:::     :::

วิกฤตใหญ่ของ ชลบุรี เอฟซี

วันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,863
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มองเห็นตารางคะแนนของฟุตบอลรีโว่ไทยลีก 2023-24 หลังผ่านโปรแกรมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วตกใจ โดยเฉพาะในโซนท้ายตาราง เมื่อ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี อดีตแชมป์ไทยลีก 2007 จมอยู่รองบ๊วย หลังเกมล่าสุดเปิดบ้านแพ้ให้ การท่าเรือ เอฟซี แบบหมดรูป 0-2 ทำให้พวกเขาแพ้ในลีก 4 เกมติดต่อกันแล้ว

ต้องยอมรับว่านี่คือฤดูกาลที่ยากลำบากและไม่ปกติของ “ฉลามชล” เพราะหากเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันพวกเขายังเบียดแย่งพื้นที่หัวตารางกับบิ๊กทีมเงินหนาอย่างสนุก 

อย่างที่ทราบกันดีว่าหลังจากทุกสโมสรในไทยลีก 1 ไม่ได้เงินค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ปีละ 20 ล้านบาท ทำให้สโมสรต้องหาเงินค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเอง นั่นส่งผลให้หลายสโมสรขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่ง ชลบุรี เอฟซี ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนั้น 

แต่ต้องชื่นชมทางบอร์ดบริหารทั้งคุณวิทยา คุณปลื้ม ประธานสโมสร และคุณอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสร ที่ยืนยันว่าพร้อมหาเม็ดเงินมาสนับสนุนทีมในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ 

พูดแล้วต้องทำให้ได้ พวกเขาลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการจ้างและแต่งตั้ง มาโกโตะ เทกุระโมริ กุนซือชาวญี่ปุ่นเข้ามาเป็นนายใหญ่ หวังเดินตามแนวทางเจแปนเวย์เต็มสูบ 

ทว่าทรัพยากรและวัตถุดิบของทีมที่มีอยู่ในมือไม่ได้มีคุณภาพสูงเหมือนดังเช่นวันวานที่ยังหวานอยู่ โดยเฉพาะแนวรับ 


ชลบุรี เอฟซี แทบไม่เคยขาดแคลนกองหลังสัญชาติไทยฝีเท้าดีเลยไม่ว่าจะเป็น ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, เกียรติประวุฒิ สายแวว, ชลทิตย์ จันทคาม, สุทธินันธ์ พุกหอม ล้วนประทับตราดีกรีทีมชาติไทยทั้งสิ้น 

หรือแม้แต่ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ที่เพิ่งอำลาทีมไปก็เคยเป็นถึงอดีตกัปตันทัพ “ช้างศึก“ ในยุค มิโลวาน ราเยวัช 

แต่ปีนี้แนวรับของทีมเปลี่ยนแทบจะยกแผง คุณภาพนักเตะแต่ละคนทั้งไทยและต่างชาติต้องยอมรับว่าต่ำกว่ามาตรฐานเดิมมาก

 ไม่แปลกที่ทีมจะเสียประตูง่ายทุกนัด ตอนนี้เสียไป 20 ตุง จาก 12 นัด 


ส่วนเกมรุกไม่ต้องพูดถึงวันนี้ “ฉลามชล” ไม่เหลือความดุดันแล้ว มูริลโล่ เฟรตาส กับ วิลเลียน ลิร่า แทบแบกทีมไม่ไหว เทียบไม่ติดกับพวก ไมเคิล เบิร์น, เนย์ ฟาเบียนโน่ หรือ ติอาโก้ คุนญ่า 

ด้าน ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว พรรษาลูกหนังยังน้อย แถมต้องไปช่วยทีมชาติไทยทั้งชุดเล็กชุดใหญ่ตลอด ทำให้ฟอร์มการเล่นไม่สม่ำเสมอ

ขณะที่ตัวสำรองต้องยอมรับว่าคุณภาพห่างจากตัวจริงมาก แถมแข้งยังบลัดจากอะคาเดมี่ไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ทัน 

ไม่แปลกที่ “โค้ชเทกุ” จะเข็น ชลบุรี ไม่ไหว จนต้องกล่าวซาโยนาระแล้วอำลาทีมไป 


ทาง ชลบุรี เอฟซี แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการดัน “โค้ชแบงค์” ณัฐวุฒิ วิจิตรเวชการ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน อดีตกุนซืออคาเดมี่ของทีมขึ้นมานั่งเก้าอี้นายใหญ่ขัดตาทัพระหว่างหาตัวเฮดโค้ชคนใหม่ แต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น 

ยิ่งสถานการณ์ตอนนี้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกเองยังทำเงินไม่ได้ตามเป้าหมาย นั่นทำให้เงินที่จะเข้าสู่สโมสรอาจมีสะดุด ทำให้ทีมอาจมีปัญหาการเงินอีกระรอก ซึ่งน่าจะส่งผลกับทีมในระยะยาว 

ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้เร็วที่สุดคือการขายผู้เล่นออกไป เหมือนที่เคยปล่อย วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ไปให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 

เมื่อมองจากขุมกำลังตอนนี้ กฤษดา กาแมน น่าจะเป็นนักเตะที่มีมูลค่ามากที่สุดของทีม แต่ในสภาวะแบบนี้จะมีทีมไหนทุ่มเงินซื้อกองกลางรายนี้ไปร่วมทัพ เพราะอย่าลืมว่าปีนี้ฟอร์มของ เจ้าและห์ เองก็ดร็อปลงไปไม่น้อย 


ถึงตรงนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ของ ชลบุรี ทั้งในและนอกสนามน่าเป็นห่วงจริงๆ หลายคนมองในแง่ร้ายถึงการกระเด็นตกชั้นเลย

 ไม่แปลกที่แฟนบอลจะคิดแบบนั้น เพราะในอดีตหลายทีมก็เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ ทีมใหญ่อย่าง โปลิศ เทโร หรือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็เคยหกล้มกระเด็นตกชั้นมาแล้ว ขนาดตอนนั้นขุมกำลังในทีมดีกว่า ชลบุรี เอฟซี ตอนนี้ด้วย 

อย่าลืมว่าในช่วงปีใหม่นี้เป็นต้นไป กฤษดา กาแมน หรืออาจจะมี ชาญณรงค์​ พรมศรีแก้ว อาจจะต้องไปช่วยทีมชาติไทย ชุดใหญ่ในเกมอุ่นเครื่องกับ ญี่ปุ่น ต่อด้วยฟุตบอลเอเชียน คัพ รอบสุดท้ายที่กาตาร์ 


ส่วนในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมศกหน้า ชลบุรี เอฟซี จะต้องเสียกำลังสำคัญหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ฉัตรมงคง เรืองฐนโรจน์, ทรงชัย ทองฉ่ำ, จักรพงษ์ แสนมะฮุง, บุคฆอรี เหล็มดี, พงศกร ตรีสาตร์, ชาญณรงค์​ พรมศรีแก้ว และ ยศกร บูรพา ไปให้กับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดทำศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้ายที่กาตาร์ เพื่อลุ้นตั๋วไปลุยโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 

แม้ช่วงเวลาดังกล่าวไม่ได้อยู่ในปฏิทินฟีฟ่าเดย์ที่ทางสโมสรมีสิทธิ์ที่จะไม่ปล่อยตัวนักเตะ แต่นโยบายของทีมยืนยันชัดเจนมาตลอดว่า ถ้าทีมชาติขอ ชลบุรี เอฟซี พร้อมเปิดไฟเขียวเสมอ 


แน่นอนว่าชาติได้ประโยชน์แน่ๆ แต่หากทีมยังสภาพร่อแร่ หนีจากโซนตกขั้นไม่ได้บอกคำเดียวว่าเหนื่อยแน่ เพราะขุมกำลังของทีมจะลดลงไปเยอะ หากมีนักเตะบาดเจ็บเพิ่มอีก บอกได้คำเดียวงานเข้าซวยซ้ำสอง 

ต้องยอมรับว่าวิกฤตใหญ่ครั้งนี้ของ ชลบุรี เอฟซี สาหัสจริงๆ หวังว่าพวกเขาจะไม่โชคร้ายถึงขั้นกระเด็นตกชั้น เพราะหากเกิดขึ้นจริง ฟุตบอลไทยลีกคงขาดสีสันไม่น้อย

ขอให้กลับสู้เส้นทางและหนีจากโซนตกชั้นเร็วๆ  สู้ๆ ครับ "ฉลามชล"


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด