การปราชัยต่อ อันท์เวิร์ป 2-3 ในเกมส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อวันพุธที่ผ่านมาส่งผลให้อุณหภูมิของเก้าอี้เทรนเนอร์ ชาบี เอร์นานเดซ สูงขึ้นทุกขณะ แม้ว่าตำแหน่งของเทรนเนอร์วัย 43 ปีจะได้รับการปกป้องไปจนกระทั่งจบซีซั่นนี้ก็ตาม แต่อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในวงการลูกหนัง

'ผมคิดว่าตัวเองสามารถพลิกสถานการณ์ได้ ผมมั่นใจว่าทีมจะพัฒนาขึ้น เชื่อใจผม (โจน) ลาปอร์ต้า (ประธานสโมสร) และ เดโก้ (ผู้อำนวยการกีฬา) มีความมั่นใจในตัวผม' ชาบี กล่าวหลังการปราชัยเกมล่าสุด

'วันนี้ เราใช้เวลา 2 ชั่วโมงพูดคุยกับ เดโก้ และ ประธานลาปอร์ต้า ไม่มีปัญหาอยู่ข้างใน ผมสบายดี คิดบวก มันไม่ใช่ว่าผมอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย' 

ตรงกันข้ามกับคำแถลงของ ชาบี หลัง เฟร์ราน การ์เรอัส นักข่าวของ 'เดียรีโอ สปอร์ต' อ้างว่าฝ่ายบริหารของ บาร์เซโลน่า เริ่มตั้งคำถามในความสามารถของเทรนเนอร์วัย 43 ปี แต่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้พูดถึงเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ 

การเปลี่ยนเทรนเนอร์ของ บาร์เซโลน่า ไม่ได้เกิดขึ้นจากการปั่นข่าวของสื่อมวลชนเท่านั้น แต่ข้อสงสัยเกี่ยวกับ ชาบี ยังหยั่งรากลึกกับบอร์ดบริหารบางคนของสโมสร ก่อนช่วงเบรคทีมชาติรอบล่าสุดและการปราชัยต่อ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก

ความกังวลเหล่านี้กลับมาปรากฎอีกครั้งหลังการพ่ายแพ้ต่อ คีโรน่า 2-4 แม้ว่าหลายอย่างจะดูดีขึ้นมาเมื่อ ชาบี นำทีมอาซูลกราน่าสยบ เอฟซี ปอร์โต้ และ แอตเลติโก มาดริด โดยเสียงวิพากษ์วิจารณ์มุ่งเป้าไปที่ผลการแข่งขันและผลงานของทีมที่ดร็อปลงชัดเจน 

อย่างไรก็ตามความรู้สึกเหล่านี้ได้รับการปกปิด และฝ่ายบริหารของ บาร์เซโลน่า ได้รับคำแนะนำเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนให้งดพูดคุยเรื่องเทรนเนอร์ในที่สาธารณะ

โจน ลาปอร์ต้า ประธานทีมอาซูลกราน่ายืนยันการสนับสนุน ชาบี แบบเต็มร้อย โดยตระหนักจากประสบการณ์ของเขาว่าในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ มันจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ของความสามัคคีเพื่อร่วมแรงร่วมใจกันนำทีมฝ่าฟันวิกฤต

ทว่าเป้าหมายนี้ยังไม่บรรลุผลอย่างเต็มที่โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดที่ บาร์เซโลน่า พลิกแพ้ อันท์เวิร์ป 2-3 ยิ่งตอกย้ำให้ฝ่ายบริหารอาจจะทำการบ้านเพื่อมองหาคนที่เหมาะสมมาทำงานแทน ชาบี 

ชาบี ทราบดีว่าตนเองกำลังตกอยู่ภายใต้ความกดดันมหาศาลและถูกตรวจสอบอย่างละเอียด หลังจากทำผลงานลุ่มๆดอนๆพ่ายแพ้มาตลอด 2 เกมล่าสุด 

แม้เทรนเนอร์วัย 43 ปีจะนำยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่าคว้าแชมป์ ลา ลีกา เมื่อ 6 เดือนก่อน แต่ด้วยผลงานที่น่าผิดหวังได้เพิ่มแรงกดดันกับเขา รวมถึงการสูญเสียแรงสนับสนุนจากฝ่ายบริหารบางส่วน และมีคำถามเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับความเหมาะสมของเขาสำหรับงานนี้ 

หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าอาจสร้างปัญหาให้ตำนานมิดฟิลด์ของทัพอาซูลกราน่าได้เช่นกัน

หาก บาร์เซโลน่า ตัดสินใจเลือกเส้นทางนั้น การค้นหาตัวแทนในช่วงกลางซีซั่นอาจเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ 'เดียรีโอ สปอร์ต' เปิดเผย 4 รายชื่อที่สโมสรอาจพิจารณาดึงมารับตำแหน่งเทรนเนอร์คนต่อไปในอนาคต

1.อันโตนิโอ คอนเต้

อดีตนายใหญ่ทีมชาติอิตาลี บอสเก่าของ ยูเวนตุส, เชลซี, อินเตอร์ มิลาน และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กำลังว่างงานอยู่ในปัจจุบัน หลังแยกทางกับทีมไก่เดือยทองในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่โค้ชวัย 54 ปีไม่ค่อยถูกจับเชื่อมโยงกับ บาร์เซโลน่า เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีปรัชญาฟุตบอลแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตามแท็คติกของ คอนเต้ มักจะนำความสำเร็จมาสู่สโมสรที่เขาทำงานด้วยเสมอ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่อยู่กับ ยูเวนตุส, เชลซี และ อินเตอร์ มิลาน แม้งานสุดท้ายที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้่ยม ไม่ได้จบด้วยดีก็ตาม แต่ คอนเต้ อาจเป็นแคนดิเดตที่น่าสนใจของทีมอาซูลกราน่า

2.ฮันซี่ ฟลิค

ฟลิค เป็นเทรนเนอร์คนที่สองที่นำต้นสังกัดคว้าแชมป์ระดับนานาชาติ 6 รายการร่วมกับ บาเยิร์น มิวนิค หลัง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นคนแรกที่ทำสำเร็จกับ บาร์เซโลน่า โดยภาพจำของเทรนเนอร์วัย 58 ปีคือการนำทีมเสือใต้คว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 1 ครั้ง, เดเอฟเบ ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้ง, แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้ง และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 ครั้ง

เขาออกจากมิวนิคเพื่อย้ายมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมนีในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 แต่สิ่งต่างๆไม่ได้เป็นไปด้วยดีสำหรับ ฟลิค จนกระทั่งเทรนเนอร์วัย 58 ปีถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังการคุมทีมลงสนาม 25 เกม ทำสถิตชนะ 12 เสมอ 7 แพ้ 6

จากผลงานในอดีตและแนวทางการทำทีมชอง ฟลิค อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่าเช่นกัน

3.โยอาคิม เลิฟ

อดีตบิ๊กบอสทีมชาติเยอรมนีชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 เขาแยกทางกับทัพอินทรีเหล็กในช่วงเดือนมิถุนายนปี 2021 หลังกุมบังเหียนมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2006 ทำสถิติคุมทีมลงสนาม 198 เกม ชนะ 124 เสมอ 40 แพ้ 34

อย่างไรก็ตาม เลิฟ ไม่ได้ทำงานระดับสโมสรมานานเกือบ 20 ปี นับตั้งแต่กุมบังเหียน ออสเตรีย เวียนนา เป็นทีมสุดท้ายในปี 2004 ก่อนจะย้ายไปรับตำแหน่งผู้ช่วยเทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมนีของ เจอร์เก้น คลินส์มันน์ 

แต่ความสำเร็จเขาทำกับทัพอินทรีเหล็ก นั่นทำให้ เลิฟ เป็นอีกตัวเลือกในการแก้ไขปัญหาระยะสั้นของ บาร์เซโลน่า ที่มีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน

4.แฟร้งค์ แลมพาร์ด

อดีตมิดฟิลด์ดาวดังทีมชาติอังกฤษเคยทำงานกุนซือกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้, เชลซี, เอฟเวอร์ตัน และกลับมาทำงานชั่วคราวกับทีมสิงห์น้ำเงินอีกครั้งในช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมา สื่อกาตาลันมองว่ากุนซือวัย 45 ปีมีประสบการณ์ในการทำงานภายใต้แรงกดดันกับสโมสรใหญ่ 

ทว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย หากพิจารณาผลงานในช่วงหลังของ แลมพาร์ด หาก บาร์เซโลน่า จะเลือก 'แลมพ์ส' มาดูแลทีมแม้จะเป็นการชั่วคราวก็ตาม สโมสรน่าจะปล่อยให้ ชาบี ทำงานไปจนจบฤดูกาลน่าจะดีกว่า

นอกจากบรรดารายชื่อที่กล่าวข้างต้นแล้วยังมีโค้ชอีก 2-3 รายที่สามารถเข้ามารับงานได้ทันทีอย่าง แกรม พ๊อตเตอร์ อดีตกุนซือ ไบรท์ตัน และ เชลซี กับ จูเลน โลเปเตกี อดีตนายใหญ่ทีมชาติสเปน ทว่ามันเป็นเพียงการคาดการณ์ของสื่อเท่านั้นโดยเฉพาะเคสของ โลเปเตกี ที่เคยทำงานกับ เรอัล มาดริด อาจไม่อยู่ในลิสต์ตัวเลือกของสโมสร