แต่ช่วงแรกไม่ได้เป็นไปตามที่แนวรุกวัย 21 ปีคาดหวัง ซึ่งอย่าลืมว่า เปแอสเช เต็มไปด้วยขุมกำลังชั้นนำทำให้การแย่งตำแหน่งดุเดือดอย่างมาก
กระนั้นไอ้หนุ่ม บาร์โกล่า มุ่งมั่นทำตามที่ หลุยส์ เอ็นรีเก้ แนะนำ 'ทำงานหนักแล้วจะเห็นผลของมัน' จนในที่สุดกลายมาเป็นตัวจริงได้ลงสนามต่อเนื่อง
สถิติตอนนี้คือ 22 เกม 2 ประตูและ 3 แอสซิสต์ ทว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ บาร์โกล่า เพราะนักเตะปรารถนาเพิ่มตัวเลขให้ดีขึ้นรวมถึงจำนวนเวลาลงสนามที่ต้องการมากว่าเดิม
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการทำงาน เมื่อโค้ชลั่นวาจาออกมาแล้วว่าหากดีพอก็จะได้โอกาสส่งผล บาร์โกล่า ทุ่มเทเต็มที่เพื่อให้ถูกเลือกเป็น 11 คนแรก
บราดเลย์ รู้สึกอย่างไรบ้างที่เกมแรกของคุณในฐานะนักเตะ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง คือการดวลกับทีมเก่า โอลิมปิก ลียง?
"ยอดเยี่ยมจริงๆ และเป็นสิ่งที่พิเศษอย่างมาก ผมรู้เลยว่าจะไม่มีวันลืมเรื่องนั้น ผมเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้สัปดาห์เดียว และผมมีความตั้งใจที่จะลงเล่นเกมนั้น ดวลกับทีมเก่าของผม มันเป็นเรื่องที่จะอยู่กับผมตลอดไป"
แล้วรู้สึกกดดันหรือไม่เพราะคุณต้องดวลกับลียง?
"ไม่เลย ผมไม่มีความกดดันใดๆ เพราะตอนนั้นผมได้คุยกับโค้ช เขาบอกให้ผมลงสนามไปพร้อมกับจิตใจที่สงบนิ่ง ตอนที่คุณถูกส่งลงสนามเป็นเกมแรก คุณรู้ว่าพวกเขามีความเชื่อมั่นในตัวคุณมากเพียงใด ผมชอบสิ่งนั้นมากๆ และขอขอบคุณเขาเป็นอย่างยิ่ง"
จากนั้นลงตัวจริงนัดแรกในเกมปะทะ โอลิมปิก มาร์กเซย ...
"ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย ผมพยายามอย่างมากที่จะไม่สร้างแรงกดดันให้กับตัวเอง บอกกับตัวเองถึงเกมแรกในฐานะตัวจริง ได้ลงเล่นในรังแถมเป็นเกมใหญ่แบบนั้น ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว โค้ชบอกพวกเราว่าทุกๆ วันต้องทำงานในการซ้อมให้หนัก หากคุณทำได้ดีก็จะได้ลงเล่น นั่นคือสาเหตุว่าทำไมทุกๆ คนถึงทำงานกันเยอะมากและก็เป็นอย่างที่เขาพูดออกมา อายุไม่มีความสำคัญ หากดีพอก็จะได้ลงสนาม เรื่องมันก็แค่นั้น"
จำอะไรได้บ้างจากจังหวะทำแอสซิสต์แรกของตนเองในเกมดวล แบรสต์?
"มันเป็นประตูที่งดงมของ วาร์เรน (ซาอีร์-เอเมอรี่) และใช่ มันเป็นการทำแอสซิสต์ พูดตามตรงเลย มันเป็นประตูที่ดีมากๆ เมื่อคุณเป็นกองหน้า คุณถูกตัดสินจากการเล่น แต่สถิติก็มีความสำคัญอย่างมาก มันเป็นเรื่องสำคัญที่ทำแอสซิสต์ของตนเองได้สำเร็จ ผมลงเล่นเพื่อเอาชนะ ไม่ว่าจะการทำประตูหรือแอสซิสต์ ผมก็จะทำ"
จากนั้นทำประตูแรกให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในเกมปะทะ น็องต์ บอกเราเกี่ยวกับเรื่องนั้นหน่อย ...
"ตอนที่ผมได้บอลในพื้นที่ด้านกว้างลักษณะเช่นนั้น ผมชอบเล่นจังหวะชิ่ง 1-2 และผมรู้ว่ามันจะได้ผลในการเล่นกับ วิตินญ่า ดังนั้นผมจึงมีความสุขมากๆ ที่ทำประตูนั้นได้ แถมยังเกิดขึ้นใน ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ผมภูมิใจมากๆ และจะไม่ลืมมันเลย ทุกๆ อย่างเป็นไปด้วยดี ผมจัดการทำทุกๆ สิ่ง จับบอลได้ดี และแตะลากติดเท้าก่อนหวดเน้นๆ ผมชอบทุกๆ อย่างในจังหวะนั้น"
คุณยังคว้าแชมป์แรกในรายการ โทรเฟ่ เดส์ ช็องปียงส์ สิ่งนั้นมีความหมายกับคุณอย่างไรบ้าง?
"มันงดงามมาก เป็นแชมป์แรกของผม เพราะผมไม่เคยคว้าแชมป์ได้มากเท่าไหร่แม้แต่ในระดับเยาวชน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง ผมมีความสุขมากๆ แถมครอบครัวของผมยังอยู่บนอัฒจันทร์อีกด้วย คงขออะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว"
แถมคุณยังทำแอสซิสต์ในนัดดังกล่าวด้วย ...
"ต้องขอบอกว่ารู้สึกดีน้อยกว่าจังหวะทำแอสซิสต์ให้ วาร์เรน เพราะในเกมปะทะ ตูลูส ผมผ่านบอลให้ คีลียัน (เอ็มบั๊ปเป้) และเขาทำทุกๆ อย่างด้วยตัวเอง คุณรู้จัก คีลียัน รู้ว่าเขามีศักยภาพเพียงใด ดังนั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณผ่านบอลไปให้เขา คุณรู้ว่ามันสามารถกลายเป็นแอสซิสต์ได้ เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมในการเล่นร่วมกับเขา ได้ลงเล่นร่วมกับหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลก แถมเขายังเป็นผู้นำในสนาม เขาคุยกับพวกเราเยอะมากๆ ตรงไปตรงมา ผมมีความสุขที่ได้เล่นกับเขา เป็นเกียรติอย่างมาก"
คุณจะสรุปช่วง 6 เดือนแรกของตนเองในปารีสออกมาในรูปแบบใด?
"โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าตนเองพัฒนาขึ้นทีละน้อย เป็นเรื่องจริงที่ว่าช่วงแรกผมไม่ได้ลงเล่นมากเท่าไหร่ แต่ผมกำลังลงสนามมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม ผมคิดว่าพวกเรากำลังมาถูกทาง พวกเรากำลังทำในสิ่งที่โค้ชต้องการจากเราได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พวกเราเข้าใจแท็กติกการเล่นร่วมกัน และผมชอบวิธีการเล่นของทีมเป็นอย่างมาก"
