เออร์ลิง ฮาแลนด์ คือการค้นพบยอดศูนย์หน้าหมายเลข 9 ที่วงการฟุตบอลขาดหายไปนาน
ฮาแลนด์ สร้างสถิติต่างๆ เอาไว้มากมาย นับตั้งแต่ย้ายออกจาก โมลด์ ไปอยู่กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นการก้าวเท้าตามขั้นบันไดอย่างสวยงาม
ตัวเลขการทำประตูของ ฮาแลนด์ ทำให้ใครหลายคนต้องอ้าปากค้าง
29 ประตูจาก 27 เกมกับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
86 ประตูจาก 89 เกมกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
และ 71 ประตูจาก 73 เกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนถึงปัจจุบัน
พูดได้ว่าถ้าเกมไหนที่ ฮาแลนด์ ลงสนาม แล้วไม่มีชื่ออยู่ในสกอร์บอร์ด คงเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ไม่น้อย
จากประตูล่าสุดในพรีเมียร์ลีกที่ยิงได้ในเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 มีความพิเศษตรงที่ นี่คือประตูที่ 50 ของ ฮาแลนด์ ในพรีเมียร์ลีก
จากการบันทึกสถิติเอาไว้ ฮาแลนด์ กลายเป็นนักเตะที่ทำได้เร็วที่สุด ยิงถึงหลักครึ่งร้อย จากการลงสนามเพียง 48 เกมเท่านั้น
ความน่าทึ่งของ ฮาแลนด์ คือการทำลายสถิติเดิมแบบทิ้งขาด
แอนดี้ โคล อดีตศูนย์หน้าของหลายสโมสร อาทิ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือคนที่ทำได้เร็วที่สุดก่อนหน้านี้ ยิงครบ 50 ประตูจาก 65 เกม
ตามด้วย อลัน เชียเรอร์ เจ้าของสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก 260 ประตู ใช้เวลา 66 เกม ถึงยิงครบ 50 ประตู
หรือแม้แต่ รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่เคยสร้างปรากฏการณ์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ต้องใช้ 68 เกมในการยิงถึง 50 ประตู
จากประตูที่ 50 ในพรีเมียร์ลีกของ ฮาแลนด์ กลายเป็นประตูที่ 14 ในลีกซีซั่นนี้แล้ว ทิ้งห่างคู่แข่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของ ลิเวอร์พูล ออกไป 4 ประตู และมีแนวโน้มสูงที่จะคว้ารางวัลรองเท้าทองคำเอาไว้ได้อีกปี
ว่ากันด้วยเรื่องข้อมูลตัวเลขต่างๆ ของ ฮาแลนด์ ในฤดูกาลนี้ ค่าเฉลี่ยการทำประตูอยู่ที่ 1.13 ประตูต่อเกม การสร้างจังหวะยิงมากที่สุด 43 ครั้ง เข้ากรอบ 67 เปอร์เซนต์ และกลายเป็นประตู 33 เปอร์เซนต์
จาก 50 ประตูนี้มาจากการทำประตูในกรอบเขตโทษถึง 48 ประตู ในจำนวนนั้นเป็นการสังหารจุดโทษ 10 ประตู มีเพียง 2 ประตูที่ยิงจากนอกกรอบ
33 ประตูมาจากเท้าซ้ายข้างถนัด 6 ประตูมาจากเท้าขวา และอีก 10 ประตูมาจากลูกโหม่ง
หากการทำประตูของ ฮาแลนด์ อยู่ในเกณฑ์สม่ำเสมอแบบนี้ ก็มีโอกาสได้เห็นดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์เดินหน้าทำสถิติยิงครบ 100 ประตูเร็วที่สุดต่อไป
สถิติปัจจุบันเป็นของ อลัน เชียเรอร์ ยิงครบ 100 จาก 124 เกม ตามด้วย แฮร์รี่ เคน ที่ใช้ 141 เกม และตำนานของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ใช้เวลา 147 เกม
