:::     :::

ยุคใหม่ของ การท่าเรือ เอฟซี

วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
966
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถือว่าการลงจากตำแหน่งประธานสโมสร "การท่าเรือ เอฟซี" ของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ จบลงอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อ "สิงห์เจ้าท่า" เปิดบ้านแพท สเตเดี้ยม ถล่มเอาชนะ ราชบุรี เอฟซี ไปอย่างขาดลอย 3-0 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา

จากนั้น “มาดามแป้ง” ได้ส่งไม้ต่อตำแหน่งประธานสโมสรให้กับ “เฉลิมโชค ล่ำซำ” พร้อมแต่งตั้งน้องชายแท้ๆ อย่าง “สาระ ล่ำซำ” เป็นประธานกิตติมศักดิ์ ก่อนจะเดินหน้าลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อย่างเต็มตัว 

บิดเข็มนาฬิกากลับไป “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เปิดตัวเข้ามาเป็นประธานสโมสร การท่าเรือ เอฟซี เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 ก่อนก้าวลงจากตำแหน่ง วันที่ 25 ธันวาคม 2566 รวมเวลา 8 ปี 10 เดือน 


ตอนแรกไม่มีใครคาดคิดว่า “มาดามแป้ง” จะอยู่กับทีม “สิงห์เจ้าท่า” มาอย่างยาวนาน 9 ฤดูกาล เป็นเวลา 3,238 วัน อย่างที่ทราบกันดีว่าคนรวยมักจะเบื่อง่าย โดยเฉพาะการลงทุนกับฟุตบอลที่แทบจะหากำไรไม่ได้ 

ยิ่งผลงานของ “การท่าเรือ”​ ในวันวานไม่ได้สวยหรู แถมยังกระด็นตกชั้นไปเล่นในไทยลีก 2 เมื่อปี 2015 ยิ่งแทบไม่มีใครเชื่อว่า “มาดามแป้ง” จะอยู่จมหัวจมท้ายไปกับทีม 

สุดท้ายเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าเธอเอาจริง ไม่ทิ้งทีมในยามที่ยากลำบาก พาทีมขึ้นชั้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้ในปีต่อมา

เอาจริงๆ มีหลายอย่างที่ “มาดามแป้ง” ทำแล้วขัดใจแฟนบอลไม่น้อย แต่สำหรับ “การท่าเรือ” เธอถือเป็นผู้ชุบชีวิตทีมเลยก็ว่าได้ 


จากทีมที่เคยมีปัญหาการเงินจนเกือบโดนยุบทีมกลายมาเป็นทีม “เจ้าบุญทุ่ม” คว้านักเตะเกรดทีมชาติไทย และนักเตะต่างชาติฝีเท้าดีเข้ามายกระดับทีมจนได้ลุ้นแชมป์ทุกปี

ส่วนแฟนบอลที่เคยโดนทีมอื่นพูดจาถากถางได้เดินยืดอกอย่างสง่าผ่าเผย ในฐานะทีมหัวตารางหาใช่ทีมหนีตกชั้นเหมือนในอดีต

แม้ยังไม่สามารถคว้าแชมป์ไทยลีกได้ แต่ในยุคของ “มาดามแป้ง” ไม่ได้คว้าน้ำเหลว เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี เมื่อฤดูกาล 2019 และ ได้สิทธิ์ลงเล่นในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วง 4 ฤดูกาลหลังสุด

ส่วนในยุคใหม่ของ “บอสเฉลิมโชค” น่าสนใจทีเดียว เพราะประสบการณ์ในด้านฟุตบอลยังน้อย แม้เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานสโมสร การท่าเรือ เอฟซี ในช่วงปี 2019 ก็ตาม 


เชื่อว่าหาก “บอสเฉลิมโชค” ได้กุนซือหรือที่ปรึกษาที่ดี ได้คนฟุตบอลที่มีประสบการณ์มาช่วยงาน โอกาสที่จะยกระดับทีมให้สูงขึ้นไปทำได้ไม่ยาก เพราะตอนนี้ทีมอยู่ในสภาพที่ดีอยู่แล้ว

อันดับแรกเลยทีมต้องหาสนามฝึกซ้อมดีๆ มีมาตรฐาน มีห้องฟิตเนสดีๆ ให้นักกีฬาใช้ แทนที่สนามแพท สเตเดียม 

การใช้เงินไปจ้างฟิตเนสดังๆ สามารถทำได้เลย นั่นจะทำให้สนามแพท สเตเดียม มีความสมบูรณ์สวยงามในวันแข่งขันในบ้านยิ่งขึ้น 

ส่วนของทีมตอนนี้มี “บิ๊กแมน” ธัญญะ วงษ์นาค เป็นผู้จัดการทีมซึ่งมีประสบการณ์มากมายอยู่แล้ว คงไม่น่าเป็นห่วง 

เรื่องในสนาม “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เริ่มเปล่งประกายยอดกุนซือให้เห็นแล้ว เหลือแค่เก็บประสบการณ์อีกหน่อยทีมอร่อยเหาะแน่ 


ส่วนนักเตะเองก็อยู่ในช่วงอายุที่ไม่แก่หรือเด็กจนเกินไป เรียกว่ากำลังกลมกล่อม 

แถมมีตัวเลือกให้ใช้เยอะ หากหล่อหลอมสปิริตให้แกร่งขึ้นได้บอกเลยว่าน่ากลัว ยิ่งถ้ากล้าลงทุ่นกับนักเตะต่างชาติระดับเกรดเอ รับรองแชมป์ไทยลีก อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่ 

เพราะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กำลังถ่ายเลือดใหม่ ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังคงวุ่นวายและขุมกำลังเริ่มโรยรา ส่วน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ตัวจริงกับตัวสำรองคุณภาพยังห่างกันมาก 


หากวางแผนงานกันดีๆ มีเป้าหมายที่ชัดเจน ผู้บริหาร ทีมงานนักเตะสตาฟฟ์โค้ชมองภาพเดียวกัน สร้างสปิริตอันแรงกล้าไปด้วยกัน ยุคใหม่ของ การท่าเรือ เอฟซี มีโอกาสประสบความสำเร็จไม่น้อย 

บางทีอีกไม่กี่ปีข้างหน้าฝันของแฟนบอล “สิงห์เจ้าท่า” ที่จะได้เห็นทีมคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยแรก คงไม่ไกลเกินเอื้อม


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด