:::     :::

มนต์เสน่ห์แห่งบราซิล

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
615
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หากเราโยนคำถามว่า ทีมชาติไหนเล่นฟุตบอลเก่งสุดในโลก ?

แน่นอนว่า หนึ่งในคำตอบที่หลายคนเลือก นั่นคือ “ทีมชาติบราซิล” ด้วยตัวเลขการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ 5 สมัย สามารถบ่งบอกถึงความยอดเยี่ยมของพลพรรค “เซเลเซา” เป็นอย่างดี 


นี่คือมรดกทางลูกหนัง สร้างให้ทีมชาติบราซิล กลายมาเป็นมหาอำนาจ พวกเขามีนักเตะฝีเท้าดี ก้าวขึ้นมาประดับวงการอย่างไม่ขาดสาย จากขีดความสามารถ และลีลาการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ นักเตะบราซิเลี่ยน ถูกกระจายออกไปเล่นทีมชั้นนำของโลกลูกหนัง 


สำหรับทีมชาติบราซิล พวกเขาคือขาประจำของทีมอันดับ 1 ตามการจัดอันดับฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้งตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา ทีมชาติบราซิล มีค่าเฉลี่ยอันดับของฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้ง อยู่ที่อันดับ 3 เป็นอย่างน้อย 


หนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัย คือทำไมชาวบราซิเลี่ยน ถึงเล่นฟุตบอลเก่ง เสมือนดีเอ็นเอที่ประทับในร่างกาย บางคนถึงกับเปรียบเปรยว่าว่า นี่คือพรสวรรค์ที่พระเจ้าทรงประธานให้กับคนชนชาตินี้ 


ขณะที่บางคนบอกอีกว่า ชาวบราซิเลี่ยน เกิดมาพร้อมกับการเล่นฟุตบอล ตอนที่เริ่มต้นเดินได้  พวกเขาก็ไล่หวดลูกฟุตบอลแล้ว ช่วงนี้ เราขอนำไปค้นหาคำตอบกันหน่อยว่า ทำไมคนบราซิเลี่ยน เล่นฟุตบอลเก่ง ? ผ่านบางปัจจัยที่น่าสนใจ 

บราซิล ถูกเรียกขานกันว่า “o País do Futebol” (ประเทศแห่งฟุตบอล) พวกเขามีวัฒนธรรมที่อุดมไปด้วยมรดกทางฟุตบอล ฟุตบอลถือเป็นกิจกรรมทางสังคมวัฒนธรรม ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศ ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ถูกกำหนดชีวิตด้วยการดู และเล่นกีฬา

 

ตอนแรก ฟุตบอลเป็นกีฬาเหยียดเชื้อชาติ และชนชั้นสูงในประเทศบราซิล นี่คือเรื่องที่ถูกบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ หลังจากการเลิกทาส ฟุตบอลกลายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นไปอย่างแพร่หลายมากขึ้น


โดยเฉพาะจากกลุ่มคนที่ต้องต่อสู้กับการกีดกันทางเชื้อชาติ ที่ประเทศต้องเผชิญมาหลายปี โดยที่การเปลี่ยนผ่านของฟุตบอลบราซิล ที่เป็นกีฬาสำหรับคนผิวขาวที่ร่ำรวย กลายมาเป็นกีฬาที่ผิวดำ สามารถเข้าถึงได้ กลายมามีความสำคัญ 


ฟุตบอล กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และวัฒนธรรมเชิงบวกในประเทศ สิ่งบ่งชี้ที่ชัดเจน ถึงความสามัคคีที่ฟุตบอลนำมาสู่ชาติ คือเมื่อใดก็ตามที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก คนจะออกมาเดินขบวนตามท้องถนนเป็นจำนวนมาก

 

วัฒนธรรมฟุตบอลในบราซิล ที่คอยที่จะแทรกซึมลงไปในชีวิตประจำวัน ช่วยให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในมหาอำนาจฟุตบอลระดับโลก หากมีคนสนใจกีฬานี้มาก คนก็อยากดู และเล่นกีฬามากขึ้น หมายความว่า พวกเขามีศักยภาพที่จะพัฒนาซูเปอร์สตาร์ได้มากขึ้น


นักฟุตบอลบราซิล ระดับโลกหลายคน ออกมาพูดตรงกันเลยว่า ชาวบราซิเลี่ยน มีวัฒนธรรม และการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนใคร หากว่าเป็นประเทศอื่นแล้ว เด็กๆมักจะได้ของขวัญชิ้นแรกจากครอบครัว เป็นรถบังคับ หรือเครื่องเกมต่างๆ


อย่างไรก็ตาม ของขวัญชิ้นแรกที่เด็กชาวบราซิเลี่ยน ส่วนใหญ่มักจะได้รับ นั่นคือ “ลูกฟุตบอล” นอกจากฟุตบอลจะเป็นกีฬาที่เป็นหน้าเป็นตา และเก็บเกี่ยวเกียรติยศให้กับคนในชาติ


“ลูกฟุตบอล” ยังเป็นอุปกรณ์ที่หาง่าย และราคาไม่แพงมากด้วย สิ่งเหล่านี้ คอยซึมซับอย่างช้าๆ จนกลายเป็นสิ่งที่ทำสืบต่อกันมา ถือเป็นการปลูกฝัง และเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง ในการมอบความรู้สึกให้เด็กบราซิเลี่ยน เกิดความรักต่อฟุตบอลตั้งแต่อายุน้อย หรือตั้งแต่จำความได้ 


เด็กเหล่านั้นจะรู้สึกว่า ฟุตบอลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขามาโดยตลอด และยากที่จะตัดขาดออกจากกัน หากไม่มีลูกฟุตบอล พวกเขาก็จะคิดค้นหาทางออก เพื่อเพลิดเพลินกับกีฬาชนิดนี้ เรื่องที่หลายคนอาจยังไม่เคยทราบมาก่อน เกี่ยวกับ “เปเล่” อดีตดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของบราซิล


เปเล่ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลในวัยเด็ก ด้วยการเตะลูกฟุตบอล ที่ทำจากถุงเท้า ที่ถูกยัดไส้ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ กล่าวง่ายๆคือ เด็กบราซิเลี่ยน ทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้เตะลูกบอลกลมๆ  ไม่ว่ามันจะทำมาจากอะไรก็ตาม

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นักฟุตบอลทีมชาติบราซิล ส่วนมากมักจะมาจากครอบครัวที่ยากจน บางคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า “สลัม” น้อยคนมากที่จะเกิดมาด้วยความเพียบพร้อม ดังนั้น สถานที่ที่พวกเขาเล่นฟุตบอลในวัยเด็ก จึงเป็นสนามที่เต็มไปด้วยความคับแคบ หรือตามตรอกซอกซอย


นักเตะระดับตำนานอย่าง โรนัลโด้ R9 และโรนัลดินโญ่ รวมถึงซูเปอร์สตาร์คนปัจจุบันอย่างเนย์มาร์ ต่างเติบโตมากับการเล่นฟุตซอล เป็นอันดับแรก  ก่อนที่พวกเขาจะยกระดับ และพัฒนาขึ้นสู่การเล่นฟุตบอลสนามใหญ่ ดังนั้น เรื่องของทักษะความสามารถไม่ต้องพูดถึง


การเล่นฟุตซอล หรือฟุตบอลข้างถนนนั้น หล่อหลอมให้เด็กชาวบราซิเลี่ยน มีความสามารถเฉพาะตัวที่เด่นชัดมาก หลายคนมักใช้ทักษะความสามารถ เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขัน และถูกนำมาใช้ในสนามใหญ่ได้อย่างยอดเยี่ยม 


โรนัลดินโญ่ เคยออกมาสัมภาษณ์ว่า การเล่นฟุตบอลในเขตพื้นที่สลัม หรือการเล่นฟุตซอล ช่วยเหลือเขาเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ทำให้การเล่นสนามใหญ่แต่ละครั้ง เขาสามารถเอาชนะคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย 


เพราะการขยับมาเล่นในพื้นที่ที่ใหญ่มากกว่า ทำให้มีเวลาคิดมากกว่าเดิม นั่นเพราะการเล่นในพื้นที่แคบมาก่อนนั่นเอง ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเล่นในพื้นที่แคบๆ ตั้งแต่ที่ยังเป็นเด็ก รวมถึงสภาพสนามที่ไม่เอื้ออำนวย ช่วยเพาะบ่มขีดความสามารถทางอ้อม 


คำถามข้อสำคัญคือ “ฟุตซอล ทำให้บราซิลเก่งเรื่องฟุตบอลได้อย่างไร ?” เปเล่ ตำนานของทีมชาติบราซิล เคยมอบคำตอบเอาไว้ โดยพูดว่า “ฟุตซอลทำให้คุณคิดเร็ว และเล่นได้เร็ว ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นเมื่อคุณเปลี่ยนมาใช้ฟุตบอลในภายหลัง” 


สิ่งนี้ช่วยให้บราซิล สร้างแบรนด์ฟุตบอลที่อยู่ห่างไกลจากส่วนอื่นๆของโลก พวกเขาเล่นฟุตบอลด้วยสิ่งที่เรียกว่า “จิตวิญญาณ” ฟุตซอล ช่วยให้นักฟุตบอลบราซิเลี่ยน หลายรุ่นพัฒนาการเลี้ยง, การส่ง และการยิงประตู ทำให้พวกเขาเป็นผู้เล่นที่มีความคิดสร้างสรรค์รอบด้าน

จากปัจจัยที่เรากล่าวมาข้างต้น หล่อหลอมให้บราซิล สร้างสไตล์ฟุตบอล อันเป็นเอกลักษณ์ที่เหมาะกับตนเองเท่านั้น ประเทศแห่งนี้ ถือว่ามีชื่อเสียง ในการเล่นฟุตบอลด้วยสไตล์ที่น่าดึงดูด และตื่นตาตื่นใจ 


ซึ่งเรามักเรียกขานการเล่นในลักษณะแบบนี้กันว่า “jogo bonito” หรือ “เกมที่สวยงาม” สิ่งที่กำหนดสไตล์การเล่นแบบนี้ นั่นคือไหวพริบที่สร้างสรรค์, การเลี้ยงบอลด้วยทักษะ และการจ่ายบอลที่รวดเร็ว 


สิ่งเหล่านี้ สร้างแบรนด์ฟุตบอลที่สนุกสนานที่ได้รับการชื่นชมจากคนทั้งโลก ผู้เล่นจำนวนมาก จุดประกายการแข่งด้วยไหวพริบ และความคิดสร้างสรรค์ การเล่นฟุตบอลสไตล์นี้ ผู้เล่นชาวบราซิเลี่ยน จำเป็นต้องมีความสามารถทางเทคนิคที่สูง ประกอบกับการมีไหวพริบ และด้นสดในสนาม


เนื่องด้วยหลายคนเลือกที่จะเกิดไม่ได้ เด็กบราซิเลี่ยน ที่ยากจนส่วนมากนั้น มักจะหาทางออกจากสถานการณ์ และฐานะเหล่านั้น ด้วยการเล่นฟุตบอล เพราะนี่คือเครื่องมือที่หาเงินได้เป็นจำนวนมหาศาล ชนิดที่พลิกผันชีวิตของตัวเอง และคนในครอบครัวได้อย่างง่ายดาย 


ไม่อย่างนั้น พวกเขาอาจหลุดเข้าไปสู่โลกของอันธพาล, อาชญากรรม และยาเสพติด ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเป็น ดานี่ อัลเวส แบ็คขวามากประสบการณ์ของทีมชาติบราซิล ออกมาบอกว่า วัยเยาว์ของเด็กชาวบราซิเลี่ยน แตกต่างกันออกไป 


ฐานะทางสังคม ที่ต้องดำเนินแบบปากกัดตีนถีบ ทำให้พวกเขาต้องดิ้นรน และต่อสู้อย่างหนัก อัลเวส บอกว่า บางคนมีชีวิตที่ยากลำบากมาก อย่างเขาคือการเป็นชาวนา เขาต้องการเล่นฟุตบอล เพื่อหลุดจากชีวิตที่ยากลำบากเหล่านั้น 


อัลเวส ทิ้งท้ายว่า เขาไม่เคยลังเลว่า มันต้องแลกมากับความอดทน และความพยายามอย่างมหาศาล ขอให้เป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ ก็เพียงพอแล้ว 


ขณะที่คาเซมิโร่ ห้องเครื่องของพลพรรค “เซเลเซา” ออกมากล่าวเช่นกันว่า ย้อนกลับไปวัยเด็ก ครอบครัวของเขา ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง  โดยต้องอาศัยไปซุกหัวนอนตามบ้านของบรรดาญาติๆ เขาไม่มีของเล่นเหมือนเด็กคนอื่น 


บางเวลา เขาต้องอดมื้อกินมื้อด้วยซ้ำไป นั่นคือเรื่องราวชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก ที่แปรเปลี่ยนมาเป็นแรงผลักดัน ดังนั้น คาเซมิโร่ จึงทำทุกอย่าง เพื่อเป็นนักเตะอาชีพให้ได้ หากเราสังเกตนักเตะทีมชาติบราซิล ส่วนใหญ่แล้ว เกิดมาในครอบครัวที่ยากจนแทบทั้งนั้น

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อดีตนักเตะทีมชาติบราซิล เป็นอีกคนที่ออกมาบอกถึงทัศนคติในเส้นทางลูกหนัง คูตินโญ่ บอกว่าเด็กชาวบราซิลเลี่ยน ต้องเติบโตมา และอยากก้าวมาเป็นนักฟุตบอล ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด และเข้มข้นมาก 


เพราะทุกคนต่างมีเป้าหมายเดียวกัน (การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ) ทำให้แต่ละคนต้องงัดขีดความสามารถของตัวเองออกมา เมื่อต้องงัดทักษะ และความสามารถที่ดีที่สุดออกมา วงการลูกหนังบราซิล ก็พัฒนาขึ้นตามไปด้วย 


คูตินโญ่ กล่าวว่า “เด็กชาวบราซิเลี่ยน ล้วนมีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอล มันก็เปรียบเหมือนกับโรงงานอุตสาหกรรม คุณต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง เพราะโรงงานแห่งนี้ มีนักเตะพรสวรรค์สูงก้าวขึ้นมาไม่สิ้นสุด และโรงงานแห่งนี้ยังคงเต็มเสมอ ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้แพ้”


"เด็กหลายล้านคนพยายามทำในสิ่งเดียวกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องของทักษะ และเทคนิค แต่คุณต้องมีความแข็งแกร่งทางจิตใจ และเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นในการลงมือทำ เยาวชนหลายคนที่เติบโตมาพร้อมกับผม แต่ว่าพวกเขากลับไม่ได้อยู่ในวงการลูกหนังในตอนนี้”


บางครั้งผู้คนต่างพากันคิดว่า การเป็นนักฟุตบอลถือเป็นเรื่องที่ง่ายดาย ใครๆก็สามารถทำได้ แต่ความเป็นจริงแล้ว มันต้องแลกมาด้วยการทำงานอย่างหนัก และก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด