จนในที่สุดสามารถปักหลักเปนหนึ่งในนักเตะคนสำคัญของ มงต์เปลลิเย่ร์ 

แต่เส้นทางที่ว่าต้องผ่านสิ่งต่างๆ ทั้งการย้ายไปเล่นให้ นีมส์ และกลับมายัง มงต์เปลลิเย่ร์ สโมสรอันเป็นที่รัก แม้ว่าทั้งสองทีมจะเป็นอริไม่เผาผีกัน

นั่นคือเส้นทางสายลูกหนังที่ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า แต่สำหรับ ซาวานิเย่ร์ มันคือทางที่ตนเองเลือกที่ได้กลายมาเป็นตัวตนและจุดที่ตนเองยืน ณ ปัจจุบัน 

ระหว่างทางกว่าจะถึงตอนนี้ต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง ซึ่ง ซาวานิเย่ร์ มีโอกาสย้อนกลับไปมองถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ... 

ประตูที่ยอดเยี่ยมที่สุด

- ฟรีคิกที่ผมทำได้ในเกมปะทะลอริยองต์ ผมคิดว่าเป็นฤดูกาลที่ผ่านมา ฟรีคิกที่ยอดเยี่ยม ชนเสาเข้าประตู 

ความทรงจำที่ดีที่สุด

- ประตูแรกของผมกับมงต์เปลลิเย่ร์ ทำได้ในนาทีที่ 74 ของเกม มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ทำได้แบบนี้ ผมกับ อองดี้ เดอลอร์ และพวกเรามาจากเมืองมงต์เปลลิเย่ร์ ผมภูมิใจที่ทำประตูแรกของตนเองได้ในนาทีที่ 74 

ความทรงจำที่เลวร้าย

- แพ้ นีมส์ ในศึกดาร์บี้แมตช์ที่ สต๊าด เดอ ลา มอสซง พพวกเราก็แค่ทำผลงานที่แย่ออกมา ไม่ได้แสดงสร้างผลงานที่ดีให้เห็น นั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้น

เพื่อนร่วมทีมที่ดีที่สุด

- อองดี้ (เดอลอร์) สนิทกับผมอย่างมาก เขาเป็นพี่น้องของผม (เกิดปีเดียวกัน) ในสนามแข่งพวกเราเข้าใจกันได้ดีมากๆ มองตาก็รู้ใจ ความสัมพันธ์ของพวกเราวิเศษมากๆ ไม่ว่าจะในหรือนอกสนามแข่ง ในตอนลงสนามแค่มองตาก็เข้าใจกันแล้ว นั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก

คู่แข่งที่รับมือยากที่สุด

- เบนฌาแม็ง อองเดร ตลอดทั้งเกมเขาไม่ปล่อยให้คุณห่างจากเขาเลย เขาเหมือนกับสุนัขพิตบูล หายใจรดต้นคอคุณตลอดเวลา เขาเป็นนักเตะที่รับมือยากเวลาที่ดวลด้วย

บรรยากาศที่ยอดเยี่ยมที่สุด

- สต๊าด เวโลโดรม (รังเหย้า โอลิมปิก มาร์กเซย) บรรยากาศที่นั่นบ้ามากๆ คุณไม่ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมทีมที่ห่างออกไปเพียงแค่ 2 เมตรเลย ตอนที่คุณเห็นบรรยากาศผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ คุณคิดว่า 'โอ้ มันยอดมาก' แต่เมื่อคุณลงสนาม มันไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย มันบ้ามากๆ 

โค้ชที่มอบโอกาส

- แบร์กนาร์ บลาเกต์ (อดีตกุนซือนีมส์) เขาใช้งานผมในตำแหน่งหมายเลข 6 ตอนลงเล่นบนเวทีลีก เดอซ์ และจากนั้น ลีก เอิง พวกเรายังคงติดต่อหากันอยู่ เขาเป็นโค้ชที่ผมให้ความนับถืออย่างมาก ผมคิดว่าเขาช่วยให้ผมเป็นนักเตะที่ดีขึ้นกว่าเดิม