:::     :::

สิ่งที่อยากเห็นในเกมพบญี่ปุ่น

วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2566 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
3,838
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
2023 กำลังจะผ่านพ้นไป ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังเข้ามา

2024 อาจเป็นปีที่เริ่มต้นใหม่ของใครหลาย ๆ คน ทั้งชีวิตส่วนตัว ครอบครัว หรือหน้าที่การงานใหม่ ๆ

เช่นเดียวกับ มาซาทาดะ อิชิอิ

มาซะ เตรียมประเดิมงานใหม่ครั้งแรกในฐานะกุนซือทีมชาติไทย ด้วยการพาทัพช้างศึกบุกไปเยือน ทีมชาติญี่ปุ่น ประเทศบ้านเกิดของเขาเอง

เป็นการเริ่มต้นงานใหม่ สิ่งใหม่ ในวันปีใหม่ของ มาซะ

เพราะแม้กุนซือวัย 56 ปี จะมีประสบการณ์คุมทีมในเจลีก พาต้นสังกัดที่ทำงานเสกความสำเร็จได้มากมาย

แต่กับ “ทีมชาติ” นี่คือก้าวแรกของเขา ที่มาพร้อม “ความคาดหวัง” อย่างสูง สำหรับแฟนทีมชาติไทย




แฟนบอลอยากเห็น ทีมชาติไทย ถูกเขี่ยว ผสม ออกมาได้ลงตัวมากกว่ากุนซือคนที่ผ่าน ๆ มา หลายคนมองว่าทรัพยากรลูกหนังไทยในทีมชาติ สามารถทำผลงานได้ดีกว่านี้ หากมีโค้ชฝีมือดีเข้ามาช่วย

เหล่านี้คือสิ่งที่ มาซะ ต้องแบกไว้บนบ่า …. ตั้งแต่เกมพบญี่ปุ่น 1 ม.ค. นี้

ถามในมุมผู้เขียนคาดหวังอะไรจากเกมไปเยือน ญี่ปุ่น ในอีกไม่กี่ชั่วโมงที่จะถึง ?

พูดกันแบบไม่ตอแหลหรือเหนียมอายใด ๆ ผู้เขียนไม่ได้คิดเลยว่า ทีมชาติไทย จะเอาชนะ ญี่ปุ่นได้

อาจดูใจร้าย และถูกมองว่า “ไม่รักชาติ” ในมุมคนบางกลุ่ม แต่เรากำลังมองโลกแห่งความเป็นจริง

ทีมชาติญี่ปุ่น ปัจจุบันรั้งอันดับที่ 17 ของโลก ขณะที่ทีมชาติไทยอยู่อันดับ 113 ยังไม่ต้องนับถึงศักยภาพ ทรัพยากรผู้เล่น หรือการลงเล่นท่ามกลางสภาพอากาศเลขตัวเดียว

แม้ญี่ปุ่นชุดนี้จะขาดดาวดังอย่าง คาโอรุ มิโตมะ, เคียงโงะ ฟูรุฮาชิ, วาตารุ เอ็นโด, ไดเซ็น มาเอดะ, ทาเคฟุสะ คุโบะ หรือ ไดจิ คามาดะ ที่เป็นแกนหลักทีมในช่วงหลัง

แต่ก็ยังมีผู้เล่นที่ค้าแข้งในบุนเดสลีกา ลีกเอง เอเดวิซี ลีก รวมถึงผู้เล่นฝีตีนดีในประเทศติดทีมมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น อายาเสะ อูเอดะ (เฟเยนูร์ด), ทาคุมะ อาซาโนะ (โบคุ่ม), อาโอะ ทานากะ (ดุสเซลดอร์ฟ), เคย์โตะ นากามูระ, จุนยะ อิโตะ (แร็งส์), ทาคุมิ มินามิโนะ (โมนาโก)




การจะโดนถล่มถึง 5-6 ประตู จึงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกที่จะเกิดขึ้น เพราะต้องยอมรับโดยดุษฎีว่าเรายังตามหลังเขาอยู่หลายก้าว

แต่สิ่งที่เราอยากเห็นคือ ฟุตบอลที่เล่นกันอย่างเต็มที่ เป็นระบบ มีวิธีรูปแบบที่ชัดเจน ทั้งเกมรุกเกมรับ กล้าใช้งานผู้เล่นที่มี และใช้แมตช์นี้เป็นบททดสอบสำคัญ ในการเตรียมตัวสู่เอเชียนคัพที่จะถึงในต้นปีนี้

โอเคว่าจะมีติด ๆ ขัด ๆ บ้างไม่เป็นไร เพราะ อิชิอิ เองก็เพิ่งมีเวลาเข้ามาจูนทีมใหม่ และการเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นภายใน 1-2 เกม

เราอยากเห็นสิ่งที่กล่าวไปข้างต้นกับเกม พบ ญี่ปุ่น แพ้น้อยแพ้มากไม่เป็นไร (ไม่อาย)

แต่ต้องไม่ใช่ฟุตบอลที่สู้กับชาติใหญ่ ๆ แล้ว “โงหัวไม่ขึ้น” ต่อเกมไม่ได้ เล่นสะเปะสะปะ นักเตะขาดสมาธิ ลนลานไปหมด เล่นเหมือนรอโดนยิงประตูซ้ำแล้วซ้ำเล่า เก่งแค่แต่ในอาเซียน

เหมือนในยุคสมัยกุนซือคนก่อน ๆ

 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด