หลังจบเกม ชาบี เอร์นานเดซ ยอมรับว่า “บางทีเราอาจจะเป็นหนึ่งในทีมที่เฉียบคมน้อยที่สุดในยุโรป”
คำพูดของกุนซือวัย 43 ไม่เกินเลยความจริงแม้แต่น้อย เพราะมันสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเลข
เวลานี้ บาร์ซ่า คือทีมที่มีประสิทธิภาพการจบสกอร์อยู่ในลำดับที่ 58 เมื่อเทียบกับทุกทีมใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป (ลา ลีกา,พรีเมียร์ลีก,กัลโช่ เซเรีย อา,บุนเดสลีกา เยอรมัน และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส)
ลำดับที่ 58 นี้จาก 5 ลีกนี้ใช้สูตรคิดง่ายๆ โดยการเอาจำนวนครั้งของการยิงประตู กับจำนวนประตูที่ยิงได้มาหาค่าเฉลี่ย
ฤดูกาลนี้ทีมของ ชาบี ยิงได้ 31 ประตูจากความพยายามทั้งสิ้น 275 ครั้ง ซึ่งหมายความว่ากว่าจะขยับตัวเลขบนสกอร์บอร์ดได้แต่ละที แข้งอาซูลกราน่าต้องใช้การยิงมากถึง 8.87 ครั้งเลยทีเดียว
เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ผมขออนุญาตยกตัวอย่าง เคตาเฟ่ ของ โฆเซ่ บอร์ดาลาส แล้วกันครับ
คุณๆน่าจะพอจินตนาการถึง เคตาเฟ่ กันได้ว่าพวกเขาเป็นทีมในระดับไหน มีงบประมาณแต่ละปีมากหรือน้อย นักเตะแนวรุกของพวกเขาอย่าง บอร์ฆา มาโยรัล,การ์เลส อาเลนญ่า,ไฆเม่ มาต้า หรือ เมสัน กรีนวู๊ด จัดอยู่ในระดับใด
ตัวเลขออกมาว่า เคตาเฟ่ ใช้โอกาสยิง 9 ครั้ง จึงจะเป็น 1 ประตู
อีกสักทีม...เอาเป็น กรานาด้า ที่ตอนนี้รั้งอันดับ 19 ของตาราง เล่น 17 เก็บได้ 8 คะแนน ค่าเฉลี่ยของพวกเขาอยู่ที่ยิง 8.65 ครั้ง จะกลายเป็น 1 ประตู
ครับ อนุญาตให้คุณๆขยี้ตากันสัก 2 วินาที ประสิทธิภาพเกมรุกของ กรานาด้า ตอนนี้มีค่าเฉลี่ยดีกว่า บาร์ซ่า !!
ส่วนทีมที่มีประสิทธิภาพในการจบสกอร์แย่ที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปปัจจุบันคือ แกล์กมง ฟุต ใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่ยิงได้ 9 ประตูจากการยิง 187 ครั้ง คิดเป็นค่าเฉลี่ยยิง 20 ครั้งจึงจะเป็น 1 ประตู
ถ้าตรงนี้ ยังเห็นไม่ชัด ผมมีสถิติการยิงตรงกรอบของ บาร์ซ่า มาเป็นตัวเสริม
บาร์ซ่า คือทีมที่ยิงตรงกรอบเป็นลำดับที่ 40 ใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป พวกเขาต้องยิงถึง 3.45 ครั้งจึงจะเข้ากรอบ 1 ครั้ง เทียบกับ เรอัล เบติส ซึ่งก็แน่นอนว่าถูกมองว่าศักยภาพเกมรุกดูด้อยกว่า แต่ปรากฏว่าเกมรุกของ อิสโก้ และผองเพื่อนก็ยังใช้การยิงน้อยครั้งอยู่ที่ 3.32 ครั้งต่อการเข้ากรอบ 1 ครั้ง
นี่ยกมาแค่สถิติตัวเลขล้วนๆนะครับ ไม่ได้ลงลึกกันที่แท็คติกการเล่นแต่อย่างใด ซึ่งเกมฟุตบอลมันก็มีหลักง่ายๆ ถ้ายิงประตูไม่ได้ คุณก็ไม่มีสิทธิชนะ
หรือหากขาดความเฉียบคม ใช้โอกาสเปลือง ยิงได้น้อย คุณก็ชนะคู่ต่อสู้ได้ยากเป็นเงาตามตัว
เกมกับ บาเลนเซีย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา บาร์ซ่า ยิงขึ้นนำก่อน แต่ก็พลาดโอกาสสำคัญๆไปหลายครั้ง ซึ่งทุกลูกยิงที่พลาดเป้าไป มันคือการเปิดโอกาสให้ ‘ไอ้ค้างคาว’ ยังคงอยู่ในเกมตลอดเวลา
และสุดท้าย เมื่อฆ่าคู่ต่อสู้ไม่ตาย เพียงประตูเดียวพวกเขาจึงพลิกสถานการณ์กลับมาจนได้
ปัจจุบัน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ คือดาวซัลโวสูงสุดของ บาร์ซ่า เขายิงใน ลา ลีกา ไป 8 ประตู รองมาคือ เฟร์ราน ตอร์เรส (3 ประตู), ชูเอา เฟลิกซ์ (3 ประตู),ราฟินญ่า (2 ประตู),กุนโดกัน (2 ประตู)
นับเฉพาะ เลวานดอฟสกี้ ลา ลีกา ฤดูกาลที่แล้ว 17 นัดแรก เขายิงไป 14 ประตู ถือว่าแตกต่างชัดเจนนะครับ
เราปฏิเสธไม่ได้ว่าจำนวนประตูของ เลวี่ มีผลต่อการเก็บคะแนนของทีมสูงมาก และเมื่อ เลวี่ ดร็อปลงไป ความยากลำบากก็มาเยือน และยิ่งแย่เมื่อถัดจากหัวหอกโปลทั้งทีมไม่มีใครก้าวขึ้นแบ่งเบาภาระได้เลย
ก่อนหน้านี้ผมเขียนถึงเรื่องโอกาสรับบอลของ เลวี่ ในแต่ละเกมว่ามันน้อยลงมาก บางเกมแทบไม่มีส่วนร่วม ซึ่งนั่นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยของความแห้งแล้งนี้
แน่นอนว่า ชาบี ต้องรีบหาวิธีแก้ไขโดยด่วน เพราะธรรมชาติของเกมลูกหนังนั้นบ่งบอกชัดเจนอยู่แล้ว
“หากปราศจากประตู..สวรรค์ก็ไม่มีอยู่จริง” คิดจะประสบความสำเร็จ ก็ต้องคิดวิธีผลิตสกอร์ให้ออกครับ
เจมส์ ลา ลีกา
