมการยิงได้ดีมากขึ้น หากเจาะลึกไปที่บริเวณหัวไหล่ของเมสซี่ เราจะพบว่ามันโค้งลงมาเล็กน้อย รวมถึงหน้าอก และแขนทั้งสองข้างที่บิดมาทางด้านซ้ายของตัวเอง 

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เพื่อเป็นการรักษาจุดยืนให้มีความมั่นคงมากที่สุดนั่นเอง