:::     :::

อิชิอิ เชฟปรุงทีมชาติไทย ให้อร่อยเหาะ

วันพุธที่ 17 มกราคม 2567 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,211
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทีมชาติไทย ประเดิมสนามในศึกลูกหนังเอเชียนคัพ 2023 ได้อย่างสวยหรู หลังเอาชนะ คีร์กิซสถาน ทีมอันดับ 98 ของโลก ด้วยสกอร์ 2-0 จากการเหมาคนเดียวของ ศุภชัย ใจเด็ด หัวหอกจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ทำให้ “เจ้าอาร์ม” ยิงประตูให้ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ไปแล้ว 7 ลูก แถมยิงประตูในเอเชียน คัพ รอบสุดท้าย รวม 3 ลูกแล้ว 

การที่เขาทำ 2 ประตู ยังทำให้เขาขึ้นไปเป็นดาวซัลโวในทัวร์นาเมนต์นี้เคียงข้าง ทาคุมิ มินามิโนะ จอมทัพ ทีมชาติญี่ปุ่น กับ อี คัง-อิน เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติ เกาหลีใต้ รวมถึง มุสซ่า ทามารี กับ มาห์มูด อัล มาดี้ ของจอร์แดน และ อัคราม อาฟิฟ ของ กาตาร์ พร้อมมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยม รอบแบ่งกลุ่มหลังผ่านเกมแรกไปเรียบร้อย


นอกจากนี้ ไทย ยังปลดล็อกสถิติสุดแย่มากว่า 52 ปี เมื่อสามารถคว้าชนะนัดเปิดสนามได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เอเชียน คัพ รอบสุดท้าย นับตั้งแต่ ปี 1972 ก่อนหน้านี้ 7 ครั้ง ไทย เสมอ 3 ครั้ง และ แพ้ 4 ครั้ง 

นี่ยังเป็นการเก็บชัยชนะนัดที่ 3 ในเอเชียนคัพ รอบสุดท้าย อีกด้วย แถมเก็บคลีนชีตในนัดเปิดสนาม ในศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ซาอุดิอาระเบีย เกือบเจ๊ง หลังโดน โอมาน นำก่อน แต่ลูกทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี พลิกยิงแซง 2 ประตู ในครึ่งหลัง จากการยิงของ อัลดุลลา การีบ และ อาลี อัล บูลาฮี ในช่วงทดเจ็บ เก็บ 3 แต้มแบบหืดจับ

ทำให้ ไทย นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เอฟ มี 3 แต้ม เท่ากับ ซาอุดิอาระเบีย แต่ลูกได้เสียดีกว่า แน่นอนว่าตอนนี้เรามีโอกาสผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์สูงทีเดียว 


การคว้าชัยชนะเกมนี้ ยังทำให้ ไทย ทำคะแนนเพิ่มเป็น 18.99 ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 105 บนฟีฟ่าแรงกิ้งอย่างไม่เป็นทางการอีกด้วย 

นอกจากนี้ทีมชาติไทย ยังได้เงินอัดฉีด จาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมที่ประกาศจ่ายแต้มละ 1 ล้าน ตอนนี้ ไทย ได้ 3 แต้ม ทำให้ได้เงินอุ่นๆ แล้ว 3 ล้านบาท

ต้องชมเชฟมากฝีมือจากญี่ปุ่น อย่าง อิชิอิ ที่ปรุงรสชาติวัตถุดิบนักเตะไทยที่มีอยู่ลงตัวอย่างกลมกล่อม 

กุนซือเลือดซามูไรใช้ “ความเข้าใจ” นำทาง โดยมีอดีตลูกทีมเก่าสมัยคุม สมุทรปราการ ซิตี้ และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงสนามเป็น 11 ตัวจริง ถึง 7 คนเป็นแกนหลัก 


ไล่ตั้่งแต่ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คำไหม กองหลังอย่าง ธีราทร บุญมาทัน กับ พรรษา เหมวิบูลย์ กองกลาง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และตัวรุก 3S สุภโชค สารชาติ และ ศุภชัย ใจเด็ด กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา 

ปฏิวัติ คำไหม พัฒนาฝีมือขึ้นมาก และฟอร์มสม่ำเสมอกับต้นสังกัด ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด รวมถึงการเซฟอันยอดเยี่ยมหลายจังหวะในเกมอุ่นเครื่องกับญี่ปุ่น

จังหวะออกมาตัดบอลโด่ง ทำได้ไร้ที่ติ และ การเปิดบอลเร็วยาว ทำได้แม่นมากๆ โดยเฉพาะจังหวะสาดยาวให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หลุดเดี่ยว จนแฟนบอล ไทย ยกไปเทียบกับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ยอดนายทวารทีมชาติบราซิลของ ลิเวอร์พูล 

นอกจากนี้ อิชิอิ ยังไม่ฝืนธรรมชาติ เลือกใช้นักเตะให้เข้ากับคู่ต่อสู้ที่ต้องเจอ คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ เอเลียส ดอเลาะ และ พรรษา เหมวิบูลย์ ตัวสูงใหญ่ เล่นลูกกลางอากาศดี ทำให้ได้ลงสนามก่อน กฤษดา กาแมน ทั้งคู่หลุดเกมรุกของ คีร์กิซสถาน อยู่หมัด โดยเฉพาะลูกกลางอากาศไม่พลาดเลย กองหน้าตัวเก่งอย่าง โจเอล โคโจ กับ มิคิ แมร์ก แทบหายไปจากเกม 


ส่วน นิโคลัส มิเคลสัน เล่นสมราคาแบ็คจากยุโรป มีทั้งเกมเร็ว แกร่ง เติมเกมรุกสุด ลงช่วยเกมรับสุด 

ขณะที่ ธีราทร วันนี้ใช้ความเก๋าและมันสมองจัดการแนวรุกคู่ต่อสู้ได้อย่างกลมกล่อม 

ขณะที่ แดนกลาง อิชิอิ สั่งให้ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และ วีระเทพ ป้อมพันธุ์คอยลงมารับบอลเพื่อแจกจ่ายให้บรรดาตัวรุกด้านบน พร้อมยังกำชับให้ตามติดคู่กลางของ คีร์กิซสถาน ทั้ง บัคติยาร์ ดุยโชเบคอฟ และ โอดิลซอน อับดูรัคมานอฟ จนทำเกมไม่ได้ แล้วบีบให้ คีร์กิซสถาน จ่ายบอลออกริมเส้น เมื่อจ่ายออกริมเส้นก็โดนนักเตะไทยวิ่งเพรสซิ่งชิงบอลคืนมา

คนที่โดนเด่นมากสุดในแผงห้องเครื่องต้องยกให้ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ที่เล่นได้แบบคลาสระดับเอเชีย เต็มไปด้วยความละเอียด เกมรับยืนคุมโซน ประกบคู่แข่งในแดนแดนกลาง 

ส่วนเกมรุกยังสร้างสรรค์เกมได้อย่างหมดจด จ่ายบอลง่าย นิ่ง และ ทุกครั้งที่จ่ายบอลล้วนแม่นยำ มีเปอร์เซ็นต์ จ่ายบอลสำเร็จ 81.8% ดวลตัวต่อตัวชนะ 5 จาก 9 ครั้ง และ ตัดบอล 2 ครั้ง


แบบนี้ทีมที่อยากตัว วีระเทพ คงต้องทุ่มเงินมากหน่อย คลาสบอลแบบนี้ 20 ล้านบาท ก็ต้องยอมจ่าย 

ขณะที่เกมรุกแม้ยังคลิ๊กไม่ติด และดูลนลานเกินไปในบางจังหวะ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประสบการณ์ในเวทีนานาชาติยังไม่จัดจ้าน แต่ภาพรวมถือว่าสอบผ่าน 

นอกจากนี้ต้องยอมรับว่า ศุภชัย ใจเด็ด ถูกโฉลกกับ อิชิอิ ยังกับมีพิมพ์เขียวคู่มือการใช้งานจริงๆ 

กุนซือรายนี้คือคนที่เค้นฟอร์มยิงประตูของ ศุภชัย ออกมาได้อย่างหมดจด จนกองหน้าวัยเบญจเพศ คว้าดาวซัลโวไทยลีก 19 ประตูเมื่อฤดูกาลที่แล้ว  โดยไม่มีลูกจุดโทษ


แม้ ศุภชัย จะไม่มีส่วนร่วมมากนัก แต่หากสังเกตุดีๆ เขามักจะยืนถูกที่ ถูกเวลา ทั้งการยิงบอลเข้าประตู แต่โดนริบจาก VAR คืน เขาก็ยืนว่างๆ อยู่เสาสองคนเดียว 

ส่วนจังหวะทำประตูได้ เขาก็ยืนอยู่ในจุดเผด็จศึก ที่สำคัญเลย ศุภชัย ไม่ต้องเล่นเปลืองตัว คอยใช้ร่างกายปะทะกับคู่แข่งตัวสูงใหญ่ แต่ใช้วิธีชิงไหวชิงพริบ หาพื้นที่ว่าง คอยสอดไปยิงประตู 

ที่สำคัญ อิชิอิ ยังให้นักเตะเพรสซิ่งเป็นจังหวะ ไม่ตะบี้ตะบัน สลับกับการยืนคุมโซน เพื่อเซฟพลังงานให้นักเตะเล่นได้ครบ 90 นาที แบบไม่มียุบ 

การเปลี่ยนตัวแต่ละครั้งล้วนมีความหมายทั้งสิ้น อาจยังไม่ถึงขั้นเปลี่ยนเกม แต่ก็มีการกำหนดที่ชัดเจนให้นักเตะแต่ละคนที่ลงไป ทำให้ทีมได้ประโยชน์และไม่เสียขบวน สปีดบอลก็เร็วขึ้น นักเตะเคลื่อนที่มากกว่าเดิม เกมรุกพยายามทำเร็ว เสียดายน่าจะยิงได้มากกกว่า 2 ประตู 


ตอนนี้ทีมชาติไทย มีเชฟที่เข้าใจวัตถุดิบของอาหาร และสามารถปรุงรสชาติฟุตบอลไทยให้นัวได้แล้ว หากรักษามาตรฐานแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ศรัทธาบอลไทย กลับมาได้ไม่ยากครับ

อีก 2 เกม ทำให้เต็มที่ และทำตามเป้าหมาย เพื่อทะลุเข้ารอบน็อคเอ้าท์ให้ได้ ส่วนจะให้ อิชิอิ คุมทีมยาวๆ เพื่อวางรากฐานหรือไม่เป็นเรื่องอนาคตต่อไป 

ตอนนี้ให้ อิชิอิ และนักเตะไทย ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน 

สู้ต่อไปไทยแลนด์ !!!


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด